ซีพีผนึกกำลังพันธมิตร เปิดม่าน "งิ้วแต้จิ๋ว" Soft Power ระดับโลก ขับขานสานสัมพันธ์ไทย-จีน 50 ปี

ซีพีผนึกกำลังพันธมิตร เปิดม่าน "งิ้วแต้จิ๋ว" Soft Power ระดับโลก ขับขานสานสัมพันธ์ไทย-จีน 50 ปี

“งิ้วแต้จิ๋ว” เป็นศิลปะการแสดงเก่าแก่กว่า 590 ปี ที่มีต้นกำเนิดจากภาคใต้ของจีนในยุคราชวงศ์ซ่งและหยวน โดดเด่นด้วยเสียงร้องในสำเนียงแต้จิ๋ว การเคลื่อนไหวที่ประณีต ท่าทางที่เป็นระบบ ดนตรีพื้นบ้านอันไพเราะ และสีสันแห่งท้องถิ่นจนได้รับการขนานนามว่า “ดอกไม้แห่งภาคใต้” ซึ่งกลายเป็นมรดกวัฒนธรรมสำคัญและสายใยเชื่อมโยงจิตวิญญาณของชาวแต้จิ๋วทั่วโลก

80 ชีวิต กับการแสดง 7 วัน 7 เรื่อง ไม่ซํ้า โดยคณะกึงตังเตี่ยเกี๊ยะอี่อิ๊กท้วง คณะอุปรากรแต้จิ๋วอันดับ 1 จากจีน แสดงสด ดนตรีสด ร้องจริงทุกรอบ พร้อมคําบรรยายจีนและไทย พร้อมกันที่ทรู ไอคอน ฮอลล์  ไอคอน สยาม วันที่ 10–16 กรกฎาคม 2568 นี้

สรุปข่าว

เนื่องในโอกาสครบรอบ 50 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-จีน นาย “ธนินท์ เจียรวนนท์” ประธานอาวุโส เครือเจริญโภคภัณฑ์ พร้อมพันธมิตร ได้นำการแสดงศิลปะชั้นสูง “งิ้วแต้จิ๋ว” จากซัวเถา มณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีน มาจัดแสดงที่ไทย

“งิ้วแต้จิ๋ว” เป็นศิลปะการแสดงเก่าแก่กว่า 590 ปี ที่มีต้นกำเนิดจากภาคใต้ของจีนในยุคราชวงศ์ซ่งและหยวน โดดเด่นด้วยเสียงร้องในสำเนียงแต้จิ๋ว การเคลื่อนไหวที่ประณีต ท่าทางที่เป็นระบบ ดนตรีพื้นบ้านอันไพเราะ และสีสันแห่งท้องถิ่นจนได้รับการขนานนามว่า “ดอกไม้แห่งภาคใต้” ซึ่งกลายเป็นมรดกวัฒนธรรมสำคัญและสายใยเชื่อมโยงจิตวิญญาณของชาวแต้จิ๋วทั่วโลก

80 ชีวิต กับการแสดง 7 วัน 7 เรื่อง ไม่ซํ้า โดยคณะกึงตังเตี่ยเกี๊ยะอี่อิ๊กท้วง คณะอุปรากรแต้จิ๋วอันดับ 1 จากจีน แสดงสด ดนตรีสด ร้องจริงทุกรอบ พร้อมคําบรรยายจีนและไทย พร้อมกันที่ทรู ไอคอน ฮอลล์  ไอคอน สยาม วันที่ 10–16 กรกฎาคม 2568 นี้

แนะนำ คณะงิ้วกวางตุ้ง แต้จิ๋ว

คณะงิ้วกวางตุ้งแต้จิ๋ว ถูกก่อตั้งขึ้นในปี 1958, เป็นกลุ่มการแสดงที่มีตัวแทนมากที่สุดในโลกของวงการคณะงิ้ว นับตั้งแต่ก่อตั้งมา คณะงิ้วกวางตุ้งแต้จิ๋วได้รวบรวมศิลปินการแสดงที่โดดเด่นมากมาย เช่น เยาเสวียนเชียว และผู้ชนะรางวัล 3 คน ของการประกวด The China Theatre Plum Blossom Award  

ทางคณะละครได้มีการจัดแสดงละครที่ยอดเยี่ยมหลายร้อยเรื่อง ละครแบบดั้งเดิม ละครประวัติศาสตร์ที่ดัดแปลงใหม่ และละครสมัยใหม่ โดยมีละครที่เป็นตัวแทน  ได้แก่ "เฉินซานหวู่เหนียง" "ฉีหลางโจว" "ซู่หลิวเหนียง" “จางชุนหลางเซวียฟา” "เยียนฮวานู่วยวี้จวงเหยีวนหลาง" "วัดหูลู่" "ปาเป่ากับตี้ชิง" "อนุสรณ์สถานการปกครองอันมีคุณธรรม" "เจ้าหญิงตงอู่" "หยานเหนียง" "แม่ทัพแดง" "หลี่ซ่างหยิน" "ซู่เป่าเย่" "เสือปักลาย" เป็นต้น

คณะงิ้วกวางตุ้งแต้จิ๋ว มีละครยอดเยี่ยม ที่ได้รับรางวัลเกียรติยศมากมาย เช่น The Wenhua Award จากกระทรวงวัฒนธรรมแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน, รางวัลละครดีเด่นในเทศกาลละครจีน, รางวัลชนะเลิศในเทศกาลละครศิลปะกวางตุ้ง และรางวัลจากโครงการสำหรับการสร้างอารยธรรมทางจิตวิญญาณในมณฑลกวางตุ้ง พร้อมกับรางวัลเกียรติยศอื่น ๆ อีกมากมาย  

สำหรับบทละครเรื่อง “เจ้าหญิงแห่งตงอู” ได้รับรางวัลโครงการผลงานศิลปะเวทีแห่งชาติจากกระทรวงวัฒนธรรม(ในปี2006-2007) ส่วนละคร "ฮงจวินอามู่" ถูกจัดเป็นโครงการสนับสนุนการสร้างศิลปะเวทีใหญ่ระดับชาติ ปีงบประมาณ 2018 ของกองทุนศิลปะแห่งชาติ และละครเรื่อง เสือปักลาย ได้รับรางวัลชนะเลิศในรางวัลละครของรางวัล Tian Han Drama Award ครั้งที่ 35

นับตั้งแต่การก่อตั้งคณะละคร มีการแสดงในกรุงปักกิ่งหลายครั้ง และได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากผู้นำพรรคและรัฐบาลของประเทศจีน นอกจากนี้ยังไปแสดง และแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในต่างประเทศ และในพื้นที่ฮ่องกง มาเก๊า ไต้หวัน หลายครั้ง ได้รับความชมเชยอย่างกว้างขวาง

ทำความรู้จักงิ้วแต้จิ๋ว

การแสดงละครงิ้ว เมืองแต้จิ๋ว เป็นการผสมผสานเพลง และเนื้อร้องท้องถิ่นโบราณที่ร้องด้วยสำเนียงแต้จิ๋ว ตั้งชื่อตามพื้นที่ในมณฑลกวางตุ้งซึ่งเป็นพื้นที่ท้องถิ่นที่ก่อตั้งขึ้น โดยเป็นอีกพื้นที่ในการแสดงละครงิ้วในภาคใต้ สมัยราชวงศ์ซ่ง และหยวน ตามบันทึกในประวัติของละครงิ้วเฉาโจว ควรคำนวณตั้งแต่ละคร "ลิวซีปี๊ยต้ากำจี้" ในปี พ.ศ. 1974 (ค.ศ. 1431) จนถึงปัจจุบันมีอายุมากกว่า 590 ปี   

ดั้งเดิมของละครงิ้วแต้จิ๋วเป็นระบบ “จูไป่”  มีต้นกำเนิดจากการแสดงงิ้วทางภาคใต้ ของราชวงศ์ซ่งและหยวน  และต่อมารวมเข้ากับทำนองพื้นบ้านแต้จิ๋วและอุปกรณ์ประกอบการร้อง และพัฒนาเป็นการแสดงงิ้วอย่างอิสระ

เราสรุปความน่าสนใจของงิ้วแต้จิ๋ว ดังนี้ 

- ดนตรีร้องที่ไพเราะ และรูปแบบการแสดงที่มีความเป็นเอกลักษณะทางภูมิภาค ได้รับการขนานนามว่าเป็น "ดอกไม้แห่งภาคใต้

- งิ้วเมืองแต้จิ๋วไม่ว่าจะเป็นผู้ชาย ผู้หญิง นักแสดง และนักแสดงตลก แต่ละบทบาทมีเอกลักษณ์ เป็นการแสดงที่ละเอียด และมีชีวิตชีวา 

- งิ้วเมืองแต้จิ๋วมีเพลงพื้นบ้านมากกว่า 200 เพลง เป็นข้อมูลสำคัญในการศึกษาเสียงละครจีน

คณะงิ้วเฉาโจว

ภายหลังการก่อตั้งประเทศจีนใหม่ คณะงิ้วเฉาโจวได้ดำเนินการปฏิรูปงิ้วภายใต้การนำของพรรคคอมมิวนิสต์จีน ยกเลิกระบบนักแสดงเด็ก ก่อตั้งคณะงิ้วเฉาโจวมืออาชีพ และโรงเรียนเฉพาะเพื่อฝึกฝนบุคคลพร้อมทักษะในศิลปะละครและเพลงจีน  พร้อมฟื้นฟูตัวเองด้วยความมีชีวิตชีวา มีพลังแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน

ในปี 1956 คณะงิ้วเฉาโจวได้จัดแสดงที่ปักกิ่งเป็นครั้งแรก เรื่อง "เซาชวงฮุ้ย" ได้จัดแสดงที่หอประชุมเป่ยจิ่งหวายเหรินในกรุงปักกิ่ง โดยมี เหมาเจ๋อตง(Mao Zedong), หลิวเส้าฉี(Liu Shaoqi), โจวเอินไหล(Zhou Enlai)  ผู้นำพรรค และรัฐอื่น ๆ ได้เข้าร่วมชมการแสดง   

ในปี 1959 คณะงิ้วเฉาโจว ได้จัดแสดงที่ปักกิ่งเป็นครั้งที่สอง 

ในปี 1964 โลว รุ่ยชิง (Luo Ruiqing)  ได้ชมละครงิ้วเฉาโจว สมัยใหม่เรื่อง เจียง เจีย (Jiang Jie)  ซึ่งนำแสดงโดย เหยา ซวนชิว (Yao Xuanqiu) ในซัวเถา และจับมืออย่างเป็นกันเอง 

ในเดือนเมษายนปี 1980 ซี จงซวิน(Xi Zhongxun) ได้ชมละคร ชุนเชา ชวงถัง (Chuncao Chuangtang) ซึ่งแสดงโดย เหยา ซวนชิว(Yao Xuanqiu)  และคนอื่น ๆ ที่โรงละครมิตรภาพกวางโจว เมื่อพบกับนักแสดงหลังการแสดง เขากล่าวว่าคณะละครงิ้วเฉาโจว  สมควรที่จะเป็นดอกไม้ในภาคใต้ การแสดงที่ฮ่องกงในเดือนมีนาคมปีนี้ทำให้กวางตุ้ง สร้างเกียรติแก่กวางตุ้ง และยังทำให้ประชาชนมีความภาคภูมิใจเช่นกัน

เมื่อเดือนตุลาคม 2020 ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ได้ยกย่องสมบัติทางวัฒนธรรมของจีนอย่าง เหยา ซวนชิว (Yao Xuanqiu) และนักแสดงคณะงิ้วเฉาโจว เป็นอย่างมาก  ระหว่างการเดินทางตรวจเยี่ยมที่กวางตุ้ง   

เมื่อเช้าวันที่ 13 ตุลาคม นับเป็นครั้งที่สองที่ประธานาธิบดี และเลขาธิการฯ สี จิ้นผิงกล่าวถึง เหยา ซวนชิว(Yao Xuanqiu) หลังจากที่เขาได้เข้าร่วมคณะผู้แทนกวางตุ้งในการประชุมสมัชชาประชาชนแห่งชาติเมื่อเดือนมีนาคม 2014 

ที่ไหนมีกระแสน้ำ ที่นั่นมีคนแต้จิ๋ว ที่ไหนมีคนแต้จิ๋ว ที่นั่นมีงิ้วแต้จิ๋ว งิ้วแต้จิ๋วได้แพร่กระจายไปตามรอยเท้าของชาวแต้จิ๋วในมณฑลกวางตุ้งทางตอนตะวันออก มณฑลฝูเจี้ยนตอนใต้  ไต้หวัน ฮ่องกง เกาะไหหลำ คาบสมุทรเล่ยโจว และไปยังประเทศไทย สิงคโปร์ กัมพูชา เวียดนาม และสถานที่อื่น ๆ ที่ชาวจีนโพ้นทะเล และคนจีนอาศัยอยู่ 

รวมถึงยุโรป อเมริกา ออสเตรเลีย และประเทศและภูมิภาคอื่นๆ แสดงให้เห็นเสน่ห์อันเป็นเอกลักษณ์ของวัฒนธรรมดั้งเดิมอันยอดเยี่ยมของจีน ความงดงามของประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมจีน และกลายเป็นสะพานวัฒนธรรม สายสัมพันธ์ทางจิตวิญญาณที่เชื่อมโยงชาวแต้จิ๋วกว่า 30 ล้านคนในประเทศและต่างประเทศ

งิ้ว เรื่อง คืน 

คืนแรกพฤหัสบดีที่ 10 กรกฎาคม 2568

อำลาสามีที่สี่หนึ่งจิว (ยุทธภูมิสี่หนึ่งจิว)

ปลายรัชสมัยซ่ง ราชสำนักฟอนเฟะ กองทัพหยวนรุกรานจะเข้ายึดเมือง ฮ่องเต้ราชวงศ์ซ่งจึงต้องลี้ภัยระหกระเหินอยู่กลางทะเล จนไปตั้งค่ายที่ปากน้ำไหง ซึ่งอยู่ในเขตของ “เตียตั๊ก” ผู้บัญชาการเมืองแต้จิ๋ว 

แต่เพราะเตียตั๊กรู้ความเป็นไปในราชสำนัก จึงปฏิเสธที่จะถวายความภักดีต่อฮ่องเต้ซ่ง แต่ “ตั่งเปี๊ยะเนี้ย” ภรรยาเตียตั๊กโน้มน้าวเขาให้เห็นชาติเป็นสำคัญ ในที่สุดเตียตั๊กจึงยอมนำกองทหารอาสาออกรบต้านหยวน โดยเปี๊ยะเนี้ยเดินทางไปส่งยังชายฝั่งทะเล ในการสู้รบ ทหารหยวนโจมตีหนัก เตียตั๊กถูกจับ ทัพซ่งวอดวาย ทัพหยวนสั่งให้ยอมแพ้ 

ด้วยความรักชาติยิ่งชีพ หลังจากช่วยให้ชาวบ้านหลบหนีแล้ว เปี๊ยะเนี้ยปักหลักสู้ตายกับทหารหยวนจนถึงที่สุด

คืนที่ 2ศุกร์ที่ 11 กรกฎาคม 2568

มเหสีฮั่งบุ๊ง .. เรื่องย่อจากคณะอิกท้วง

พระเจ้าฮั่นเหวินตี้ทรงแต่งตั้ง “โต้วจี” เป็นฮองเฮา และทรงช่วยตามหาโต้วกว่างผิงน้องชายของโต้วจีที่พลัดพรากกันไป 12 ปีกลับมาได้ ในขณะที่พี่น้องกำลังดื่มด่ำกับความสุขที่ได้กลับมาพบกัน 

แต่โชคร้ายที่กว่างผิงถูกพ่อค้าเจ้าเล่ห์หลอกให้สังหารเจ้าหน้าที่บ้านเมือง และต้องโทษประหารชีวิต โต้วจี้ในฐานะฮองเฮา ต้องตกอยู่ท่ามกลางความขัดแย้งระหว่าง "ความรักพี่น้อง" กับ "กฎหมายบ้านเมือง" แม้จะเสียใจจนแทบขาดใจ แต่เพื่อธำรงไว้ซึ่งความยุติธรรม พระองค์จึงกราบทูลให้พระเจ้าเหวินตี้บังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด ฮ่องเต้จึงพระราชทานยาพิษให้กว่างผิงจบชีวิตตัวเอง 

โต้วจี้ร่ำลาน้องชาย เล่าถึงเรื่องราวในอดีต ชี้แจงความผิดและผลกระทบที่เกิดขึ้น จนกว่างผิงสำนึกผิด และยอมรับโทษอย่างสงบ

คืนที่ 3: เสาร์ที่ 12 กรกฎาคม 2568

กตัญญพลั้งพลาด  (สู้เพื่อศักดิ์ศรี/สะใภ้สู้อยุติธรรม / กตัญญูสู้อยุติธรรม/ฟ้ามีตา)

จอหงวน “โกวเค่งฮุ้ง” มารดาและ “เหี่ยเหง็กบ๊วย” ผู้ภรรยา อาศัยอยู่ในบ้านลุงผู้เป็นเสนาบดีเห่งเชียงเต๋า เสี่ยวสิ่วบุตรชายเสนาบดี ฉวยโอกาสที่เหง็กบ๊วยอธิษฐานขอพรยามค่ำคืนในสวน หมายจะลวนลาม แต่ถูกเหง็กบ๊วยขัดขืนขับไล่ 

แม่สามีได้ยินเสียงออกมาจะสอบถาม พลาดพลั้งถูกเสี่ยวสิ่วฆ่าตายเพื่อปิดบังความผิด เสนาบดีเชียงเต๋าปกป้องลูก โยนความผิดให้เหง็กบ๊วยในข้อหาสะใภ้ที่ฆ่าแม่สามี กลายเป็นนักโทษอย่างอยุติธรรม 

ในขณะที่เหง็กบ๊วยกำลังจะถูกประหาร โกวสิ่ง คนรับใช้ผู้ซื่อสัตย์ รุดมาเป็นพยานได้ทันเวลา เมื่อความจริงเปิดเผย เค่งฮุ้งซึ่งได้รับมอบหมายให้เป็นผู้พิพากษาในคดีนี้ ไม่เกรงกลัวต่ออำนาจของเสนาบดีใหญ่ จึงตัดสินประหารชีวิตเสี่ยวสิ่ว ผู้เป็นฆาตกรตัวจริง

คืนที่ 4: อาทิตย์ที่ 13 กรกฎาคม 2568

พระโมคคัลลานะโปรดมารดา .. เรื่องย่อจากคณะอิกท้วง

เรื่องราวทางพุทธศาสนาสายมหายาน เล่าถึงความกตัญญูของ”หมักเลี้ยง” (พระโมคคัลลานะ) ผู้ตั้งมั่นในคุณธรรมความดี หากแต่ “ลิ้วซี” มารดาของเขากลับฝ่าฝืนคำสอนของบรรพบุรุษ กดขี่ข่มเหงผู้อื่นจนต้องประสบเคราะห์กรรม ตกอยู่ในภาวะเป็นตายเท่ากัน 

หมักเลี้ยงตัดสินใจเดินทางไกลเพื่อช่วยมารดา ฝ่าฟันอุปสรรคอันตราย แม้แต่ดินแดนยมโลก ด้วยใจยึดมั่นในกตัญญู เขาใช้ความเพียรพยายามฝ่าด่านต่าง ๆ จนเหล่ายมทูตซาบซึ้งใจ และสามารถช่วยมารดาออกมาได้ในที่สุด

คืนที่ 5: จันทร์ที่ 14 กรกฎาคม 2568

องค์หญิงโป๊ยป้อและเต็กเช็ง

รัชสมัยซ่ง กองทัพจากไซแห่เข้ามารุกรานชายแดน “เอี่ยจงเป้า” แม่ทัพใหญ่แห่งเมืองซ่งพลาดท่า ถูกล้อมกรอบอยู่ที่ด่านไก้ไป๊ ทหารกล้า “เต็กเช็ง” นำทัพช่วยเหลือ แต่ระหว่างทางได้ล้ำเข้าเมืองเสี่ยงเสียง พันธมิตรของซ่งโดยไม่รู้ตัว

องค์หญิงโป๊ยป้อแห่งเสี่ยงเสียง พบเต็กเช็งวีรบุรุษสง่างาม บังเกิดความรักแรกพบและหมายจะให้เต็กเช็งเป็นราชบุตรเขย หากแต่เต็กเช็งยึดมั่นในหน้าที่ เป็นห่วงชายแดน จึงปฏิเสธการอภิเษก เมื่อทหารคนสนิทขโมยดาบและม้ามาได้ เต็กเช็งจึงรีบมุ่งไปชายแดนเพื่อช่วยแม่ทัพเอี่ยจงเป้า

เหตุการณ์รบคลี่คลาย แต่โป๊ยป้อแค้นเคืองเต็กเช็งหนีวิวาห์ พยายามจะนำตัวกลับเสี่ยงเสียงให้ได้ เต็กเช็งเกรงอาญาหากแต่งงานกับเจ้าหญิงต่างแคว้นโดยไม่ได้รับอนุญาตจากราชสำนัก ทั้งสองมีปากเสียงกัน แม่ทัพเอี่ยจงเป้าได้ข่าวจึงออกหน้ามาช่วยไกล่เกลี่ยให้ทั้งคู่เข้าใจกัน

คืนที่ 6: อังคารที่ 15 กรกฎาคม 2568 (รวมไฮท์ไลท์สำคัญ 10 เรื่อง

อาทิ หวนพบกันที่นครหลวง, สัญญารักในสวนดอกไม้  .. เรื่องย่อจากคณะอิกท้วง และ เปาบุ้นจิ้นขอขมา .. เรื่องย่อจากคณะอิกท้วง

คืนที่ 7พุธที่ 16 กรกฎาคม 2568 

พยัคฆ์ปักไหม ... เรื่องย่อจากคณะอิกท้วง

ผลงานการประพันธ์ของ กั๊วะ ฉีหง หนึ่งใน “สามเสาหลักแห่งวงการละครจีนร่วมสมัย” จากโรงละครศิลปะประชาชนปักกิ่ง กำกับโดย ศาสตราจารย์ลู่ อัง ประธานภาควิชาผู้กำกับแห่งสถาบันการละครเซี่ยงไฮ้ และแสดงนำโดย หลิน เอี้ยนอวิ๋น ศิลปินรางวัลเหมยฮวา และผู้แทนสภาประชาชนแห่งชาติ 

เรื่องราวดัดแปลงจากวรรณกรรมจีนอมตะ “สามก๊ก” โดยมี “เฉาจื้อ” กวีผู้มีพรสวรรค์แห่งปลายราชวงศ์ฮั่นเป็นตัวเอก “เสือปักไหม” เป็นสมญานามที่ “โจโฉ” ตั้งให้กับบุตรชายผู้นี้ เพื่อสื่อถึงความประณีตละเอียดอ่อน ทว่าทรงพลังดั่งเสือที่ปักด้วยไหมทอ

โจโฉวางแผนให้เฉาจื้อขึ้นครองราชย์ เพราะมีความสามารถทั้งบู๊และบุ๋น แต่ “เฉาพี” ลูกชายอีกคนหนึ่ง ผู้มีความทะเยอทะยานสูง ได้รับการสนับสนุนทางการเมืองเข้มแข็งกว่า ในที่สุด โจโฉเลือกเฉาพีเป็นผู้สืบทอดตำแหน่ง แม้เฉาจื้อและเฉาพีจะเป็นพี่น้องร่วมบิดาเดียวกัน แต่ก็มีนิสัยต่างกันสุดขั้ว เมื่อโจโฉสิ้นชีวิต เฉาพีขึ้นเป็นจักรพรรดิ แต่ก็หวาดระแวงน้องชายซึ่งได้รับความนิยมจากประชาชนมากกว่า จึงออกอุบายทดสอบเฉาจื้อ ให้แต่งบทกวีใน 7 ก้าว หากทำไม่ได้จะถูกประหาร นี่จึงเป็นที่มาของบทกวี “เถาถั่วเผาต้นถั่ว” ที่ลือลั่นในประวัติศาสตร์จีน 

บทละครนี้สะท้อนถึงการเรียกร้องให้ผู้คนในสังคมมี ความเข้าใจและเคารพซึ่งกันและกัน ทั้งยังส่องประกาย บุคลิกอันสง่างามของกวีผู้ยิ่งใหญ่คนหนึ่งในประวัติศาสตร์จีน งิ้วเรื่องนี้เป็นการเชื่อมโยงศิลปะดั้งเดิมของแต้จิ๋วกับแนวคิดร่วมสมัย ถ่ายทอดเสน่ห์ของวรรณกรรมคลาสสิกจีนอย่างลึกซึ้ง และผลักดันวัฒนธรรมจีนให้เดินหน้าสู่ความมั่นใจและเข้มแข็งยิ่งขึ้น เป็นผลงานที่เปิดบทใหม่ให้กับการพัฒนางิ้วแต้จิ๋วคุณภาพสูงในยุคปัจจุบัน

อุปรากร《绣虎》เรื่องนี้ได้รับรางวัลอันดับ 1 ประเภทบทละครเวที จากการประกาศผลรางวัลเถียนฮั่น (田汉戏剧奖) ครั้งที่ 35 เมื่อเดือนกันยายน 2021 ซึ่งถือเป็นรางวัลสูงสุดของวงการศิลปะการละครในประเทศจีน และนับเป็น งิ้วแต้จิ๋วเรื่องแรก จากภูมิภาคแต้จิ๋ว–ซัวเถาที่คว้ารางวัลอันทรงเกียรตินี้มาได้ เป็นการสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของวงการงิ้วแต้จิ๋ว

ที่มาข้อมูล : TNN Online

ที่มารูปภาพ : Handout