กัมพูชาสอดไส้ "วรรณกรรมไทย" อิเหนา-พระเวสสันดร ยื่นขอมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม จริงหรือไม่?

กัมพูชาสอดไส้ "วรรณกรรมไทย" อิเหนา-พระเวสสันดร ยื่นขอมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม จริงหรือไม่?

ไกรทอง พระสังข์ พระเวสสันดร อิเหนา รามเกียรติ์ นี่ล้วนเป็นชื่อวรรณกรรมไทย ที่เราอาจคุ้นเคยจากหนังสือเรียน แต่ทำไมถึงกลายเป็นวรรณกรรม ที่กัมพูชานำไปใช้เป็นส่วนหนึ่ง เพื่อยื่นขอมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมต่อยูเนสโก

เรื่องนี้ถูกเปิดเผยโดย เพจ ASEAN มองไทย ที่ตรวจพบว่า ย้อนไปเมื่อปี 2008 กัมพูชาได้ยื่นขอมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมต่อองค์การยูเนสโก คือ Royal Ballet of Cambodia หรือแปลไทย คือ ละครหลวงกัมพูชา 

นี่เป็นสาขาเดียวกับโขน รำโนราห์ และสงกรานต์ และชุดไทย ของไทย 

ประเด็นคือบทละคร / วรรณกรรม ประกอบการแสดงของกัมพูชา ดูเหมือนจะเป็นวรรณกรรมของไทย ไม่ใช่เพียงเรื่องสองเรื่อง แต่มากถึง 22 เรื่อง

สรุปข่าว

กัมพูชาได้ยื่นขอจดทะเบียนมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม "Royal Ballet of Cambodia" หรือละครหลวงกัมพูชา ต่อยูเนสโกเมื่อปี 2008 โดยในเอกสารระบุบทละคร/วรรณกรรมประกอบการแสดงถึง 22 เรื่อง ซึ่งตรงกับชื่อวรรณกรรมไทยที่คุ้นเคย เช่น ไกรทอง พระสังข์ พระเวสสันดร อิเหนา รามเกียรติ์ และพระสุธน-โนราห์ เหตุการณ์นี้สร้างความวิตกให้สังคมไทยว่าเป็นการ "สอดไส้" วรรณกรรมไทยเพื่อจดทะเบียนกรรมสิทธิ์ระดับสากล โดยเฉพาะเรื่องที่เป็นพระราชนิพนธ์ของพระมหากษัตริย์ไทย เช่น ไกรทองและอิเหนา (รัชกาลที่ 2) และพระสังข์ (รัชกาลที่ 1)

ไกรทอง พระสังข์ พระเวสสันดร อิเหนา รามเกียรติ์ นี่ล้วนเป็นชื่อวรรณกรรมไทย ที่เราอาจคุ้นเคยจากหนังสือเรียน แต่ทำไมถึงกลายเป็นวรรณกรรม ที่กัมพูชานำไปใช้เป็นส่วนหนึ่ง เพื่อยื่นขอมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมต่อยูเนสโก

เรื่องนี้ถูกเปิดเผยโดย เพจ ASEAN มองไทย ที่ตรวจพบว่า ย้อนไปเมื่อปี 2008 กัมพูชาได้ยื่นขอมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมต่อองค์การยูเนสโก คือ Royal Ballet of Cambodia หรือแปลไทย คือ ละครหลวงกัมพูชา 

นี่เป็นสาขาเดียวกับโขน รำโนราห์ และสงกรานต์ และชุดไทย ของไทย 

ประเด็นคือบทละคร / วรรณกรรม ประกอบการแสดงของกัมพูชา ดูเหมือนจะเป็นวรรณกรรมของไทย ไม่ใช่เพียงเรื่องสองเรื่อง แต่มากถึง 22 เรื่อง

เมื่อ TNN เข้าไปดูเอกสารตัวจริงในเว็บไซต์ของ UNESCO ก็พบเอกสารดังกล่าวจริง ๆ โดยในหน้า 28 นั้น มีรายชื่อบทละคร/วรรณกรรม 22 เรื่อง ซึ่งเมื่ออ่านเป็นภาษาไทยแล้ว กลับตรงกับชื่อวรรณกรรมไทยอย่างประหลาด อาทิ ไกรทอง พระสมุท พระสังข์ พระเวสสันดร อิเหนา รามเกียรติ์ พระสุธน-โนราห์ กากี สีดำลุยเพลิง เป็นต้น โดยมีระบุปีที่ประพันธ์บทละครและวรรณกรรมนั้นอย่างชัดเจน บางเรื่องระบุว่า ไม่แน่ชัดเรื่องเวลา 

สำหรับเรื่องนี้ถูกตั้งข้อสังเกตว่า นี่เป็นความพยายามของกัมพูชา เพื่อสอดไส้ของไทย เพื่อจดทะเบียนกรรมสิทธิ์ในระดับสากล เหมือนกรณีชุดไทยหรือไม่


อย่างไรก็ดี จากกรณีที่มีการตีข่าวว่า กัมพูชานำวรรณกรรมไทยไปยื่นขอมรดกภูมิปัญญาฯ จนเริ่มเกิดความเข้าใจผิด

ฟาริส โยธาสมุทร อาจารย์ภาควิชาวรรณคดี คณะมนุษยศาสตร์ ม.เกษตร โพสต์ให้ข้อมูลว่า 

กัมพูชาไม่ได้นำวรรณกรรมไทยไปยื่น แต่นี่เป็นรายชื่อการแสดงละครรำแบบเขมร ซึ่งจริง ๆ แล้ว ละครรำของราชสำนักเขมรได้อิทธิพลจากราชสำนักไทยไปในช่วงรัชกาลที่ 3 และเรียกว่า ละครพระราชทรัพย์ ที่สำคัญ การขึ้นทะเบียนละครรำของเขมร เป็นการขึ้นทะเบียนการแสดง ไม่เกี่ยวกับทะเบียนวรรณกรรม หากไทยจะนำวรรณกรรมเหล่านี้ไปขึ้นทะเบียน ก็สามารถทำได้ 

สอดคล้องกับที่ต่อมา กระทรวงวัฒนธรรมไทยชี้แจงว่า วรรณกรรมไม่เข้าข่ายการขึ้นทะเบียนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้

โดย วรรณกรรมที่เป็นบทละครในการแสดง The Royal Ballet of Cambodia สามารถแบ่งได้เป็น 2 ประเภท คือ

วรรณกรรมที่เป็นวัฒนธรรมร่วม: ได้รับอิทธิพลและมีการเผยแพร่ร่วมกันในหลายประเทศแถบภูมิภาคอาเซียนมาอย่างช้านาน เช่น รามเกียรติ์, ไกรทอง, อิเหนา, สังข์ทอง ซึ่งวรรณกรรมเหล่านี้ถูกนำไปใช้เป็นบทการแสดงนาฏศิลป์ในหลายประเทศ ไม่เพียงแต่กัมพูชาเท่านั้น

วรรณกรรมที่ประพันธ์โดยคนไทย: บางส่วนเป็นผลงานของนักประพันธ์ไทยตั้งแต่สมัยกรุงรัตนโกสินทร์ตอนต้น เช่น ไกรทอง พระสังข์ เป็นต้น และท้ายสุด การขึ้นทะเบียนมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม มีจุดมุ่งหมายเพื่ออนุรักษ์ ไม่ใช่แสดงความเป็นเจ้าของ

ที่มาข้อมูล : UNESCO, ASEAN มองไทย

ที่มารูปภาพ : UNESCO