เฉลิมชัย ศรีอ่อนลาออกหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เขย่าทิศทางพรรคเก่าแก่

เฉลิมชัย ศรีอ่อนลาออกหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เขย่าทิศทางพรรคเก่าแก่

วันที่ 12 กันยายน 2568 นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ตัดสินใจยุติบทบาทหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ โดยให้เหตุผลด้านสุขภาพว่าไม่สามารถทำงานได้อย่างเต็มศักยภาพ การลาออกครั้งนี้มีผลทันที และเปิดทางให้นายประมวล พงศ์ถาวราเดช รองหัวหน้าพรรคและประธาน ส.ส. ทำหน้าที่รักษาการตามข้อบังคับ

วันต่อมา พรรคประชาธิปัตย์จัดแถลงข่าวเพื่อชี้แจงต่อสาธารณะ โดยมีนางสาวเจนจิรา รัตนเพียร โฆษกพรรค ร่วมนายธนิตพล ไชยนันทน์ ผู้อำนวยการพรรค และนายเมฆินทร์ เอี่ยมสอาด กรรมการบริหารพรรค ยืนยันว่าการลาออกของนายเฉลิมชัยเป็นเหตุผลส่วนตัว ไม่ได้เกี่ยวข้องกับความขัดแย้งภายใน ขณะเดียวกันยังย้ำว่าความสัมพันธ์ระหว่างหัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรคยังเป็นไปด้วยดี

สรุปข่าว

“เฉลิมชัย ศรีอ่อน” ลาออกจากหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ มีผล 12 ก.ย. 2568 อ้างเหตุปัญหาสุขภาพ ส่งต่อให้นายประมวล พงศ์ถาวราเดช รักษาการ ขณะที่ กกต. กำชับแจ้งการเปลี่ยนแปลงภายใน 15 วัน การเปลี่ยนผู้นำครั้งนี้ถูกจับตาว่าจะกำหนดอนาคตพรรคเก่าแก่ในสมรภูมิการเมือง

วันที่ 12 กันยายน 2568 นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ตัดสินใจยุติบทบาทหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ โดยให้เหตุผลด้านสุขภาพว่าไม่สามารถทำงานได้อย่างเต็มศักยภาพ การลาออกครั้งนี้มีผลทันที และเปิดทางให้นายประมวล พงศ์ถาวราเดช รองหัวหน้าพรรคและประธาน ส.ส. ทำหน้าที่รักษาการตามข้อบังคับ

วันต่อมา พรรคประชาธิปัตย์จัดแถลงข่าวเพื่อชี้แจงต่อสาธารณะ โดยมีนางสาวเจนจิรา รัตนเพียร โฆษกพรรค ร่วมนายธนิตพล ไชยนันทน์ ผู้อำนวยการพรรค และนายเมฆินทร์ เอี่ยมสอาด กรรมการบริหารพรรค ยืนยันว่าการลาออกของนายเฉลิมชัยเป็นเหตุผลส่วนตัว ไม่ได้เกี่ยวข้องกับความขัดแย้งภายใน ขณะเดียวกันยังย้ำว่าความสัมพันธ์ระหว่างหัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรคยังเป็นไปด้วยดี

โฆษกพรรคระบุว่า ตามข้อบังคับ พรรคต้องจัดประชุมใหญ่เพื่อเลือกคณะกรรมการบริหารชุดใหม่ภายใน 60 วัน แต่ขณะนี้ยังไม่ได้กำหนดวันประชุม เนื่องจากการลาออกเป็นเหตุการณ์ไม่คาดคิดและเกิดขึ้นอย่างฉับพลัน

ด้านนายธนิตพล เสริมว่า ช่วงเวลาที่นายเฉลิมชัยลาออกนั้นอยู่ในจังหวะการเมืองที่เพิ่งคลี่คลายจากการจัดตั้งรัฐบาล พรรคเองกำลังเตรียมความพร้อมสำหรับการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นภายใน 4 เดือน ตามที่พรรคการเมืองใหญ่ตกลงกันไว้ จึงไม่มีใครคาดคิดว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงผู้นำในช่วงเวลานี้

นอกจากประเด็นภายใน พรรคยังต้องดำเนินการตามกฎหมาย โดยกกต. กำหนดให้ต้องแจ้งการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งหัวหน้าพรรคภายใน 15 วัน เพื่อให้สอดคล้องกับ พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 หากไม่ดำเนินการตามกำหนด อาจกระทบต่อสถานะทางการเมืองของพรรค

การลาออกของนายเฉลิมชัยจึงเป็นมากกว่าการเปลี่ยนผู้นำส่วนบุคคล แต่ยังเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่พรรคประชาธิปัตย์ต้องเผชิญ ทั้งในมิติการรักษาความเป็นเอกภาพ การสร้างความเชื่อมั่นจากประชาชน และการวางยุทธศาสตร์เพื่อแข่งขันกับคู่แข่งในสนามเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้

ที่มาข้อมูล : TNN

ที่มารูปภาพ : เฉลิมชัย ศรีอ่อน

บรรณาธิการออนไลน์