
ตัวเลขน่าจับตาหลังปิดด่านชายแดน
สถานการณ์ความตึงเครียดบริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา นอกจากจะส่งผลทางเศรษฐกิจแล้ว ยังทำให้การลักลอบเข้า–ออกเมืองพุ่งสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะในพื้นที่รับผิดชอบของหน่วยเฉพาะกิจอรัญประเทศ กองกำลังบูรพา ซึ่งเปิดเผยสถิติการจับกุมระหว่างวันที่ 17 มิถุนายน ถึง 25 กันยายน 2568 ว่า มีการสกัดจับผู้ลักลอบข้ามแดนถึง 140 ครั้ง รวมผู้ต้องหา 870 คน
สรุปข่าว
ตัวเลขน่าจับตาหลังปิดด่านชายแดน
สถานการณ์ความตึงเครียดบริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา นอกจากจะส่งผลทางเศรษฐกิจแล้ว ยังทำให้การลักลอบเข้า–ออกเมืองพุ่งสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะในพื้นที่รับผิดชอบของหน่วยเฉพาะกิจอรัญประเทศ กองกำลังบูรพา ซึ่งเปิดเผยสถิติการจับกุมระหว่างวันที่ 17 มิถุนายน ถึง 25 กันยายน 2568 ว่า มีการสกัดจับผู้ลักลอบข้ามแดนถึง 140 ครั้ง รวมผู้ต้องหา 870 คน
รายละเอียดสถิติการจับกุม
- ขาเข้า จับกุม 107 ครั้ง ผู้ต้องหา 626 คน ส่วนใหญ่เป็นชาวกัมพูชา 370 คน และชาวไทย 215 คน ที่เหลือเป็นชาวเมียนมา 20 คน จีน 6 คน ไนจีเรีย 6 คน บังกลาเทศ 7 คน และปากีสถาน 2 คน รวมถึงผู้มีหมายจับค้างเก่าและผู้เกี่ยวข้องกับคดีอาชญากรรม
- ขาออก จับกุม 33 ครั้ง ผู้ต้องหา 246 คน กลุ่มใหญ่คือชาวไทย 139 คน และชาวกัมพูชา 102 คน สะท้อนให้เห็นว่าการลักลอบไม่ได้จำกัดแค่การเข้ามา แต่ยังมีการลักลอบออกนอกประเทศด้วย
เมื่อแยกตามสัญชาติ พบว่า ชาวกัมพูชา 472 คน และ ชาวไทย 354 คน คิดเป็นเกือบ 95% ของทั้งหมด นอกนั้นเป็นชาวต่างชาติ เช่น เมียนมา เซียร์ราลีโอน จีน ไนจีเรีย บังกลาเทศ และปากีสถาน
ปัญหาการลักลอบและการขนของผิดกฎหมาย
นอกจากการลักลอบเคลื่อนย้ายแรงงานแล้ว เจ้าหน้าที่ยังตรวจยึดของผิดกฎหมายหลายรายการ เช่น ซิมโทรศัพท์มือถือจำนวนมาก รถจักรยานยนต์ และสินค้าอุปโภคบริโภค ซึ่งเป็นหลักฐานว่ามีการใช้ช่องทางลักลอบเพื่อทำธุรกิจผิดกฎหมายควบคู่ไปด้วย
แหล่งข่าวระบุว่า แรงงานกัมพูชาจำนวนมากเลือกเสี่ยงเดินทางเข้ามาในไทย เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจในประเทศถดถอย งานขาดแคลน และรายได้ไม่เพียงพอ ประกอบกับปัญหาการเมืองและการทหารที่ตึงเครียด ทำให้ประชาชนต้องดิ้นรนหาช่องทางทำมาหากิน แม้จะเสี่ยงต่อการถูกจับกุมหรือสูญเสียทรัพย์สินก็ตาม
ความท้าทายต่อความมั่นคงชายแดน
ตัวเลขที่พุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่องภายในระยะเวลาเพียง 3 เดือน ถือเป็นสัญญาณเตือนต่อความมั่นคงของพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยเฉพาะอำเภออรัญประเทศ ซึ่งเป็นด่านสำคัญในการสัญจรและการค้า การปิดด่านแม้จะเป็นมาตรการด้านความมั่นคง แต่กลับทำให้การลักลอบเพิ่มสูงขึ้น และกลายเป็นช่องทางให้เครือข่ายอาชญากรรมใช้ประโยชน์
กองกำลังบูรพาเน้นย้ำว่า จะต้องเพิ่มความเข้มงวดทั้งการลาดตระเวน การข่าว และการบังคับใช้กฎหมาย เพื่อสกัดกั้นการลักลอบข้ามแดนที่อาจกระทบทั้งความปลอดภัยของประชาชนและเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศ
- กองกำลังบูรพาชี้แจง “อพยพพลเรือนออกจากชายแดน” เป็นเอกสารปลอม
- สื่อกัมพูชาเผย แรงงานที่กลับจากไทย หางานได้แค่ 20% อีกครึ่งล้านยังว่างงาน
- เปิดเหตุผลแรงงานกัมพูชา เลือกกลับประเทศ แม้ชีวิต-งาน ดีในไทย
- "ซอยกีบหมู" ในวันที่ร้าง "แรงงานกัมพูชา" วิกฤตนายจ้าง หรือโอกาสแรงงานชาติอื่น?
- รัฐบาล "กัมพูชา" เพิ่มอำนาจ ออกกฎหมาย "ถอดสัญชาติ" พลเรือน ทำแรงงานกัมพูชาแห่กลับ
ที่มาข้อมูล : TNN
ที่มารูปภาพ : กองกำลังบูรพา
บรรณาธิการออนไลน์
