ศุภจี แจงนโยบายพาณิชย์ต่อสภา ชูแก้ปัญหาสินค้า–พยุงราคาข้าว–ลดค่าครองชีพ

ศุภจี แจงนโยบายพาณิชย์ต่อสภา ชูแก้ปัญหาสินค้า–พยุงราคาข้าว–ลดค่าครองชีพ

วันที่ 29 ก.ย. ที่ประชุมรัฐสภา นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ลุกชี้แจงนโยบายเศรษฐกิจเป็นครั้งแรก โดยระบุถึงทิศทางการค้าต่างประเทศว่า ไทยจำเป็นต้องเร่งเจรจากับประเทศคู่ค้า โดยเฉพาะสหรัฐฯ ที่มีสัดส่วนสำคัญต่อเศรษฐกิจไทย รัฐบาลตั้งเป้าภายใน 4 เดือนต้องขับเคลื่อนการเจรจา ART และเดินหน้าข้อตกลงการค้าเสรี (FTA) ไทย–อียู และ ไทย–เกาหลีใต้

มาตรการสำคัญที่ถูกหยิบยก ได้แก่ การแก้ปัญหาการสวมสิทธิ์ถิ่นกำเนิดสินค้า โดยรวมศูนย์การออกหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้า (C/O) ไว้ที่กระทรวงพาณิชย์ พร้อมยกระดับระบบตรวจสอบ ปรับบัญชีรายการสินค้าส่งออกไปสหรัฐฯ จาก 49 รายการเป็น 65 รายการ และเตรียมแนวทางปฏิบัติร่วมกับหอการค้า สมาคมอุตสาหกรรม และตลาดทุน เพื่อสร้างความมั่นใจให้ผู้ประกอบการ


สรุปข่าว

รมว.พาณิชย์ ศุภจี สุธรรมพันธุ์ ชี้แจงสภา เร่งแก้สินค้าผิดกฎหมาย ป้องกันสวมสิทธิ์การค้า พยุงราคาข้าวและสินค้าเกษตร หนุน SME ขยายตลาดใหม่ ควบคุมค่าครองชีพ และเพิ่มรายได้ประชาชน เพื่อเสริมความมั่นคงและการแข่งขันของเศรษฐกิจไทย

วันที่ 29 ก.ย. ที่ประชุมรัฐสภา นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ลุกชี้แจงนโยบายเศรษฐกิจเป็นครั้งแรก โดยระบุถึงทิศทางการค้าต่างประเทศว่า ไทยจำเป็นต้องเร่งเจรจากับประเทศคู่ค้า โดยเฉพาะสหรัฐฯ ที่มีสัดส่วนสำคัญต่อเศรษฐกิจไทย รัฐบาลตั้งเป้าภายใน 4 เดือนต้องขับเคลื่อนการเจรจา ART และเดินหน้าข้อตกลงการค้าเสรี (FTA) ไทย–อียู และ ไทย–เกาหลีใต้

มาตรการสำคัญที่ถูกหยิบยก ได้แก่ การแก้ปัญหาการสวมสิทธิ์ถิ่นกำเนิดสินค้า โดยรวมศูนย์การออกหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้า (C/O) ไว้ที่กระทรวงพาณิชย์ พร้อมยกระดับระบบตรวจสอบ ปรับบัญชีรายการสินค้าส่งออกไปสหรัฐฯ จาก 49 รายการเป็น 65 รายการ และเตรียมแนวทางปฏิบัติร่วมกับหอการค้า สมาคมอุตสาหกรรม และตลาดทุน เพื่อสร้างความมั่นใจให้ผู้ประกอบการ


ด้านการปลอมแปลงเอกสาร C/O มีการยืนยันว่าปี 2567 พบเพียง 5 ฉบับ จากกว่า 3 แสนฉบับ และในปี 2568 ยังไม่พบการปลอมแปลง เนื่องจากใช้ระบบดิจิทัลที่ตรวจสอบได้ตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทาง ขณะเดียวกันได้พัฒนา “ระบบตอบโต้การทุ่มตลาดด้วย AI” ที่ช่วยลดเวลาพิจารณาคำร้องจาก 4 เดือน เหลือเพียง 1 เดือน

ในประเด็นคุ้มครองผู้บริโภค กระทรวงพาณิชย์เข้มงวดกับสินค้านำเข้ามูลค่าต่ำกว่า 1,500 บาท โดยเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม และดำเนินมาตรการตรวจสอบมาตรฐานสินค้ากว่า 8 หมื่นคดี รวมถึงจัดการสินค้าผิดกฎหมายบนแพลตฟอร์มออนไลน์กว่า 5 หมื่นรายการ ผ่านมาตรการ Notice & Takedown เพื่อปกป้องผู้ผลิตไทย

รมว.พาณิชย์ยังชี้แจงถึงการสนับสนุนผู้ประกอบการรายย่อยและ SMEs ด้วยการขยายตลาดใหม่ไปยังเอเชียใต้ ตะวันออกกลาง แอฟริกา และลาตินอเมริกา ควบคู่มาตรการลดค่าครองชีพ เช่น โครงการมหกรรมธงฟ้า และการดูแลราคายา–เวชภัณฑ์ เพื่อบรรเทาภาระด้านสุขภาพ


ในส่วนสินค้าเกษตร รัฐบาลเตรียมแผนระยะยาวในการบริหารอุปสงค์–อุปทาน โดยเฉพาะสถานการณ์ข้าวที่ยังเหลือในสต๊อกกว่า 25.3 ล้านตัน แต่ต้องบริหารจัดการเพียง 1.8 ล้านตัน เพื่อไม่ให้กระทบเสถียรภาพราคา พร้อมย้ำการผลักดันใช้สิทธิประโยชน์จาก FTA และสร้างศักยภาพแข่งขันให้กับเกษตรกรไทย

นอกจากนี้ ยังประกาศเตรียมลงพื้นที่ 7 จังหวัดชายแดนไทย–กัมพูชา ได้แก่ สุรินทร์ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี บุรีรัมย์ สระแก้ว จันทบุรี และตราด จัดมหกรรมการค้าชายแดนเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการ เพิ่มช่องทางตลาด ส่งเสริมการส่งออก และกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่

ที่มาข้อมูล : TNN

ที่มารูปภาพ : TNN

บรรณาธิการออนไลน์