
30 กันยายน เวลา 09.30 น. บรรยากาศการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเต็มไปด้วยความตึงเครียด หลังนายอนุทิน ชาญวีรกุล นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ลุกขึ้นชี้แจงกรณีถูกฝ่ายค้านตั้งคำถามเรื่องความสัมพันธ์กับสมเด็จ ฮุน เซน อดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา รวมถึงเบื้องหลังการถอนตัวของพรรคภูมิใจไทยจากรัฐบาลแพทองธาร ชินวัตร
นายอนุทินเปิดเผยว่า ระหว่างดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เคยได้รับสัญญาณว่าจะถูกปรับออกจากตำแหน่ง และในที่สุดได้รับการแจ้งจากนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีว่า พรรคเพื่อไทยต้องการควบคุมกระทรวงมหาดไทย พร้อมเสนอให้ตนย้ายไปนั่งเก้าอี้กระทรวงสาธารณสุขแทน ซึ่งมองว่าเป็นการกดดันให้พรรคภูมิใจไทยถอนตัวจากรัฐบาลมากกว่า
สรุปข่าว
30 กันยายน เวลา 09.30 น. บรรยากาศการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเต็มไปด้วยความตึงเครียด หลังนายอนุทิน ชาญวีรกุล นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ลุกขึ้นชี้แจงกรณีถูกฝ่ายค้านตั้งคำถามเรื่องความสัมพันธ์กับสมเด็จ ฮุน เซน อดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา รวมถึงเบื้องหลังการถอนตัวของพรรคภูมิใจไทยจากรัฐบาลแพทองธาร ชินวัตร
นายอนุทินเปิดเผยว่า ระหว่างดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เคยได้รับสัญญาณว่าจะถูกปรับออกจากตำแหน่ง และในที่สุดได้รับการแจ้งจากนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีว่า พรรคเพื่อไทยต้องการควบคุมกระทรวงมหาดไทย พร้อมเสนอให้ตนย้ายไปนั่งเก้าอี้กระทรวงสาธารณสุขแทน ซึ่งมองว่าเป็นการกดดันให้พรรคภูมิใจไทยถอนตัวจากรัฐบาลมากกว่า
ต่อมาเลขาธิการนายกรัฐมนตรีได้ยืนยันชัดว่าเป็น “ไพ่ใบสุดท้าย” ที่ต้องย้ายไปกระทรวงสาธารณสุข ทำให้พรรคภูมิใจไทยตัดสินใจถอนตัว ขณะเดียวกันยังเกิดกระแสคลิปเสียงที่ถูกเผยแพร่ในสังคม สร้างข้อกังขาต่อความชอบธรรมของรัฐบาลชุดดังกล่าว หลังจากพ้นจากตำแหน่ง พรรคภูมิใจไทยจึงเข้าร่วมกับพรรคประชาชน ทำหน้าที่ฝ่ายค้าน พร้อมลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ร่วมกัน กำหนดกรอบสำคัญคือ การยุบสภาภายใน 4 เดือน การผลักดันการแก้รัฐธรรมนูญ และการยอมรับสถานะฝ่ายค้านเสียงข้างน้อย
สำหรับข้อกล่าวหาเรื่องความสัมพันธ์กับสมเด็จ ฮุน เซน นายอนุทินยืนยันว่า เป็นเพียงการพบปะเชิงมารยาททางการเมือง ไม่มีการแทรกแซงกิจการภายใน และไม่ก่อให้เกิดผลประโยชน์ต่อพรรคหรือส่วนตัว ทุกการพบปะกับผู้นำประเทศเพื่อนบ้านล้วนเพื่อผลทางการทูตและความร่วมมือระหว่างประเทศ
นอกจากนี้ นายอนุทินยังโต้กลับข้อกล่าวหาของ น.ส.จิราพร สินธุไพร ส.ส.เพื่อไทย ที่เรียกตนว่าเป็น “ผู้ต้องหา” โดยย้ำว่าตนเป็นเพียง “ผู้ถูกแจ้งข้อกล่าวหา” และกำลังต่อสู้คดีในศาล จึงขอให้ถอนคำพูดที่อาจทำให้สังคมเข้าใจผิด พร้อมประกาศหนักแน่นว่า ไม่เคยใช้อำนาจใด ๆ เพื่อช่วยเหลือผู้ทำผิดกฎหมาย และยินดีให้ตรวจสอบได้ทุกประเด็น
แม้มีการประท้วงกลางห้องประชุมว่าการชี้แจงของนายอนุทินเกี่ยวข้องกับความขัดแย้งส่วนตัว แต่ประธานสภาอนุญาตให้นายกรัฐมนตรีชี้แจงจนจบ
ท้ายที่สุด นายอนุทินยืนยันตามกรอบการเมืองที่ทำข้อตกลงไว้ว่า จะยุบสภาภายในวันที่ 31 มกราคม 2569 หรืออาจเร็วกว่านั้นหากมีความจำเป็น พร้อมระบุว่า การเมืองครั้งนี้ไม่เพียงแต่ชี้ชะตาพรรคภูมิใจไทย แต่ยังเป็นบททดสอบอนาคตของพรรคเพื่อไทยด้วย
- อนุทินย้ำ MOU ไทย–กัมพูชา “ถ้าไม่เกิดประโยชน์ต่อชาติ เลิกได้ทันที”
- อนุทินลั่น “ท่านทำไม่ได้ อย่าคิดว่าผมทำไม่ได้” ยันยุบสภา 31 ม.ค. 69
- ภูมิใจไทยชูนโยบาย “4 เดือน 4 ภารกิจหลัก” คืนความมั่นใจให้ประเทศ
- อนุทินลงพื้นที่สามเสน ย้ำซ่อมถนนทรุด คืนผิวจราจรใน 2 สัปดาห์
- เจาะลึก "คนละครึ่ง" โฉมใหม่ ตรงจุดกระตุ้นเศรษฐกิจ
บรรณาธิการออนไลน์
