
พายุ “แมตโม” ขยับใกล้ไต้ฝุ่น
เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2568 กรมอุตุนิยมวิทยาออกประกาศฉบับที่ 3 ระบุว่า พายุโซนร้อน “แมตโม” ซึ่งก่อตัวบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน มีกำลังแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมีศูนย์กลางอยู่ที่ละติจูด 17.7 องศาเหนือ ลองจิจูด 117.4 องศาตะวันออก ความเร็วลมใกล้ศูนย์กลางสูงสุด 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และมีแนวโน้มจะทวีกำลังขึ้นเป็นพายุไต้ฝุ่นภายใน 24 ชั่วโมง
พายุลูกนี้คาดว่าจะเคลื่อนผ่านเกาะไหหลำของจีนตอนใต้ เข้าสู่อ่าวตังเกี๋ย และขึ้นฝั่งบริเวณเวียดนามตอนบนในช่วงวันที่ 5–6 ตุลาคม ก่อนจะอ่อนกำลังลงเมื่อเจอมวลอากาศเย็นจากจีนที่แผ่ลงมาปกคลุมภูมิภาคอินโดจีนช่วง 6–7 ตุลาคม
แม้พายุ “แมตโม” จะไม่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทยโดยตรง แต่ผลกระทบจากแนวลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้จะทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก
สรุปข่าว
พายุ “แมตโม” ขยับใกล้ไต้ฝุ่น
เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2568 กรมอุตุนิยมวิทยาออกประกาศฉบับที่ 3 ระบุว่า พายุโซนร้อน “แมตโม” ซึ่งก่อตัวบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน มีกำลังแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมีศูนย์กลางอยู่ที่ละติจูด 17.7 องศาเหนือ ลองจิจูด 117.4 องศาตะวันออก ความเร็วลมใกล้ศูนย์กลางสูงสุด 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และมีแนวโน้มจะทวีกำลังขึ้นเป็นพายุไต้ฝุ่นภายใน 24 ชั่วโมง
พายุลูกนี้คาดว่าจะเคลื่อนผ่านเกาะไหหลำของจีนตอนใต้ เข้าสู่อ่าวตังเกี๋ย และขึ้นฝั่งบริเวณเวียดนามตอนบนในช่วงวันที่ 5–6 ตุลาคม ก่อนจะอ่อนกำลังลงเมื่อเจอมวลอากาศเย็นจากจีนที่แผ่ลงมาปกคลุมภูมิภาคอินโดจีนช่วง 6–7 ตุลาคม
แม้พายุ “แมตโม” จะไม่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทยโดยตรง แต่ผลกระทบจากแนวลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้จะทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก
ฝนกระหน่ำหลายภาค เสี่ยงน้ำท่วม–น้ำป่า
อิทธิพลจากพายุจะทำให้ช่วงวันที่ 5–7 ตุลาคม มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น ส่งผลให้เกิดฝนตกหนักบางพื้นที่ โดยเฉพาะบริเวณภูเขา พื้นที่ลาดเชิงเขา และที่ราบลุ่มซึ่งเสี่ยงน้ำป่าไหลหลากหรือน้ำท่วมฉับพลัน
กรมอุตุฯ แนะนำให้ประชาชนในภาคเหนือและอีสานตอนบนเตรียมรับมือฝนตกหนัก ส่วนภาคใต้ฝั่งอันดามันตั้งแต่ระนองถึงกระบี่อาจได้รับผลจากคลื่นลมแรง คลื่นสูงเฉลี่ย 1–2 เมตร และอาจสูงกว่า 2 เมตรในพื้นที่มีฝนฟ้าคะนอง
วิเคราะห์ผลกระทบ สัญญาณเตือนก่อนฤดูฝนสิ้นสุด
แม้พายุ “แมตโม” จะไม่เข้าสู่ไทยโดยตรง แต่การทวีกำลังขึ้นของพายุในช่วงปลายฤดูฝนถือเป็นสัญญาณเตือนถึงความแปรปรวนของสภาพภูมิอากาศในภูมิภาคนี้ โดยเฉพาะการเปลี่ยนผ่านระหว่างฤดูฝนสู่ฤดูหนาว ซึ่งมักเกิดพายุในทะเลจีนใต้และอ่าวตังเกี๋ยบ่อยครั้ง
ผลกระทบโดยอ้อมจะทำให้ไทยมีฝนตกหนักในหลายพื้นที่และเสี่ยงน้ำท่วมขังเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะจังหวัดในภาคเหนือและอีสานที่มีระดับน้ำในเขื่อนเพิ่มสูงจากฝนรอบก่อนหน้า เช่น เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนภูมิพล และเขื่อนลำปาว ซึ่งขณะนี้อยู่ในระดับสูงกว่าเกณฑ์ปกติ
การเตรียมพร้อมและข้อควรระวัง
กรมอุตุนิยมวิทยาและกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเตือนประชาชนให้ติดตามประกาศอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะเกษตรกรและผู้เดินเรือ ควรหลีกเลี่ยงการออกทะเลในช่วงที่มีฝนฟ้าคะนอง ส่วนพื้นที่ลุ่มน้ำสำคัญควรเร่งระบายน้ำและเตรียมอุปกรณ์ป้องกันน้ำท่วมล่วงหน้า
พายุ “แมตโม” ในทะเลจีนใต้มีแนวโน้มทวีกำลังเป็นไต้ฝุ่น แม้ไม่เข้าไทยโดยตรงแต่จะทำให้เกิดฝนตกหนักทั่วประเทศช่วง 5–7 ต.ค. โดยเฉพาะภาคเหนือ อีสาน และใต้ฝั่งตะวันตก กรมอุตุฯ เตือนประชาชนเตรียมรับมือฝน น้ำป่า และคลื่นลมแรง
- “น้ำยม” ล้นตลิ่ง “สุโขทัย” จมแล้ว 300 หลัง เร่งอพยพชาวบ้านไปพื้นที่ปลอดภัย
- แจ้งล่าสุด "เขื่อนเจ้าพระยา" ระบายน้ำ 2,500 ลบ.ม./วินาที เช็กพื้นที่ได้รับผลกระทบ!
- เตือนฉบับ 3 อัปเดตเส้นทาง "พายุแมตโม" เตรียมรับมือฝนตกหนัก 5-7 ต.ค.
- “พายุโซนร้อนแมตโม” เคลื่อนลงทะเลจีนใต้ เตือนฝนตกหนัก-น้ำท่วมฉับพลันบางพื้นที่
- แม่น้ำน่านล้นตลิ่งท่วมพิจิตร เตือน 4 ต.ค.มวลน้ำก้อนใหม่ทำระดับน้ำสูงขึ้นอีก 1 ม.
ที่มาข้อมูล : TNN เรียบเรียง
ที่มารูปภาพ : Freepik
บรรณาธิการออนไลน์
