
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย หรือ ปภ. เปิดภาพภารกิจทีม ปภ. ส่วนหน้า ที่ลงพื้นที่ช่วยเหลือพี่น้องประชาชนบริเวณหน้าที่ว่าการอำเภอหาดใหญ่ จ.สงขลา ไปตั้งรถประกอบอาหารและน้ำดื่มไว้คอยบริการประชาชน

ทีม ปภ. ยังเดินหน้าทำความสะอาด คืนพื้นที่ซอยเพชรเกษม 27, 29 และ 31 ดำเนินการแล้วเสร็จ ส่วนซอยเพชรเกษม 33 และซอยเพชรเกษม 35 อยู่ในระหว่างดำเนินการ พร้อมรับข้อสั่งการปลัดกระทรวงมหาดไทยสับเปลี่ยนเจ้าหน้าที่ทีมปฏิบัติการหมุนเวียนทำงานตลอด 24 ชั่วโมง

ด้านนายชัยรัตน์ แก้วเพ็ญเพ็ญ รองอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กล่าวว่า ในวันนี้ (3) จะได้หารือร่วมกับกรมโยธาธิการและผังเมืองเพื่อบริหารจัดการทรัพยากร แบ่งพื้นที่ และบูรณาการในการปฏิบัติภารกิจ เพื่อให้สามารถเคลียร์พื้นที่คืนให้พี่น้องประชาชนได้โดยเร็ว
สรุปข่าว
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย หรือ ปภ. เปิดภาพภารกิจทีม ปภ. ส่วนหน้า ที่ลงพื้นที่ช่วยเหลือพี่น้องประชาชนบริเวณหน้าที่ว่าการอำเภอหาดใหญ่ จ.สงขลา ไปตั้งรถประกอบอาหารและน้ำดื่มไว้คอยบริการประชาชน

ทีม ปภ. ยังเดินหน้าทำความสะอาด คืนพื้นที่ซอยเพชรเกษม 27, 29 และ 31 ดำเนินการแล้วเสร็จ ส่วนซอยเพชรเกษม 33 และซอยเพชรเกษม 35 อยู่ในระหว่างดำเนินการ พร้อมรับข้อสั่งการปลัดกระทรวงมหาดไทยสับเปลี่ยนเจ้าหน้าที่ทีมปฏิบัติการหมุนเวียนทำงานตลอด 24 ชั่วโมง

ด้านนายชัยรัตน์ แก้วเพ็ญเพ็ญ รองอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กล่าวว่า ในวันนี้ (3) จะได้หารือร่วมกับกรมโยธาธิการและผังเมืองเพื่อบริหารจัดการทรัพยากร แบ่งพื้นที่ และบูรณาการในการปฏิบัติภารกิจ เพื่อให้สามารถเคลียร์พื้นที่คืนให้พี่น้องประชาชนได้โดยเร็ว
ด้าน GISTDA เฝ้าระวังคุณภาพน้ำในทะเลสาบสงขลาอย่างใกล้ชิด หลังเหตุการณ์น้ำท่วมขังรุนแรงในพื้นที่อำเภอหาดใหญ่และพื้นที่ใกล้เคียงในจังหวัดสงขลา พบมวลตะกอนขนาดใหญ่ที่สูงกว่าปกติ ซึ่งอาจสร้างผลกระทบกับหลายส่วน
โดยนี่เป็นข้อมูลภาพถ่ายจากดาวเทียม Sentinel-2C บันทึกภาพเมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2568 เวลา 10.41 น. ซึ่งภาพถ่ายที่ปรากฏในแผนที่ล่าสุดเผยให้เห็นอย่างชัดเจนว่า “มวลตะกอนขนาดใหญ่” ไหลลงสู่บริเวณตอนล่างของทะเลสาบสงขลาอย่างต่อเนื่อง
ภาพถ่ายจากดาวเทียมแสดงพื้นที่รอยต่อ 4 อำเภอรอบทะเลสาบสงขลา พบว่าในเขต อำเภอเมืองสงขลา อำเภอหาดใหญ่ อำเภอบางกล่ำ และอำเภอควนเนียง ปรากฏโซนสีเหลือง–น้ำตาลหนาแน่น ซึ่งบ่งชี้ถึงปริมาณ ตะกอนแขวนลอย จำนวนมากที่ถูกพัดพามาจากปริมาณน้ำหลากในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยเฉพาะหลังฝนตกหนักและน้ำท่วมในอำเภอหาดใหญ่ ส่งผลให้เกิดการพาตะกอน ดิน โคลน และอินทรียวัตถุต่าง ๆ ไหลลงสู่ระบบคลองก่อนระบายลงทะเลสาบสงขลา
GISTDA ยังพบ “ขอบทะเลสาบสงขลา” โดยเฉพาะฝั่งอำเภอเมืองสงขลา อำเภอหาดใหญ่ อำเภอบางกล่ำ และอำเภอควนเนียง กำลังเผชิญภาวะตะกอนสะสมในระดับสูงกว่าปกติ ซึ่งอาจสร้างผลกระทบเป็นวงกว้างต่อระบบนิเวศ เช่น
• ทำให้น้ำขุ่น แสงส่องผ่านได้น้อยลง
• รบกวนการหายใจของปลาและสัตว์น้ำ
• กระทบพื้นที่ประมงพื้นบ้าน
• เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดสาหร่ายเติบโตผิดธรรมชาติ
• ส่งผลต่อการใช้น้ำเพื่อยังชีพและกิจกรรมท่องเที่ยวรอบทะเลสาบ
แม้ตะกอนเป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติ แต่ปริมาณที่มากผิดปกติอาจเร่งให้ทะเลสาบตื้นเขินและเสื่อมโทรมเร็วกว่าที่ควร
- “มวลตะกอนขนาดใหญ่” ทะลักลงทะเลสาบสงขลา เสี่ยงกระทบระบบนิเวศ
- ศป.กฉ. เผยวันนี้โอนเงินเยียวยาน้ำท่วมเพิ่ม 97,466 ครัวเรือน ใน 4 จังหวัด
- จ่ายเยียวยาน้ำท่วมใต้วันแรกแล้ว 239 ล้านบาท
- ม.หอการค้า เจาะลึกความเสียหาย "น้ำท่วมใหญ่ 68"
- สรุปสัปดาห์วิปโยค เสียชีวิตเกินพันศพ "หาดใหญ่-ทั่วเอเชีย" จากน้ำท่วม-พายุ-ดินถล่ม
