MOA พังทลาย ข้อตกลง 4 เดือนแก้รัฐธรรมนูญ ก่อนยุบสภา กลายเป็นประวัติศาสตร์การเมืองใหม่

Share on Line Share on Facebook Share on X
MOA พังทลาย ข้อตกลง 4 เดือนแก้รัฐธรรมนูญ ก่อนยุบสภา กลายเป็นประวัติศาสตร์การเมืองใหม่

การยุบสภาในคืนวันที่ 11 ธันวาคม 2568 คือจุดจบของข้อตกลงทางการเมืองที่หลายฝ่ายเคยมองว่าเป็นทางออกชั่วคราวของวิกฤตจัดตั้งรัฐบาล ข้อตกลง MOA ซึ่งกำหนดอายุรัฐบาล 4 เดือน ภารกิจแก้รัฐธรรมนูญ และการยุบสภาทันทีหลังเสร็จสิ้นภารกิจ ถูกวางไว้เป็นเส้นทางสู่การรีเซ็ตทางการเมือง แต่กลับพังทลายกลางสภาเมื่อการลงมติไม่เป็นไปตามข้อตกลง

จุดเริ่มของ MOA และการเลือกนายกฯ เงื่อนไขเฉพาะกิจ

หลังการเปลี่ยนแปลงผู้นำและการจัดตั้งรัฐบาลที่ยืดเยื้อ พรรคประชาชนตัดสินใจสนับสนุนนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ให้เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 32 การเลือกนี้เกิดขึ้นในจังหวะที่ประเทศไม่มีพรรคใดครองเสียงข้างมาก และต้องการผู้นำที่ยอมรับเงื่อนไขจำกัดอำนาจบริหาร

ภายในข้อตกลง MOA มี 3 เงื่อนไขสำคัญ
• รัฐบาลมีอายุ 4 เดือน
• เปิดกระบวนการแก้รัฐธรรมนูญและตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญจากการเลือกตั้ง 100%
• ยุบสภาเมื่อภารกิจเดินหน้าเสร็จ หรือครบกรอบเวลา

นอกจากนี้ยังมีความเข้าใจร่วมว่ารัฐบาลนี้จะมีลักษณะใกล้เคียงรัฐบาลเสียงข้างน้อย พรรคประชาชนทำหน้าที่ตรวจสอบ แต่รองรับกฎหมายตามข้อตกลงเพื่อไม่ให้รัฐบาลล้มก่อนกำหนด


สรุปข่าว

การยุบสภา 11 ธันวาคม 2568 คือจุดจบของ MOA ที่กำหนดอายุรัฐบาล 4 เดือนและภารกิจแก้รัฐธรรมนูญ ความแตกต่างในการลงมติเรื่องบทบาทวุฒิสภาทำให้ความร่วมมือหมดความหมาย และผลักรัฐบาลเข้าสู่การยุบสภาเพื่อชิงจังหวะก่อนถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจ

การยุบสภาในคืนวันที่ 11 ธันวาคม 2568 คือจุดจบของข้อตกลงทางการเมืองที่หลายฝ่ายเคยมองว่าเป็นทางออกชั่วคราวของวิกฤตจัดตั้งรัฐบาล ข้อตกลง MOA ซึ่งกำหนดอายุรัฐบาล 4 เดือน ภารกิจแก้รัฐธรรมนูญ และการยุบสภาทันทีหลังเสร็จสิ้นภารกิจ ถูกวางไว้เป็นเส้นทางสู่การรีเซ็ตทางการเมือง แต่กลับพังทลายกลางสภาเมื่อการลงมติไม่เป็นไปตามข้อตกลง

จุดเริ่มของ MOA และการเลือกนายกฯ เงื่อนไขเฉพาะกิจ

หลังการเปลี่ยนแปลงผู้นำและการจัดตั้งรัฐบาลที่ยืดเยื้อ พรรคประชาชนตัดสินใจสนับสนุนนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ให้เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 32 การเลือกนี้เกิดขึ้นในจังหวะที่ประเทศไม่มีพรรคใดครองเสียงข้างมาก และต้องการผู้นำที่ยอมรับเงื่อนไขจำกัดอำนาจบริหาร

ภายในข้อตกลง MOA มี 3 เงื่อนไขสำคัญ
• รัฐบาลมีอายุ 4 เดือน
• เปิดกระบวนการแก้รัฐธรรมนูญและตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญจากการเลือกตั้ง 100%
• ยุบสภาเมื่อภารกิจเดินหน้าเสร็จ หรือครบกรอบเวลา

นอกจากนี้ยังมีความเข้าใจร่วมว่ารัฐบาลนี้จะมีลักษณะใกล้เคียงรัฐบาลเสียงข้างน้อย พรรคประชาชนทำหน้าที่ตรวจสอบ แต่รองรับกฎหมายตามข้อตกลงเพื่อไม่ให้รัฐบาลล้มก่อนกำหนด


เมื่อการลงมติเริ่มเคลื่อน ผลประโยชน์เริ่มเดินคนละทาง

เดือนแรกของรัฐบาลอนุทินเป็นช่วงที่กระบวนการแก้รัฐธรรมนูญยังเดินตามกรอบ แต่เมื่อเข้าสู่การพิจารณาร่างแก้รัฐธรรมนูญในวันที่ 9 ถึง 11 ธันวาคม บทบาทของวุฒิสภากลายเป็นจุดปะทะสำคัญ

ปัญหาหลักอยู่ที่ข้อกำหนดให้การให้ความเห็นชอบรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ต้องใช้เสียงวุฒิสภาไม่น้อยกว่า 1 ใน 3 พรรคประชาชนต้องการลดบทบาทวุฒิสภาให้เหลือศูนย์ เพื่อให้สภาร่างรัฐธรรมนูญที่มาจากการเลือกตั้งทำงานได้อย่างเป็นอิสระ

แต่พรรคภูมิใจไทยกลับลงมติให้คงอำนาจวุฒิสภา โดยให้เหตุผลว่าเพื่อป้องกันไม่ให้ร่างรัฐธรรมนูญถูกคว่ำในวาระสุดท้าย การลงมติครั้งนี้ทำให้ MOA สั่นคลอนทันที เพราะแกนนำพรรคประชาชนมองว่านี่คือเงื่อนไขหัวใจที่ห้ามเปลี่ยน

วินาทีแตกหัก การชิงยุบสภาก่อนเข้าสู่วาระอภิปรายไม่ไว้วางใจ

หลังการลงมติ พรรคประชาชนและพรรคร่วมฝ่ายค้านเตรียมยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจในวันที่ 12 ธันวาคม หากญัตติถูกยื่นอย่างเป็นทางการ นายกรัฐมนตรีจะไม่สามารถยุบสภาได้จนกว่าการอภิปรายและการลงมติจะสิ้นสุด

รัฐบาลอนุทินจึงต้องตัดสินใจภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมงว่าจะยอมเข้าสู่กระบวนการซักฟอกในฐานะรัฐบาลเสียงข้างน้อย หรือยุบสภาก่อนเพื่อรักษาพื้นที่กำหนดจังหวะการเมือง

คืนวันที่ 11 ธันวาคม นายอนุทินกราบบังคมทูลขอยุบสภา และประกาศข้อความถึงประชาชนว่า “คืนอำนาจให้พี่น้องประชาชน” การเคลื่อนไหวนี้ปิดฉาก MOA โดยสมบูรณ์

การยุบสภาครั้งนี้ทำให้พรรคภูมิใจไทยออกจากพันธะข้อตกลงเดิม และเข้าสู่การเลือกตั้งใหม่ในช่วงเวลาที่ประเมินว่ามีความพร้อมมากที่สุด ขณะที่พรรคประชาชนได้ประเด็นหาเสียงเรื่องการผิดข้อตกลงและการดิ้นทำรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน

ในภาพรวม กรณีนี้ชี้ให้เห็นข้อจำกัดของข้อตกลงทางการเมืองที่ไม่มีผลผูกพัน เมื่อสมการเสียงในสภาเปลี่ยน แม้จะมีเอกสารความร่วมมือ แต่ไม่อาจยึดรั้งผลประโยชน์ของแต่ละฝ่ายให้ตรงกันได้

ที่มาข้อมูล : TNN

ที่มารูปภาพ : TNN

บรรณาธิการออนไลน์