SME ไทยคือหัวใจเศรษฐกิจ ถ้ารายย่อยไม่ฟื้น ความเชื่อมั่นก็ไม่มา

Share on Line Share on Facebook Share on X
SME ไทยคือหัวใจเศรษฐกิจ ถ้ารายย่อยไม่ฟื้น ความเชื่อมั่นก็ไม่มา

เปิดเวที Thailand Confidence 2026 ชี้โจทย์ความเชื่อมั่นจากฐานราก

งานสัมมนา Thailand Confidence 2026 ขับเคลื่อนความเชื่อมั่นสู่อนาคต ที่จัดโดยสถานีข่าว TNN ช่อง 16 วางโจทย์สำคัญของประเทศว่า การฟื้นความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจไม่อาจพึ่งมาตรการระยะสั้นหรือการมองภาพมหภาคเพียงด้านเดียว หากต้องเริ่มจาก “ระบบจริง” ที่ประชาชนและผู้ประกอบการเผชิญอยู่ในชีวิตประจำวัน

หนึ่งในประเด็นที่ได้รับความสนใจอย่างมาก คือมุมมองจากภาคผู้ประกอบการรายย่อย โดย ดร.ณพพงศ์ ธีระวร ประธานสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย ชี้ว่า หากยังไม่แก้ปัญหาคนตัวเล็ก ความเชื่อมั่นระดับประเทศยากจะเกิดขึ้นอย่างยั่งยืน

สรุปข่าว

เวที Thailand Confidence 2026 ชี้ตรงกันว่า ความเชื่อมั่นเศรษฐกิจไทยต้องเริ่มจากฐานราก ดร.ณพพงศ์ ธีระวร ระบุไมโครเอสเอ็มอี 2.75 ล้านรายคือหัวใจระบบ หากยังติดหนี้ เข้าไม่ถึงทุน และเจอกฎระเบียบไม่เป็นธรรม ความเชื่อมั่นทั้งประเทศยากฟื้น แม้มีมาตรการกระตุ้นระยะสั้น

เปิดเวที Thailand Confidence 2026 ชี้โจทย์ความเชื่อมั่นจากฐานราก

งานสัมมนา Thailand Confidence 2026 ขับเคลื่อนความเชื่อมั่นสู่อนาคต ที่จัดโดยสถานีข่าว TNN ช่อง 16 วางโจทย์สำคัญของประเทศว่า การฟื้นความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจไม่อาจพึ่งมาตรการระยะสั้นหรือการมองภาพมหภาคเพียงด้านเดียว หากต้องเริ่มจาก “ระบบจริง” ที่ประชาชนและผู้ประกอบการเผชิญอยู่ในชีวิตประจำวัน

หนึ่งในประเด็นที่ได้รับความสนใจอย่างมาก คือมุมมองจากภาคผู้ประกอบการรายย่อย โดย ดร.ณพพงศ์ ธีระวร ประธานสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย ชี้ว่า หากยังไม่แก้ปัญหาคนตัวเล็ก ความเชื่อมั่นระดับประเทศยากจะเกิดขึ้นอย่างยั่งยืน

MSME 99.5% คือฐานเศรษฐกิจจริง ไม่ใช่ตัวเลขประกอบ

ดร.ณพพงศ์ ระบุว่า ประเทศไทยมีผู้ประกอบการประมาณ 3.25 ล้านราย และเป็น SME ถึง 99.5% ของทั้งหมด โดยในจำนวนนี้ กลุ่มที่มีสัดส่วนมากที่สุดคือ ไมโครเอสเอ็มอี 2.75 ล้านราย หรือ 84.5% ซึ่งเป็นกลุ่มที่แบกรับการจ้างงานจำนวนมาก และเป็นฐานกำลังซื้อสำคัญของประเทศ

เมื่อรัฐออกนโยบายช่วยเหลือ SME คำถามสำคัญจึงไม่ใช่เพียง “ช่วยหรือไม่ช่วย” แต่คือ “ช่วยใคร” เพราะหากมาตรการไม่ถึงกลุ่มไมโครที่เป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศ ผลลัพธ์เชิงความเชื่อมั่นย่อมเกิดได้จำกัด

เงินผ่านกระเป๋าเมื่อไร ความเชื่อมั่นเริ่มขยับ

ดร.ณพพงศ์ มองว่า มาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายในประเทศช่วงที่ผ่านมา เช่น มาตรการลักษณะเดียวกับ “คนละครึ่งพลัส” มีบทบาทสำคัญในการประคองความรู้สึกของผู้ประกอบการรายย่อย เพราะทำให้เกิดการจับจ่ายจริงในตลาด

แกนคิดสำคัญที่ถูกย้ำบนเวทีคือ
“ทำอย่างไรก็ได้ให้เงินผ่านกระเป๋าผู้ประกอบการ”
เมื่อเงินหมุนเวียนจริง ความกล้าลงทุนแม้เพียงเล็กน้อยจะตามมา และความเชื่อมั่นจะเริ่มก่อตัวจากระดับฐานราก

อย่างไรก็ตาม มาตรการดังกล่าวยังทำหน้าที่ได้ในเชิงระยะสั้น และไม่อาจทดแทนการแก้ปัญหาเชิงโครงสร้างที่กดทับผู้ประกอบการรายย่อยมายาวนาน

หนี้สูง–กำลังซื้อหด คือกับดักของรายย่อย

อีกปัญหาหลักที่ถูกหยิบขึ้นมาคือภาระหนี้ของผู้ประกอบการรายย่อยและครัวเรือน ซึ่งทำให้กำลังซื้ออ่อนแรง ผู้บริโภคชะลอการใช้จ่าย และร้านค้าขายยาก แม้จะมีมาตรการกระตุ้นจากภาครัฐ

ดร.ณพพงศ์ เห็นว่า หากการจัดการหนี้เดินหน้าอย่างเป็นรูปธรรมและเห็นผลจริงกับผู้ประกอบการบางส่วน จะช่วยเติมความเชื่อมั่นให้ระบบเศรษฐกิจฐานรากได้มากขึ้น

เข้าถึงทุนยังไม่เท่าเทียม ไมโครเอสเอ็มอียังถูกทิ้งไว้ข้างหลัง

ข้อจำกัดในการเข้าถึงแหล่งทุนยังคงเป็นอุปสรรคสำคัญ โดยงานวิจัยและประสบการณ์ในพื้นที่พบว่า เงินช่วยเหลือหรือ Soft Loan ส่วนใหญ่เข้าถึงกลุ่มที่มีสถานะการเงินดีอยู่แล้ว ขณะที่ไมโครเอสเอ็มอีจำนวนมากไม่สามารถผ่านเงื่อนไขงบการเงินได้ตั้งแต่ต้นทาง

ผลที่เกิดขึ้นคือ กลุ่มที่เป็นสัดส่วนใหญ่ที่สุดของประเทศกลับเข้าไม่ถึงกลไกช่วยเหลือ ทั้งที่เป็นกลุ่มที่ต้องการแรงพยุงมากที่สุด

กฎระเบียบ–นอมินี–การแข่งขันไม่เป็นธรรม กดความหวังรายย่อย

ดร.ณพพงศ์ ยังกล่าวถึงปัญหากฎระเบียบที่ไม่เอื้อต่อการอยู่รอดของคนตัวเล็ก ตั้งแต่ขั้นตอนขออนุญาต ไปจนถึงการแข่งขันที่บิดเบือนจากปัญหานอมินี ซึ่งทำให้ผู้ประกอบการรายย่อยเสียเปรียบ

แนวคิดการนำเทคโนโลยี เช่น AI มาช่วยตรวจจับความผิดปกติในระบบ ถูกมองว่าเป็นก้าวสำคัญ หากดำเนินการอย่างจริงจัง จะช่วยคืนความเป็นธรรมให้ตลาด และเป็นฐานสำคัญของการสร้างความเชื่อมั่น

เชื่อมภาพใหญ่ โครงสร้างประเทศต้องเดินคู่ฐานราก

ด้าน ดร.อนุสรณ์ ธรรมใจ คณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ และผู้อำนวยการศูนย์วิจัย DEIIT มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ระบุว่า เศรษฐกิจไทยเติบโตต่ำกว่าศักยภาพมาอย่างยาวนาน จากปัญหาเชิงโครงสร้าง ทั้งด้านการเมือง เศรษฐกิจ และธรรมาภิบาล

เมื่อเชื่อมมุมมองทั้งสองด้าน บทสรุปของเวที Thailand Confidence 2026 ชัดเจนว่า หากการปฏิรูปเชิงโครงสร้างไม่เดินคู่กับการพยุงไมโครเอสเอ็มอี ความเชื่อมั่นในระดับประเทศย่อมยากจะเกิดขึ้นอย่างแท้จริง

ที่มาข้อมูล : TNN

ที่มารูปภาพ : TNN

บรรณาธิการออนไลน์