ประวัติ "บีม" พิมพิชยา ก๊กรัมย์ ... ท็อปสกอร์! นัดเปิดสนาม VNL 2025

"บีม" พิมพิชยา ก๊กรัมย์ เกิดเมื่อวันที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2541 ที่จังหวัดบุรีรัมย์ เริ่มเล่นวอลเลย์บอลครั้งแรกตอนเรียนชั้น ป.2 ที่โรงเรียนบ้านหนองแขม อำเภอกระสัง(บุรีรัมย์) ก่อนจะเริ่มฝึกซ้อมอย่างจริงจังจนกลายเป็น "นักกีฬาฝีมือดี" เเละได้ลงแข่งขันรายการใหญ่อย่าง "วิทยุ-การบินฯ" ในรุ่นอายุไม่เกิน 12 ปี 

ระดับมัธยมศึกษา "บีม" พิมพิชยา ย้ายเข้ามาเรียนที่ โรงเรียนกีฬานครนนท์วิทยา 6 จ.นนทบุรี ภายใต้การดูแลของ "โค้ชเอ็ม" ธนกฤต อินเลี้ยง ก่อนจะค่อยๆสร้างชื่อขึ้นมาจนเป็น "ดาวรุ่ง" ที่โด่งดังมากที่สุดคนหนึ่งของวงการลูกยางเมืองไทย

"บีม" พิมพิชยา ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมกับ โรงเรียนกีฬานครนนท์ฯ รวมทั้งยังได้รับโอกาสลงสนามในระดับอาชีพกับ 3BB นครนนท์ ในศึกวอลเลย์บอล "ไทยแลนด์ลีกฯ" ด้วยวัยเพียงแค่ 16 ปีเท่านั้น และสุดท้าย เจ้าตัว ก็ก้าวขึ้นเป็น "กำลังสำคัญ" ของทีมได้อย่างเต็มตัว

"บีม" พิมพิชยา ติดธงรับใช้ "ทีมชาติไทย" ตั้งแต่อายุยังน้อย โดยข้ามรุ่นไปเล่นในรายการ "วอลเลย์บอลเยาวชนหญิงชิงแชมป์เอเชียรุ่นอายุไม่เกิน 18 ปี" ที่ประเทศไต้หวัน(2014) ทั้งที่เพิ่งจะอายุ 16 ปีเท่านั้น ก่อนจะกลับมาลงเล่นในรายการ "วอลเลย์บอลยุวชนหญิงชิงแชมป์เอเชีย 2014" รุ่นอายุไม่เกิน 17 ปีที่ นครราชสีมา  

ในปี 2015 "บีม" พิมพิชยา ถูกเรียกตัวเข้าแคมป์ฝึกซ้อม "ทีมชุดใหญ่" อย่างเป็นทางการ! ก่อนจะลงเเข่งขันในรายการ "วอลเลย์บอลหญิงชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี" ที่ประเทศฟิลิปปินส์ จบตำแหน่ง "รองแชมป์" คว้าตั๋วลุยศึก "วอลเลย์บอลหญิงชิงแชมป์โลก" รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ที่ประเทศตุรกี ต่อไปในปีเดียวกัน 

ต่อจากนั้น "บีม" พิมพิชยา ลงสนามรับใช้ "ทีมชาติชุดใหญ่" อย่างต่อเนื่อง! และกลายเป็นตัวหลักมาของทีมต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน นอกจากนี้ เจ้าตัว ยังเป็นผู้เล่นที่ประสบความสำเร็จและคว้าแชมป์ในนามทีมชาติมาครองพอสมควร ไล่ตั้งแต่ เหรียญทองซีเกมส์ 5 สมัย, เหรียญทอง SEA V.League 4 สมัย, แชมป์เอเชียปี 2023(รองแชมป์ปี 2017), รองแชมป์เอเชียนเกมส์ 2018(เหรียญทองแดงปี 2023) และ อันดับที่ 3 เอวีซี คัพ 3 สมัย

ส่วนในเส้นทางสายอาชีพ "บีม" พิมพิชยา อยู่ช่วยทีม 3BB นครนนท์ ไปถึงฤดูกาล 2020/21 ก่อนจะย้ายไปเล่นที่ญี่ปุ่นกับ คุโรเบะฯ ในปีต่อมา โดยลงเล่นใน "ลีกแดนปลาดิบ" ต่อเนื่องเป็นเวลา 3 ปีเต็ม(2021/22 - 2023/24) ส่วนปีล่าสุด เจ้าตัว ย้ายไปเล่นใน "ลีกเยอรมัน" กับทีม SSC Palmberg Schwerin รวมทั้งยังพาต้นสังกัดผงาดคว้า "แชมป์ลีกสูงสุดเยอรมัน" มาครองได้สำเร็จ!