
สรุปข่าว
ปัจจัยติดตาม
1.ยุโรปตกลงลดนำเข้าก๊าซรัสเซีย ด้านเยอรมนีขอโอเปกผลิตน้ำมันเพิ่ม
โดยในร่างแถลงการณ์ระบุว่า "ประเทศสมาชิกและคณะกรรมาธิการยุโรป (EC) จะเร่งประสานงานเพื่อร่วมกันซื้อก๊าซ, LNG และไฮโดรเจน" ซึ่งเป็นไปตามเป้าหมายที่ยุโรป จะลดการใช้ก๊าซจากรัสเซียในปีนี้ แล้วหันไปเพิ่มการนำเข้าจากซัพพลายเออร์รายอื่น ๆ เช่น กาตาร์และสหรัฐฯ เป็นต้น
ส่วนอีกหนึ่งความเคลื่อนไหวจากนายโรเบิร์ต ฮาเบค รัฐมนตรีเศรษฐกิจเยอรมนี ซึ่งอยู่ระหว่างเดินทางเยือนอ่าวอาหรับเพื่อหารือด้านอุปทานพลังงานระยะยาว ได้ออกมาเรียกร้องให้กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) เพิ่มกำลังการผลิตน้ำมัน พื่อให้ประชากรโลกสามารถซื้อน้ำมันได้เพียงพอต่อความต้องการ พร้อมกล่าวว่าบรรดาชาติอาหรับไม่ควรได้ประโยชน์จากกรณีที่นานาประเทศ ออกมาตรการคว่ำบาตรรัสเซีย
ขณะที่สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ที่ผ่านมานั้น ซาอุดีอาระเบีย และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) ซึ่งเป็นสมาชิกรายสำคัญของโอเปก ได้ปฏิเสธกระแสเรียกร้องจากบรรดาชาติตะวันตกรวมถึงสหรัฐ ในการเพิ่มผลผลิตน้ำมันเพื่อสกัดราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้นหลังการรุกรานยูเครนของรัสเซียก่อให้เกิดความวิกตกเรื่องภาวะชะงักงันด้านอุปทาน
2.IMF ชี้เงินเฟ้อทั่วโลกจ่อพุ่ง จับตาราคาสินค้าในเอเชียดีดขึ้นแรง
ราคาน้ำมันยังคงยืนในระดับสูง ทำให้กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เริ่มกังวลว่าจะเป็นแรงกดดันต่อการพุ่งขึ้นของเฟ้อทั่วโลก และไปฉุดรั้งการเติบโตทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะหากหากราคาผู้บริโภคของประเทศในเอเชียปรับตัวขึ้นในทิศทางเดียวกับราคาพลังงาน ก็อาจก่อให้เกิดเงินเฟ้อกระจายไปทั่วโลก
นายชางยอง รี ผู้อำนวยการประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ ให้สัมภาษณ์กับบลูมเบิร์กว่า หากราคาน้ำมันยังคงเพิ่มขึ้น ต้นทุนของผู้ผลิตก็จะเพิ่มขึ้นด้วย ซึ่งในท้ายที่สุดก็เลี่ยงไม่ได้ที่ราคาสินค้าจะปรับขึ้นตามมา และเมื่อถึงขั้นนั้น สถานการณ์เงินเฟ้อในเอเชียจะกระจายไปทั่วโลก เพียงแต่ตอนนี้มันยังไม่เกิดขึ้น"
ซึ่งความเห็นดังกล่าว บ่งชี้ถึงความเสี่ยงที่ว่า เอเชียมีแนวโน้มที่จะก่อให้เกิดวงจรราคาสินค้าที่ปรับขึ้นไปทั่วโลก หากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
"ชางยอง รี" ยังกล่าวด้วยว่า เงินเฟ้อกำลังเพิ่มขึ้นเร็วกว่าที่คาดไว้ แม้กองทุนการเงินระหว่างประเทศจะคาดว่าเงินเฟ้อในเอเชีย จะแตะระดับสูงสุดในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ ซึ่งเขามองว่า นอกจากสงครามในยูเครนจะเป็นปัจจัเร่งแล้ว การที่สหรัฐปรับนโยบายการเงินให้กลับสู่ภาวะปกติ (normalization) ก็มีส่วนที่ส่งผลให้ราคาอาหารและพลังงานในเอเชียเพิ่มขึ้น และจะกระทบต่อรายได้ที่แท้จริงโดยเฉพาะครัวเรือนที่ยากจนด้วย
3."โกลด์แมนแซคส์"คาดที่ประชุมเฟด ขึ้นดอกเบี้ยร้อยละ 0.5
ทันทีที่ "เจอโรม พาวเวล" ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ออกมาส่งสัญญาณว่าอัตราเงินเฟ้อของสหรัญฯ อยู่ในระดับสูงมากเกินไป และเฟดอาจจะใช้มาตรการที่จำเป็นเพื่อสร้างความเชื่อมั่นว่าตัวเลขเงินเฟ้อจะกลับมามีเสถียรภาพอีกครั้ง ก็ตามมาด้วยมุมมองจากนักวิเคราะห์ที่คาดว่าการประชุม FOMC รอบหน้า เฟดอาจจะปรับขึ้นดอกเบี้ยร้อยละ 0.50 เพื่อดูแลเงินเฟ้อ
โดย "โกลด์แมน แซคส์" คาดการณ์ว่าเฟดมีแนวโน้มจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกร้อยละ 0.50 ในการประชุมเดือนพฤาภาคมและเดือนมิถุนายน ตามการส่งสัญญาณที่ต้องการดูแลเงินเฟ้อของประธานเฟด ซึ่งโกลด์แมน แซคส์ระบุว่า "การที่เฟดเปลี่ยนแปลงถ้อยคำ ในการส่งสัญญาณจากเดือนมกราคม มาเป็นการส่งสัญญาณที่แข็งกร้าวมากขึ้นในครั้งนี้ ถือเป็นการบ่งชี้ว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในไม่ช้านี้"
ทั้งนี้ ในการประชุม FOMC เมื่อวันที่ 16 มีนาคมที่ผ่านมา เฟดประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นร้อยละ 0.25 พร้อมกับส่งสัญญาณว่าจะปรับขึ้นดอกเบี้ยอีก 6 ครั้ง ในอัตราร้อยละ 0.25 ต่อครั้งในช่วงที่เหลือของปีนี้ ซึ่งนายลอยด์ แบลงค์ไฟน์ ประธานอาวุโสของธนาคารโกลด์แมน แซคส์ ได้แสดงความเห็นต่อมติดังกล่าวว่า การที่เฟดส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยดังกล่าว ไม่ถือว่าเป็นการปรับขึ้นดอกเบี้ยในระดับที่รุนแรง เมื่อพิจารณาจากอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงที่หักลบด้วยเงินเฟ้อ ซึ่งยังคงอยู่ในระดับติดลบ
#เงินเฟ้อ #รัสเซีย #สงครามยูเครน #TNNWealth #TNNช่อง16
ติดตามข่าวหุ้นและการลงทุนทางไลน์
• Line @TNNWEALTH : https://lin.ee/TQ14oAe
• Facebook : https://www.facebook.com/TNNWealth
—————————————————————————
ติดตาม TNN Wealth ผ่านช่องทางต่าง ๆ ได้ที่
• Website : https://bit.ly/TNNWealthWebsite
• Youtube : https://bit.ly/TNNWealthYoutube
• TikTok : https://bit.ly/TNNWealthTikTok
หรือดูรายการ Live ได้ทาง
https://www.facebook.com/TNN16LIVE/
ที่มาข้อมูล : -

TNNThailand