ยุโรปรุดเจรจากลุ่มโอเปก หารือเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมัน

ยุโรปรุดเจรจากลุ่มโอเปก หารือเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมัน

สรุปข่าว

ปัจจัยติดตาม

1.ยุโรปรุดเจรจากลุ่มโอเปก หารือเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมัน

ล่าสุด มีการเปิดเผยว่าเจ้าหน้าที่จากสหภาพยุโรป (EU) มีแผนจะเจรจากับตัวแทนจากกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ในการพบปะกันที่กรุงเวียนนา เพื่อหารือเกี่ยวกับการเพิ่มกำลังการผลิตของกลุ่มโอเปก โดยมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มปริมาณน้ำมันสู่ตลาดโลก 


ซึ่งความพยายามของยุโรปในครั้งนี้ สอดคล้องกับความพยายามของหลายๆ ชาติ โดยเฉพาะสหรัฐฯ ที่เรียกร้องมาตลอดให้กลุ่มผู้ส่งออกน้ำมัน เพิ่มปริมาณการผลิตเพื่อสกัดการพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันในตลาดโลก แต่เมื่อไม่ได้รับการตอบรับ สหรัฐฯ จึงต้องตัดสินใจประกาศแผนระบายน้ำมันจำนวน 180 ล้านบาร์เรลออกจากคลังสำรองทางยุทธศาสตร์ (SPR) โดยจะมีการระบายน้ำมัน 1 ล้านบาร์เรล/วันเป็นเวลา 6 เดือน ซึ่งการระบายน้ำมันดังกล่าวถือว่าสูงเป็นประวัติการณ์ โดยยังไม่มีชาติใดเคยระบายน้ำมันในคลังสำรองจำนวน 1 ล้านบาร์เรล/วันเป็นระยะเวลานานเช่นนี้มาก่อน และจะทำให้สหรัฐมีปริมาณน้ำมันมากเป็นประวัติการณ์ไปจนถึงสิ้นปีนี้ ในขณะที่ท่าทีล่าสุดจากกลุ่มโอเปกและชาติพันธมิตรหรือโอเปกพลัส ยังคงยืนตามมติเดิมที่ได้ตกลงไว้ก่อนหน้านี้ ด้วยการเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันเพียง 432,000 บาร์เรล/วันในเดือนพฤษภาคมนี้


2.เงินเฟ้อจีนเพิ่มขึ้นสูงกว่าคาด แรงกดดันต้นทุนราคาสินค้าพุ่ง

ต้นทุนพลังงานที่พุ่งขึ้นอย่างมาก บวกกับปัญหาคอขวดด้านอุปทานที่เกิดจากมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในจีน ทำให้ขณะนี้ จีนซึ่งคยเป็นประเทศที่เงินเฟ้อต่ำไม่ถึงร้อยละ 1 เริ่มกลับมาเห็นสัญญาณการพุ่งขึ้นของเงินเฟ้อแล้ว ล่าสุด สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) เปิดเผยว่าดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่เกิดจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค ปรับตัวขึ้นร้อยละ 1.5 ในเดือนมีนาคม เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งนอกจากจะสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.2 แล้ว ดัชนี CPI ในเดือนดังกล่าว ยังเร่งตัวขึ้นจากร้อยละ 0.9 ในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาด้วย


ขณะนี้ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดต้นทุนสินค้าที่หน้าประตูโรงงาน ในเดือนเดียวกัน ก็พบว่าปรับตัวขึ้นร้อยละ 8.3 เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์ในโพลสำรวจของสำนักข่าวรอยเตอร์คาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 7.9 โดยการพุ่งขึ้นของดัชนี PPI สะท้อนให้เห็นว่า จีนยังคงเผชิญกับต้นทุนราคาสินค้าที่สูงขึ้น อันเนื่องมาจากสงครามที่ยืดเยื้อระหว่างรัสเซียและยูเครน รวมทั้งปัญหาคอขวดด้านอุปทาน

       

ทั้งนี้ เศรษฐกิจจีนซึ่งใหญ่เป็นอันดับสองของโลกยังคงถูกกดดันจากมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งมาตรการดังกล่าวส่งผลกระทบอย่างหนักต่อกิจกรรมในภาคการผลิต สะท้อนจากดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของจีนในเดือนมีนาคมที่เปิดเผยออกมาก่อนหน้านี้ ร่วงลงสู่ระดับ 48.1 ซึ่งนับเป็นการหดตัวลงรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ปี 2563


3.บีโอเจยืนยันจุดยืน คงนโยบายการเงินผ่อนคลายต่อไป

ในขณะที่เศรษฐกิจของญี่ปุ่นเอง ก็เผชิญความเสี่ยงเช่นเดียวกับเศรษฐกิจของหลายๆ ประเทศ ล่าสุด ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น  (BOJ) ออกมายอมรับว่าเศรษฐกิจญี่ปุ่น ยังคงอ่อนแอ เนื่องจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และผลกระทบจากจากวิกฤติยูเครน  โดยนายฮารุฮิโกะ คุโรดะ ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น ย้ำว่าขณะนี้เศรษฐกิจญี่ปุ่น ยังคงอ่อนแอในระดับหนึ่ง เนื่องจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 นอกจากนี้ ยังได้เตือนถึงความไม่แน่นอนที่มีอยู่สูง ซึ่งเป็นผลกระทบต่อเนื่องจากวิกฤติในยูเครน ที่จะต้องติดตามว่าจะส่งผลกระทบต่อราคาสินค้าโภคภัณฑ์และเศรษฐกิจญี่ปุ่นมากเพียงใด

          

ขณะเดียวกัน นายคุโรดะกล่าวว่าราคาพลังงานและต้นทุนวัตถุดิบที่พุ่งสูงขึ้น จะทำให้อัตราเงินเฟ้อญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นในไม่อีกกี่เดือนข้างหน้า หลังจากดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) พื้นฐานของญี่ปุ่นซึ่งไม่นับรวมราคาอาหารสด มีแนวโน้มจะเพิ่มสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด  แต่อย่างไรก็ตาม นายคุโรดะกล่าวว่า แม้อัตราเงินเฟ้อจะเพิ่มขึ้น ซึ่งมาสาเหตุจากการเพิ่มขึ้่นของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ แต่ก็ไม่น่าจะผลักดันให้ BOJ เปลี่ยนแปลงนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน เนื่องจากภาวะดังกล่าวไม่ได้คงอยู่เป็นเวลานาน แต่ก็ย้ำว่า BOJ จะดำเนินการผ่อนคลายทางการเงินเพิ่มเติมโดยไม่ลังเล หากมีความจำเป็น


ทั้งนี้ ความเห็นดังกล่าว เป็นการเน้นย้ำถึงจุดยืนของ BOJ ในการใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนคลาย ซึ่งถือเป็นการยืนยันการใช้นโยบายที่แตกต่างจากธนาคารกลางรายอื่น ๆ ที่เริ่มต้นคุมเข้มนโยบายการเงิน





#น้ำมันดิบ #น้ำมัน #สงครามยูเครน #TNNWealth #TNNช่อง16 

ติดตามข่าวหุ้นและการลงทุนทางไลน์

• Line @TNNWEALTH : https://lin.ee/TQ14oAe

• Facebook : https://www.facebook.com/TNNWealth

—————————————————————————

ติดตาม TNN Wealth ผ่านช่องทางต่าง ๆ ได้ที่ 

• Website : https://bit.ly/TNNWealthWebsite

• Youtube : https://bit.ly/TNNWealthYoutube

• TikTok : https://bit.ly/TNNWealthTikTok

หรือดูรายการ Live ได้ทาง

https://www.facebook.com/TNN16LIVE/

 

ที่มาข้อมูล : -

ที่มารูปภาพ :

avatar

TNNThailand