อเบอร์ดีนเปิดตัวกองทุนใหม่จับลูกค้ารายย่อย

อเบอร์ดีนเปิดตัวกองทุนใหม่จับลูกค้ารายย่อย

สรุปข่าว

 นายโรเบิร์ต เพนาโลซา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ. อเบอร์ดีน (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า  ได้เปิดขายกองทุนเปิด อเบอร์ดีน ลิสเต็ด ไพรเวท แคปปิตอล ฟันด์  (ABPCAP)  จับกลุ่มนักลงทุนรายย่อยได้สัมผัสประสบการณ์ใหม่  กองแรกในไทย  ที่มุ่งเน้นลงทุนในหลักทรัพย์ที่มี exposure ใน Private Equity Private Debt โครงสร้างพื้นฐานหรือ Infrastructure และ REITs ชั้นนำทั่วโลก พร้อมสภาพคล่องที่สามารถซื้อ-ขายได้ทุกวัน 


โดยลงทุนผ่าน Listed Investment Companies ซึ่งเป็นหนึ่งในเครื่องมือการลงทุน (Investment Vehicles) ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์โดยมีพอร์ตการลงทุนในสินทรัพย์ที่มี exposure ใน Private Market และส่วนที่สองคือการลงทุนผ่านบริษัทบริหารจัดการการลงทุนที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ (Listed Asset  Managers) ที่บริหารจัดการการลงทุนในกองทุนหรือสินทรัพย์ใน Private Market ซึ่งมาพร้อมโอกาสในการสร้างผลตอบแทนควบคู่กับการเติบโตใน Private Market โดยจะเสนอขายระหว่างวันที่ 18–29 เมษายน 2565 โดยมี 2 หน่วยลงทุน ได้แก่ สะสมมูลค่า (ABPCAP-A) และเพื่อการออม (ABPCAP-SSF)

 

สำหรับกองทุนนี้จะลงทุนผ่านกองทุนหลักต่างประเทศ Aberdeen Standard SICAV I - Listed Private Capital Fund ที่ผู้ลงทุนสามารถเข้าถึงโอกาสการเติบโตและผลตอบแทนในระยะยาวจากการเพิ่มขึ้นของเงินลงทุนได้ ซึ่งกองทุนหลักมุ่งเน้นลงทุนในสินทรัพย์ที่มี exposure ใน Private Capital Markets ผ่านการลงทุนใน 2 ส่วนหลัก 


โดยส่วนแรกลงทุนผ่าน Listed Investment Companies ชั้นนำของโลกซึ่งเป็นหนึ่งในเครื่องมือการลงทุน (Investment Vehicles) ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์  ซึ่งมีพอร์ตการลงทุนในสินทรัพย์ที่อยู่ใน Private Market 


ส่วนที่สองลงทุนผ่านบริษัทบริหารจัดการการลงทุนที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ (Listed Asset Managers) ที่บริหารจัดการการลงทุนในกองทุนหรือสินทรัพย์ใน Private market ครอบคลุมทั้ง Private Equity Private Debt  อสังหาริมทรัพย์ โครงสร้างพื้นฐาน หรือ Infrastructure และ REITs ที่มีโอกาสทำกำไรและเติบโตโดดเด่น อีกทั้งยังกระจายการลงทุนไปยังสินทรัพย์ที่มีความหลากหลาย เพื่อลดความเสี่ยงจากความผันผวนของการลงทุนประเภทต่างๆ ตลอดจนสามารถซื้อขายหน่วยลงทุนได้ทุกวันทำการ 


“การลงทุนใน Private Market ในประเทศไทยถือว่ายังมีข้อจำกัดสำหรับรายย่อย แต่ด้วยแนวโน้มการเติบโตและโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดี ทำให้การลงทุนใน Private Market จะเป็นโอกาสสำคัญและทางเลือกการลงทุนที่น่าสนใจอย่างมากของนักลงทุนรายย่อย ABPCAP จึงถือว่าเป็นกองทุนที่จะปลดล็อคข้อจำกัดในหลายๆด้าน และครอบคลุมการลงทุนในสินทรัพย์ใน Private Market หลากหลายประเภทที่มีโอกาสในการทำกำไร พร้อมกับการเติบโตของสินทรัพย์ ” 


นอกจากนี้ด้วยความเชี่ยวชาญของอเบอร์ดีน ผนวกกับ Listed Investment Companies และ Listed Asset Managers ระดับโลกที่กองทุนหลักลงทุนนั้นมีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านการลงทุนใน Private Market รวมไปถึงการคัดสรรสินทรัพย์ จะมีการประเมินมูลค่าและโอกาสของการลงทุนควบคู่กันไปด้วย เพื่อเฟ้นหาสินทรัพย์ที่ราคาต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริง และสร้างโอกาสในการทำกำไรที่โดดเด่น รวมทั้งให้ความสำคัญกับเรื่อง ESG  เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน 


สำหรับสัดส่วนการลงทุนภายใต้การบริหารของบริษัทที่กองทุนหลักลงทุน ครอบคลุมตลาดอเมริกาเหนือ ประมาณ 52% ตลาดยุโรปที่ไม่ใช่สหราชอาณาจักร 24% ตลาดสหราชอาณาจักร 10% และ ตลาดเอเชีย 4% โดยแบ่งประเภทของการลงทุนของกองทุนหลัก ที่มี exposure  ไปยัง Private Equity  34% Listed Managers 35% Private Debt 11% ที่เหลือเป็นอสังหาริมทรัพย์ โครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure) รวมทั้งโลหะมีค่า (Precious Metals)  (ข้อมูล ณ วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2565)


ที่มา บลจ. อเบอร์ดีน (ประเทศไทย) 

ภาพประกอบ บลจ. อเบอร์ดีน (ประเทศไทย) 



ที่มาข้อมูล : -

ที่มารูปภาพ :

avatar

TNNThailand

แท็กบทความ

กองทุนรวม
รายย่อย
กองทุนเปิด
โครงสร้างพื้นฐานกองรีท
อเบอร์ดีน
นายโรเบิร์ต เพนาโลซา
กองทรัสต์