กบง.มอบพาณิชย์ ดูโครงสร้างราคา-ศึกษาค่าการกลั่นน้ำมัน คาดได้ข้อสรุปภายในมิ.ย.นี้

กบง.มอบพาณิชย์ ดูโครงสร้างราคา-ศึกษาค่าการกลั่นน้ำมัน คาดได้ข้อสรุปภายในมิ.ย.นี้

สรุปข่าว

วันนี้( 4 มิ.ย.65) นายวัฒนพงษ์ คุโรวาท ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) กระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ที่มี นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เป็นประธาน ได้มี คำสั่งแต่งตั้ง "คณะอนุกรรมการบริหารจัดการราคาน้ำมันเชื้อเพลิงในช่วงวิกฤต"  โดยมี นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธาน พร้อมด้วยกรรมการจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อศึกษาประเด็นเรื่องค่าการกลั่นน้ำมัน คาดว่า จะได้ข้อสรุปภายในเดือนมิถุนายนนี้


ทั้งนี้ นายวัฒนพงษ์  ยืนยันว่ากระทรวงพลังงานไม่ได้ควบคุมค่าการกลั่น แต่จะใช้วิธีติดตามและประเมินสถานการณ์กำหนดเป็น reference ไว้เท่านั้น โดยสูตรค่าการกลั่นจะดูจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกหักลบกับน้ำมันสำเร็จรูป เดิมจะอยู่ที่ประมาณ 8-10 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล แต่ปัจจุบันปรับขึ้นไป 30-40-50 เหรียญ/บาร์เรล หมายถึงแกปมันห่างมากขึ้น ซึ่งค่าเฉลี่ยเบื้องต้นคำนวณเป็นรูปเงินบาทออกมาจะอยู่ที่ 1 บาทกว่าไม่เกิน 2 บาท อีกทั้งแต่ละโรงกลั่นน้ำมันก็จะมีอัตราค่าการ กลั่นต่างกันตามเทคนิคของแต่ละโรงงาน และยังมีสเป็กน้ำมันที่ไม่เหมือนกันด้วย


โดยล่าสุด สำนักงานนโยบายและแผนพลังงานได้ประกาศอัตราค่าการกลั่นเฉลี่ยล่าสุด วันที่ 2 มิ.ย. 2565 อยู่ที่ 5.72 บาท/ลิตร จากแนวโน้มราคาน้ำมันดิบตลาดโลกเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 105-110 เหรียญ/บาร์เรล และในช่วงที่เหลือของปีนี้ คาดเฉลี่ยอยู่ที่ 110 เหรียญ/บาร์เรล บนสมมติฐาน ค่าเงินบาทอยู่ในกรอบ 33.3-34.3 บาทต่อเหรียญสหรัฐ


กระทรวงพลังงาน ระบุว่าสาเหตุที่ทำให้ "ค่าการกลั่น" ในปัจจุบันปรับสูงขึ้นนั้น ส่วนหนึ่งเป็นผลจากราคาน้ำมัน แต่ตอนนี้โรงกลั่นโดน "ค่าพรีเมี่ยม" ช่วงสงครามรัสเซีย-ยูเครน ทำให้ซัพพลายลดลง หายาก ค่าขนส่งปรับสูง ซึ่งก็กลับกลายเป็นว่าต้นทุน โรงกลั่นสูงขึ้น แต่กำไรยังเท่าเดิม จากก่อนหน้านี้ที่ค่าการกลั่นติดลบ แต่ กบง. หวังว่า กระทรวงพาณิชย์จะสามารถใช้เครื่องมือกฎหมายอย่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ เข้ามาดูแลโครงสร้างราคาได้ 


" แนวทางการดูแลราคาน้ำมันนั้น มีหลาย ๆ แนวทางซึ่งต้องไปดูว่าโครงสร้างราคาเป็นอย่างไร ค่าการกลั่นเท่านี้พอหรือไม่ และที่เกินจากนี้เอาไปลดราคาน้ำมันได้ไหม อาจจะลดก็ได้ แต่จะลดเท่าไรต้องมาดูกันหากให้เขา 2 บาท อีก 3 บาทมาช่วยขายปลีกได้ไหม นั่นเป็นสิ่งที่คณะอนุฯจะพิจารณา แต่หากจะให้กระทรวงพลังงานใช้กฎหมายที่มีอยู่ไปดูแลค่าการกลั่นก็จะเป็นคนละวัตถุประสงค์ เพราะกฎหมายพลังงานจะเน้นดูเรื่องความปลอดภัยและมาตรฐานเป็นหลัก "นายวัฒนพงษ์   กล่าว


ข้อมูลจาก : กระทรวงพลังงาน  

ภาพจาก : AFP 

ที่มาข้อมูล : -

ที่มารูปภาพ :

avatar

TNNThailand

แท็กบทความ

น้ำมันแพง
ราคาน้ำมัน กฎหมายพาณิชย์
กระทรวงพาณิชยื
พาณิชย์
กบง
กองทุนน้ำมัน
ปั๊มน้้ำมัน
ราคาขายปลีกน้ำมัน