"วินเซฟ" จ่อปรับแผนอุ้มจยย.รับจ้าง ให้ครอบคลุมผู้ขี่จยย.ทั่วประเทศแทน

วันนี้ (9 ก.ค.65) นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ปัจจุบันราคาขายปลีกน้ำมันในประเทศลดลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นไปตามกลไกตลาดโลกเพราะนักลงทุนมีความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวกระทบความต้องการน้ำมัน ประกอบกับประเทศจีนจำกัดพื้นที่ป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในหลายเมือง ดังนั้นจึงทำให้ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสลดต่ำกว่า 100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

แหล่งข่าวจากกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า ขณะนี้สำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.) และกรมธุรกิจพลังงาน อยู่ระหว่างทำงบประมาณเพื่อออกมาตรการช่วยเหลือด้านวิกฤติพลังงานเฉพาะกลุ่มมากขึ้น โดยส่วนมากจะเป็นการต่อมาตรการเดิม 

อาทิ กลุ่มผู้ใช้ก๊าซหุงต้ม LPG (ภาคครัวเรือน) กลุ่มผู้ใช้ไฟฟ้าโดยให้ส่วนลดอัตราค่าไฟฟ้าผันแปร (FT) แก่ผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทบ้านอยู่อาศัยและประเภทกิจการขนาดเล็ก (ไม่รวมส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจ) ที่มียอดการใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 300 หน่วยต่อเดือน เป็นระยะเวลา 4 เดือน ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม-สิงหาคม 2565

ส่วนแนวทางในการพิจารณาช่วยเหลือกลุ่มผู้ใช้น้ำมัน "เบนซิน" จะเน้นช่วยเหลือกลุ่มผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ โดยปรับการช่วยเหลือผู้ใช้น้ำมันเบนซินผ่านโครงการ “วินเซฟ” ซึ่งช่วยเหลือกลุ่มผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้าง 3 เดือน (พฤษภาคม-สิงหาคม) มีผู้ได้สิทธิ์ทั้งหมด 106,655 สิทธิ์ ใช้งบประมาณ 80 ล้านบาท ให้ครอบคลุมผู้ใช้จักรยานยนต์ทั่วประเทศ 

สำหรับสถานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ณ วันที่ 3 กรกฎาคม 2565 ติดลบ 107,601 ล้านบาท โดยที่ผ่านมากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงมีภาระอุดหนุนราคาดีเซลและแอลพีจีอยู่ในระดับสูง ซึ่งนับตั้งแต่เกิดสงครามรัสเซียและยูเครนทำให้การอุดหนุนราคาพลังงานในช่วง 4 เดือน ที่ผ่านมา (มีนาคม-มิถุนายน) กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงอุดหนุนติดลบเพิ่มขึ้นเฉลี่ยเดือนละประมาณ 20,000 ล้านบาท 

ดังนั้นหากไม่มีเงินมาเสริมสภาพคล่องกองทุนน้ำมันฯ กระทรวงพลังงานจะปรับการช่วยเหลือลงเฉพาะกลุ่มมากขึ้น เพื่อพยุงสถานทางการเงินของกองทุนน้ำมันฯ.

ภาพจาก แฟ้มภาพ TNN ONLINE