
สรุปข่าว
กกพ. ประกาศ Ft ไฟฟ้าตามมติคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ให้สิทธิ์ประชาชนใช้ก๊าซอ่าวไทยก่อน ส่งผลค่า Ft บ้านเรือนเท่าเดิม 93.43 สตางค์/หน่วย หรือเท่ากับค่าไฟฟ้า 4.72 บาท/หน่วย ส่วนผู้ใช้ไฟฟ้ารายอื่นใช้ก๊าซส่วนเหลือ ให้ Ft เพิ่มเป็น 190.44 สตางค์/หน่วย หรือเท่ากับค่าไฟฟ้า 5.69 บาท/หน่วย ในรอบบิลค่าไฟฟ้า ม.ค. – เม.ย. 2023
ทั้งนี้ สมมติฐานราคาก๊าซฯที่ใช้ในการกำหนดค่า ft รอบดังกล่าว (สำหรับผู้ใช้ไฟฟ้าอื่น) คือ 542 บาท/mmbtu (ใช้ spot LNG ที่ 31.57 $/mmbtu)
บล.โนมูระ พัฒนสิน มอง Positive ต่อการประกาศขึ้นค่าไฟฟ้าสำหรับผู้ใช้ไฟฟ้านอกภาคครัวเรือน หรือก็คือภาคธุรกิจ และภาคอุตสาหกรรม ซึ่งโรงไฟฟ้าของ GPSC, BGRIM, GULF ที่มีการขายไฟฟ้าให้ลูกค้าอุตสาหกรรม/IU ได้ประโยชน์โดยตรง
โดยมองว่าตลาดจะตอบรับเชิงบวกต่อการปรับเพิ่ม Ft ที่ กกพ. ปรับขึ้นราว 97 สตางค์/หน่วย ซึ่งมากกว่าปัจจัยลบค่าก๊าซฯที่ปรับขึ้นราว 42 บาท/mmbtu (ผลักภาระก๊าซฯต้นทุนสูงมาให้ผู้ใช้ไฟฟ้าอื่น) คำนวณจาก 542 บาท/mmbtu ตาม fig1 Vs. 500 บาท/mmbtu ที่อ้างอิงจากราคา SPP ก๊าซฯ ม.ค.-เม.ย. 23 ของ PTT
1. ประเมินผลกระทบสุทธิจากการปรับขึ้น ft รอบ ม.ค.-เม.ย. 23 จะเป็น upside ต่อระมาณการกำไรปกติ 2023F ของ i) GPSC ราว 1,520 ลบ. หรือ +27% จาก 5,666 ลบ. ii) BGRIM ราว 427 ลบ. หรือ +26% จาก 1,624 ลบ. และ iii) GULF ราว 479 ลบ. หรือ +3% จาก 17,224 ลบ. ทั้งนี้สัดส่วนปริมาณขายไฟ IU ของ GPSC ราว 35%/ BGRIM 25%/ GULF 13% มอง GPSC เป็นผู้ได้ประโยชน์มากสุด
2. ในด้านของ upside ต่อ TP23F เราประเมิน GPSC ราว 0.5 บาท/หุ้น, BGRIM 0.16 บาท/หุ้น และ GULF ราว 0.04 บาท/หุ้น ซึ่ง upside ดังกล่าวมาจากการประเมิน upside จากการขึ้น ft ในช่วง 4 เดือน
นอกจากนี้ ปัจจัยบวกจากค่า ft ข้างต้น สุดท้ายจะขึ้นกับการ support ของ PTT ว่าจะเป็นไปตามสมมติฐานของ กกพ. หรือไม่ โดยเราคาด จะทราบผลการประชุมฯ ในวันที่ 16/ธ.ค./22
️คงมุมมองกำไรสุทธิกลุ่ม 4Q22F คาดจะโตทั้ง y-y q-q เพราะ fx gain ก้อนใหญ่เข้ามาหนุน (หาก BGRIM มีด้อยค่าฯก้อนใหญ่ จะเหลือเพียง flat y-y, โต q-q แทน) หากตัดรายการพิเศษออก คาดกำไรปกติกลุ่ม 4Q22F โต y-y ทรงตัว q-q โดยการโต y-y ตามกำไรขั้นต้นและส่วนแบ่งกำไรฯ ที่เพิ่ม เพราะ โรงไฟฟ้า IPP (โรง RG) ปิดซ่อมลดลง + มีโรงใหม่ COD เพิ่ม รวมถึง โรงไฟฟ้าในต่างประเทศมีค่าไฟที่เพิ่มขึ้น/ ปิดซ่อมลดลง/ COD เพิ่ม ส่วนการทรงตัว q-q เพราะแม้กำไรขั้นต้นจะเพิ่มขึ้น จากส่วนการขายไฟ IU ของโรง SPP ในประเทศได้การปรับขึ้นค่า ft หนุนเต็มไตรมาส แต่ถูกฉุดจากส่วนแบ่งกำไรฯ ที่ลดลง q-q เพราะโรงไฟฟ้าพลังน้ำออกจาก high season, โรงไฟฟ้า IPP เข้าสู่ low season และโรงไฟฟ้าในต่างประเทศบางส่วนมีปิดซ่อม ทั้งนี้หากพิจารณารายบริษัท คาด BGRIM (ฐานต่ำเพราะ 3Q22 ขาดทุน), GPSC, GULF จะมีกำไรโต q-q เด่นสุดตามลำดับ จาก margin ขายไฟ IU ที่เพิ่มขึ้น ส่วน RATCH ลดลง q-q มากสุด เพราะโรงหงสาปิดซ่อม
คงน้ำหนัก Bullish กลุ่มโรงไฟฟ้า เลือก GPSC (Buy; TP84) เป็น top pick มองปัจจัยบวกต่อกลุ่มใน 2023F เข้ามาต่อเนื่อง ทั้ง
i) โรงไฟฟ้าใหม่ COD / เริ่มรับรู้โรงไฟฟ้าที่ M&A เข้ามาตั้งแต่ 1Q-4Q23F (EGCO, GULF, RATCH)
ii) แรงกดดันจากต้นทุนพลังงานที่มีต่อกลุ่มจะผ่อนคลายมากขึ้นตั้งแต่ 2Q23F เป็นต้นไป รวมถึงการปรับขึ้น ft ต่อเนื่อง หนุนการฟื้นของ GPM ขายไฟ IU ก้าวกระโดด และ
iii) upside จากโครงการระหว่างศึกษา/เจรจาทั้งในและต่างประเทศ ที่คาดเห็นความคืบหน้าใน 1H23F ทั้งนี้เราเลือก top pick เป็น GPSC ที่คาดได้ประโยชน์ ft ขาขึ้น มากสุดในกลุ่ม และราคาหุ้นยัง laggard
ปิดตลาดวันนี้
GPSC ปิดไปที่ 72.50 บาท เพิ่มขึ้น 2 บาท หรือ +2.84%
BGRIM ปิดไปที่ 39.25 บาท เพิ่มขึ้น 1.25 บาท หรือ +3.29%
GULF ปิดไปที่ 53.50 บาท ลดลง 0.25 บาท หรือ -0.47%
ติดตามข่าวหุ้นและการลงทุนทางไลน์
• Line @TNNWEALTH : https://bit.ly/3tCKmiD
———————————————————————
ติดตาม TNN Wealth ผ่านช่องทางต่าง ๆ ได้ที่
• Website : https://bit.ly/TNNWealthWebsite
• Youtube : https://bit.ly/TNNWealthYoutube
• TikTok : https://bit.ly/TNNWealthTikTok
หรือดูรายการ Live ได้ทาง https://bit.ly/3HmUu4O
- “หุ้นไทย” หมดแรง “ภาษีสหรัฐฯ” ตัดสินไปต่อหรือรอ “1,000 จุด” l What's up Wealth
- หุ้นไทยวันนี้ 30 พฤษภาคม 2568 ปิดลบ 14.83 จุด รับแรงกดดัน MSCI Rebalance
- หุ้นไทยวันนี้ 29 พฤษภาคม 2568 ปิดบวก 3.27 จุด รับศาลสั่งระงับมาตรการภาษี "ทรัมป์"
- หุ้นไทยวันนี้ 28 พฤษภาคม 2568 ปิดลบ 2.68 จุด ยังขาดปัจจัยหนุน-เกาะติดรายงานเฟด
- หุ้นไทยวันนี้ 27 พฤษภาคม 2568 ปิดลบ 15 จุด เศรษฐกิจซบเซา-เจรจาการค้าไม่ชัดเจน
- หุ้นไทยวันนี้ 23 พฤษภาคม 2568 ปิดบวก 2.99 จุด คาดสัปดาห์หน้าแกว่งกรอบจำกัดรอปัจจัยใหม่
- นักวิเคราะห์ชี้ CPAXT โดดเด่นในกลุ่มค้าปลีก รับเทรนด์ประหยัด–ชูสินค้าจำเป็น หนุนกลยุทธ์เริ่มเห็นผล
ที่มาข้อมูล : -
TNNThailand