"ค่าไฟงวดใหม่" กกพ.เคาะ 3 ทางเลือกถูกสุด 4.77 บาท/หน่วย

"ค่าไฟงวดใหม่" กกพ.เคาะ 3 ทางเลือกถูกสุด 4.77 บาท/หน่วย

สรุปข่าว


กกพ. เคาะ "ค่าไฟ" งวดเดือน พ.ค. - ส.ค.66 ใน 3 ทางเลือก แพงสุดหน่วยละ 6.72 บาท ถูกสุดหน่วยละ 4.77 บาท พร้อมให้นำไปเปิดรับฟังความคิดเห็น


แนวโน้มสถานการณ์ราคาก๊าซธรรมชาติแอลเอ็นจีน ในตลาดโลกที่ราคาลดลง รวมทั้งปริมาณก๊าซธรรมชาติในอ่าวไทยที่ทยอยปรับเพิ่มขึ้น และอัตราแลกเปลี่ยนที่อ่อนค่า ประกอบ กับภาคนโยบาย (กพช.) ไม่มีนโยบายขยายเวลาการจัดสรรก๊าซธรรมชาติในอ่าวไทยให้ประชาชนก่อน ส่งผลให้ภาคอุตสาหกรรมและประชาชนต้องจ่ายค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ หรือ ค่าเอฟที ในอัตราเดียวกันตามต้นทุนการผลิต ดังนั้น กกพ. จึงจะเสนอรับฟัง ความเห็น 3 ทางเลือกในการจ่ายคืนภาระต้นทุนที่เกิดขึ้นจริง (คงค้าง) กฟผ. ในอัตรา 293.60 105.25 และ 98.27 สตางค์/หน่วย


นายคมกฤช ตันตระวาณิชย์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงาน กกพ.) ในฐานะโฆษกคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เปิดเผยว่า กกพ. ในการประชุมครั้งที่ 12/2566 (ครั้งที่ 840) เมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2566 มีมติรับทราบภาระต้นทุนค่าเอฟที่ประจำรอบ ก.ย. - ธ.ค. 2565 และ เห็นชอบผลการคำนวณประมาณค่าเอฟทีสําหรับงวดเดือน พ.ค. - ส.ค. 2566 ใน 3 แนวทาง พร้อมให้นำไปเปิดรับฟังความคิดเห็นดังนี้


กรณีที่ 1 (จ่ายคืนภาระต้นทุนคงค้างใน 1 งวด) 


ค่าเอฟทีเรียกเก็บประจำงวดเดือน พ.ค. – ส.ค. 2566 จำนวน 293.60 สตางค์ต่อหน่วย แบ่งเป็นเอฟทีขายปลีกประมาณการที่สะท้อนต้นทุนเดือน พ.ค.- ส.ค. 2566 จำนวน 63.37 สตางค์ต่อหน่วย และเงินเรียกเก็บเพื่อชดเชยต้นทุนที่เกิดขึ้นจริงของ กฟผ. ทั้งหมด หรือเงินภาระต้นทุนคงค้างสะสมเดือน ก.ย. 2564 – ธ.ค. 2565 จำนวน 150,268 ล้านบาท คิดเป็น 230.23 สตางค์ต่อหน่วย ทำให้ค่าไฟฟ้า (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) ปรับเพิ่มขึ้นเป็น 6.72 บาทต่อหน่วย ตามรายงานการคำนวณตามสูตรเอฟที


กรณีที่ 2 (จ่ายคืนภาระต้นทุนคงค้างใน 5 งวด) 


าเอฟทีเรียกเก็บประจำงวดเดือน พ.ค. – ส.ค. 2566 จำนวน 105.25 สตางค์ต่อหน่วย แบ่งเป็นเอฟทีขายปลีกประมาณการที่สะท้อนต้นทุนเดือน พ.ค.- ส.ค. 2566 จำนวน 63.37 สตางค์ต่อหน่วย และเงินทยอยเรียกเก็บเพื่อชดเชยต้นทุนที่เกิดขึ้นจริงที่คาดว่าจะคงเหลือจากเดือน ม.ค. – เม.ย. 2566 จำนวน 136,686 ล้านบาท บางส่วน (เงินภาระต้นทุนคงค้างสะสมเดือน ก.ย. – ธ.ค. 2565 หักภาระต้นทุนคงค้างที่ กกพ. เห็นชอบให้ทยอยเรียกเก็บบางส่วนเดือน ม.ค. – เม.ย. 2566 จำนวน 22.22 สตางค์ต่อหน่วย เป็นเงินประมาณ 13,584 ล้านบาท) โดยแบ่งเป็น 5 งวดๆละ 27,337 ล้านบาทหรืองวดละ 41.88 สตางค์ต่อหน่วยเพื่อให้ กฟผ. ได้รับเงินคืนครบภายในเดือน ธ.ค. 2567 โดย กฟผ. จะต้องบริหารภาระต้นทุนที่เกิดขึ้นจริงแทนประชาชนจำนวน 109,349 ล้านบาท ทำให้ค่าไฟฟ้า (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) ปรับเพิ่มขึ้นเป็น 4.84 บาทต่อหน่วย ตามข้อเสนอของ กฟผ.


กรณีที่ 3 (จ่ายคืนภาระต้นทุนคงค้างใน 6 งวด) 


ค่าเอฟทีเรียกเก็บประจำงวดเดือน พ.ค. – ส.ค. 2566 จำนวน 98.27 สตางค์ต่อหน่วย แบ่งเป็นเอฟทีขายปลีกประมาณการที่สะท้อนต้นทุนเดือน พ.ค.- ส.ค. 2566 จำนวน 63.37 สตางค์ต่อหน่วย และเงินทยอยเรียกเก็บเพื่อชดเชยต้นทุนที่เกิดขึ้นจริงคาดว่าจะคงเหลือจากเดือน ม.ค. – เม.ย. 2566 จำนวน 136,686 ล้านบาท บางส่วน โดยแบ่งเป็น 6 งวดๆ ละ 22,781 ล้านบาทหรืองวดละ 34.90 สตางค์ต่อหน่วยเพื่อให้ กฟผ. ได้รับเงินคืนครบภายใน 2 ปี (เม.ย. 2568) โดย กฟผ. จะต้องบริหารภาระต้นทุนที่เกิดขึ้นจริงแทนประชาชนจำนวน 113,905 ล้านบาท ทำให้ค่าไฟฟ้า (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) ปรับเพิ่มขึ้นเป็น 4.77 บาทต่อหน่วย


ร่วมแสดงความคิดเห็น


ทั้งนี้ กกพ. ขอเชิญชวนประชาชนผู้ใช้ไฟและทุกภาคส่วน ร่วมแสดงความคิดเห็นผลการผลการคำนวณค่าไฟฟ้าตามสูตรการปรับอัตราค่าไฟฟ้าโดยอัตโนมัติ (ค่าเอฟที) เเละข้อเสนอทางเลือก เพื่อเปิดรับฟังความคิดเห็นประกอบการพิจารณาเรียกเก็บในรอบเดือน พ.ค. - ส.ค. 2566 ทางเว็บไซต์สำนักงาน กกพ. www.erc.or.th ตั้งแต่วันที่ 10 – 20 มีนาคม 2566 ก่อนที่จะรวบรวมและสรุปผล เพื่อให้ กกพ. พิจารณาประกาศอย่างเป็นทางการต่อไป



ค่าไฟงวดใหม่ กกพ.เคาะ 3 ทางเลือกต่ำสุด 4.77 บาท/หน่วยภาพจาก กกพ.

 


ค่าไฟงวดใหม่ กกพ.เคาะ 3 ทางเลือกถูกสุด 4.77 บาท/หน่วยภาพจาก กกพ.

 


ค่าไฟงวดใหม่ กกพ.เคาะ 3 ทางเลือกถูกสุด 4.77 บาท/หน่วยภาพจาก กกพ.

 


ค่าไฟงวดใหม่ กกพ.เคาะ 3 ทางเลือกถูกสุด 4.77 บาท/หน่วยภาพจาก กกพ.

 








ที่มา กกพ.

ภาพจาก การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.)

ที่มาข้อมูล : -

ที่มารูปภาพ :

avatar

TNNThailand

แท็กบทความ

ค่าไฟค่าไฟงวดใหม่กกพ
ค่าไฟ ราคา
ค่าไฟหน่วยละ