
สรุปข่าว
วันนี้ (11 ก.ย.62) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากกรมสรรพสามิตจะมีการปรับขึ้นภาษีน้ำตาลในเครื่องดื่มที่มีความหวานวันที่ 1 ต.ค.นี้ ล่าสุดกรมฯ อยู่ระหว่างพิจารณาปรับอัตราภาษีกลุ่มเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอลล์ใหม่ โดยจะมีการจัดกลุ่มเครื่องดื่มแยกประเภทให้ชัดเจนมากขึ้น เช่น กลุ่มของเครื่องดื่มฟังก์ชันนัล ดริ้งค์ หรือเครืองดื่มนวัตรกรรม เช่น น้ำเปล่าที่มีการเติมวิตามินซีหรือคอลเลเจน ที่มีผลดีต่อสุขภาพจะมีการปรับลดอัตราภาษีลงจากที่จัดเก็บเท่าเครื่องดื่มน้ำอัดลมที่ 14% บวกภาษีความหวานตามปริมาณน้ำตาล ทั้งนี้เพื่อเป็นการส่งเสริมให้ผู้ประกอบการหันไปใช้นวัตกรรมในการผลิตสินค้ามากขึ้น
ส่วนของเครื่องดื่มประเภทเบียร์ที่ไม่มีแอลกอฮอล์ หรือ 0% จากที่จัดเก็บภาษีเท่าน้ำอัดลมจะมีการแยกพิกัดใหม่ให้สูงกว่าน้ำอัดลม แต่ต่ำกว่าเบียร์ เพื่อลดการบริโภคของคนรุ่นใหม่คาดว่าจะได้ข้อสรุปในเร็วๆ นี้
ด้าน นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้มอบหมายนโยบายผู้บริหารกรมสรรพสามิตให้จัดเก็บภาษีสุรา เบียร์ ยาสูบ ให้รัดกุมมากขึ้น โดยกำชับให้เร่งนำอี-แสตมป์มาใช้ในการจัดเก็บภาษีเพื่อป้องกันการรั่วไหล รวมถึงภาษีน้ำมันที่ส่งออกไปแล้วนำกลับเข้ามาในประเทศโดยให้เชื่อมโยงข้อมูลกับกรมภาษีอื่นๆ
ส่วนภาษียาสูบที่จะมีการปรับขึ้นเป็น 40% ในปี 2563 นั้น กรมสรรพสามิตอยู่ระหว่างพิจารณาข้อเรียกร้อง และผลกระทบของผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายอีกครั้งหนึ่ง
อย่างไรก็ตาม ในอนาคตจะมีการผลิตและนำเข้ารถยนต์ไฟฟ้าและแบตเตอรี่ที่ใช้กับรถมากขึ้น จึงเห็นควรให้ตั้งกองทุนขึ้นมาดูแลการกำจัดแบตเตอรี่เพื่อไม่ให้เกิดมลพิษกับสิ่งแวดล้อมด้วย
- "คลัง"จ่อปรับเงื่อนไขเงินอุดหนุน"ค่ายรถ EV"
- 'สรรพสามิต' ยันจ่ายอุดหนุนให้ NETA แล้ว
- "คลัง" เดินหน้าขับเคลื่อนนโยบาย" Zero Tolerance "
- "ภาษีความเค็ม" เตรียมบังคับใช้ เก็บตามขั้นบันได ตั้งเป้าคนไทยลดโซเดียม
- สรรพสามิตจ่อรื้อราคาขายปลีกแนะนำ
- 7 ปีภาษีความหวาน เครื่องเครื่องดื่มปรับสูตรรับมือ
- สรรพสามิต เร่งศึกษาเก็บ "ภาษีความเค็ม" คาดชัดเจนปี 68
ที่มาข้อมูล : -
TNNThailand