กรมสรรพากรขอปรับลดเป้าจัดเก็บรายได้ปีนี้ลง1.56แสนล้าน

วันนี้ (12มี.ค.63) นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวถึงการจัดเก็บรายได้ของกรมสรรพากรซึ่งคิดเป็นสัดส่วนกว่า 80% ของรายได้รัฐบาลนั้นขณะนี้กรมฯอยู่ระหว่างทำตัวเลขผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจและโควิด -19 ก่อนหารือกับสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เพื่อขอปรับลดเป้าหมายการจัดเก็บภาษีปีงบประมาณ 2563 ลงจากเดิม 2.116 ล้านล้านบาท เนื่องจากมองว่าสานการณ์ที่เกิดขึ้นอาจเป็นไปได้ยาก  อีกทั้งล่าสุดรัฐบาลยังมีมาตรการภาษีเพื่อช่วยเหลือกลุ่มธุรกิจและประชาชนที่กระทบจากโควิด-19 รวม 5 มาตรการ คาดว่ากระทบต่อรายได้ของกรมสรรพากรกว่า 1.65 แสนล้านบาท

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้เริ่มเห็นสัญญาณการจัดเก็บภาษีลดลง โดยเดือนกุมภาพันธ์การจัดเก็บรายได้ของกรมติดลบ 1,377 ล้านบาท ผลจากภาษีมูลค่าเพิ่ม (แวต) ลดลงมากแม้ช่วง 5 เดือนแรกปีงบ 2563 ยังเกินเป้า 2,454 ล้านบาท แต่ช่วงที่เหลือของปีกรมฯคงต้องเหนื่อยกับการจัดเก็บภาษี แต่จะพยายามไม่ต่ำว่าปีงบ 2562 ที่จัดเก็บได้ 2.009 ล้านล้านบาท

สำหรับรายละเอียดของมาตรการภาษีที่ช่วยเหลือผลกระทบจากเชื้อไวรัสโควิด-19 ประกอบด้วยการคืนสภาพคล่องให้ผู้ประกอบการนิติบุคคลและบุคคลธรรมดาด้วยการลดอัตราภาษีหัก ณ ที่จ่าย จาก 3% เหลือ 1.5% ตั้งแต่ 1 เมษายน-30 กันยายน 63 และลดอัตราภาษีหัก ณ ที่จ่าย เหลือ 2% ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 63-31 ธันวาคม 64 คาดจะกระทบการจัดเก็บรายได้ ประมาณ 8.7 หมื่นล้านบาท ฃ

ส่วนมาตรการให้เอสเอ็มอีนำรายจ่ายดอกเบี้ยมาหักลดหย่อนภาษีได้ 1.5 เท่า วันที่ 1 เมษายน-31 ธันวาคม 63 คาดสูญเสียรายได้ประมาณ 500 ล้านบาท  และมาตรการส่งเสริมเสถียรภาพของการจ้างงานช่วงการระบาดของโควิด-19 คาดว่ากรมสูญเสียรายได้ประมาณ 6.4 หมื่นล้านบาท

สุดท้ายมาตรการสร้างความเชื่อมั่นในระบบตลาดทุน โดยให้ประชาชนทั่วไปหักลดหย่อนค่าซื้อหน่วยลงทุนในกองทุนเอสเอสเอฟ จะทำให้กรมสูญเสียรายได้ประมาณ 1.4 หมื่นล้านบาท

เกาะติดข่าวที่นี่ 
website: www.TNNThailand.com  
facebook : TNNThailand 
twitter : @TNNThailand 
Line : @TNNThailand 
Youtube Official : TNNThailand