“ฟู้ดเดลิเวอรี่” สมรภูมิเดือด ฝ่าโควิด- 19 พร้อมส่งทุกออเดอร์

“ฟู้ดเดลิเวอรี่” สมรภูมิเดือด ฝ่าโควิด- 19 พร้อมส่งทุกออเดอร์

สรุปข่าว

วันนี้ ( 8 เม.ย.63)  รายการเศรษฐกิจ INSIGHT รายงานว่า  หลังจากมีการบังคับใช้ พ.ร.บ. โรคติดต่อ พ.ศ.2558 เพื่อควบคุมการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสเชื้อโรคไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 Coronavirus (2019-nCoV) หรือ โควิด-19 เนื่องจากสถานการณ์การระบาดมีแนวโน้มสูงขึ้นต่อเนื่อง อาจส่งผลให้เกิดการแพร่ระบาดกระจายขยายวงกว้าง ที่ประชุมคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อกรุงเทพมหานคร มีมติสั่งปิดห้างสรรพสินค้า สถานที่เสี่ยงต่างๆ หลายแห่ง ตามมาตรา 35 พ.ร.บ. โรคติดต่อฯ เป็นระยะเวลา 22 วัน ตั้งแต่ 22 มี.ค. - 12 เม.ย.2563


ในส่วนธุรกิจร้านอาหารร้านเครื่องดื่มต่างๆ ทั้งในและนอกห้างฯ   ปรับเปลี่ยนรูปแบบการให้บริการบางส่วนปรับรูปแบบปิดพื้นที่รับประทานในร้านเหลือเพียงการซื้อกลับบ้าน (Take away) ดิ้นสู้ตลาดเดลิเวอรี่(Delivery)  ชดเชยรายได้หดหายไปจากหน้าร้าน จับมือพาร์ทเนอร์ในวงการเดลิเวอรี่ที่มีอยู่หลายเจ้าฝ่าวิกฤตโควิด-19


โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทยระบุว่า วันที่ 22 มี.ค.-30 เม.ย. 2563 ที่มีการปิดสถานประกอบการ   ทำให้มูลค่าตลาดบริการ "ฟู้ดดีลิเวอรี่" ขยายตัว 35-40%  เทียบช่วงเวลาปกติ หรือเพิ่มขึ้นจาก 3,300 ล้านบาท เป็น 4,500 ล้านบาท   ผู้ประกอบการควรปรับตัวเพิ่มช่องทางสร้างรายได้เพื่อเข้าถึงลูกค้ากลุ่มใหม่    ไม่ว่าจะผ่านช่องทางของตนเอง   หรือร่วมกับผู้ประกอบการที่พัฒนาแอปพลิเคชั่นส่งอาหาร ทั้งคาดการณ์ว่า   ตลาด e-Commerce มีแนวโน้มโตขึ้น 20-30% หรือเพิ่มจาก 26,200 ล้านบาท เป็น 33,000 ล้านบาท จากพฤติกรรมผู้บริโภคที่ไม่สามารถใช้จ่ายผ่านช่องทางหน้าร้าน   

สำหรับมูลค่ารวมของธุรกิจฟู้ดเดลิเวอรี่ ปี 2562 ซึ่งอยู่ราวๆ 33,000 - 35,000 ล้านบาท เป็นธุรกิจที่โตต่อเนื่องทุกปีประมาณ 10% ของมูลค่าธุรกิจร้านอาหารของประเทศไทยโดยฟู้ดเดลิเวอรี่แอปพลิเคชั่น มีส่วนแบ่งรายได้ราว 3,400 ล้านบาท ขณะที่ผู้ขับขี่มอเตอร์ไซค์ส่งอาหาร มีส่วนแบ่งรายได้ราว 3,900 ล้านบาท


 ในไทยปัจจุบันมีผู้ให้บริการฟู้ดดีลิเวอรี่ รายใหญ่ 4 ราย ได้แก่  แกร็บ เปิดได้ 2 ปี กว่า แต่ส่วนแบ่งตลาดมากที่สุดทั้งยอดออร์เดอร์ช่วงปกติกว่า 1 ล้านออร์เดอร์/ เดือน และช่วงวิกฤตโควิด-19 โตขึ้นกว่า 3 เท่า มีร้านอาหารสมัครเข้าใช้เฉลี่ย 2,000 ร้านค้า/วัน สูงกว่าปกติ 3 เท่า จากข้อมูลแกร็บ ณ สิ้นปีที่แล้ว มีพาร์ตเนอร์ "คนขับ" ราว 1 แสนคน และเปิดรับเพิ่มกว่า 29,000 คน ช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา และจะเปิดรับอีกกว่า 35,000 อัตรา ในเดือน เม.ย.นี้ 


ส่วนไลน์แมน (LINE MAN) ดาวรุ่งฟู้ดเดลิเวอรี่ที่เติบโตเร็วมากในไทย โดดเด่นด้วยการเป็นส่วนหนึ่งของ LINE แอปพลิเคชั่นที่มีผู้ใช้งานมากกว่า 44 ล้านราย ตลอด 3 ปีที่ผ่านมามียอดผู้ใช้หลายหลายล้านออเดอร์ เติบโตกว่า 300% แม้ค่าบริการแพงกว่าเจ้าอื่นๆ แต่โปร่งใสไม่บวกเพิ่มในราคาค่าอาหาร และไม่จำกัดเรื่องระยะทางการจัดส่ง  ณ สิ้นปี 2562 มีเครือข่ายคนขับ 50,000 ราย มีโมเดลคิดค่าบริการทั้งคิดตามระยะ ทาง ส่วนนี้ผู้บริโภครับผิดชอบ เว้นแต่ ร้านค้าต้องการเข้าร่วมทำโปรโมชั่น ค่าส่งราคาถูกก็จะเรียกเก็บค่าธรรมเนียม 25-30% 

ขณะที่ Foodpanda เติบโตแรงมาทะลุล้านออเดอร์เช่นกัน จุดเด่นป็นแพลตฟอร์มส่งอาหารออนไลน์ที่มีการจัดส่งฟรีเป็นเจ้าแรก ขยายจำนวนร้านอาหารครอบคลุมทั้งร้านตามห้างฯ รวมทั้งสตรีตฟู้ดเจ้าดัง  foodpanda คิดค่า ธรรมเนียม 30-35% มีคนขับ 30,000 คน   และ GET FOOD น้องใหม่ในสมรภูมิฟู้ดเดลิเวอรี่ ที่ค่อยๆ เติบโต มียอดดาวน์โหลดแอปฯ แล้วกว่า 2.2 ล้านครั้ง มีคำสั่งซื้อแสนออร์เดอร์ต่อเดือนมีร้านค้าในระบบกว่า 20,000 ร้านมีคนขับราว 40,000 คน



เกาะติดข่าวที่นี่
website: www.TNNThailand.com 
facebook : TNNThailand
twitter : @TNNThailand
Line : @TNNThailand
Youtube Official : TNNThailand

ที่มาข้อมูล : -

ที่มารูปภาพ :

avatar

TNNThailand

แท็กบทความ

เศรษฐกิจINSIGHT
CPร่วมจับมือสู้Covid
COVID_19
COVID2019
โควิด19