
สรุปข่าว
จากความพยายามของสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรือ สกพอ. ที่ต้องการให้โครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 3 (ท่าเทียบเรือ F) ได้ข้อยุติการเจรจาต่อรอง และลงนามในสัญญาร่วมทุนได้ภายในเดือนเมษายนนี้ อาจต้องเลื่อนออกไป
ทั้งนี้ มีรายงานข่าวว่า คณะกรรมการคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุนโครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 3 (ท่าเทียบเรือ F) ได้ให้กลุ่ม GPC ประกอบด้วย บริษัท พีทีที แทงค์ เทอร์มินัล จำกัด ในกลุ่ม ปตท. , บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ และบริษัท China Harbour Engineering Commpany Limited ซึ่งเป็นผู้ผ่านการประเมินในการประมูลโครงการดังกล่าว จัดทำข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลประโยชน์ตอบแทนให้แก่รัฐ เพื่อนำเสนอต่อที่ประชุมเจรจาต่อรอง เมื่อวันจันทร์ที่ 27 เมษายน ที่ผ่านมา จากเดิมที่เคยเสนอผลตอบแทน จำนวน 12,000 ล้านบาท ซึ่งต่ำกว่าราคากลางที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติ จำนวน 32,225 ล้านบาท
ด้านเรือโทยุทธนา โมกขาว รองผู้อำนวยการ สายบริหารการเงินและกลยุทธ์องค์กร การท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) ในฐานะคณะกรรมการคัดเลือกฯ ยอมรับว่า การเจรจา มีความล่าช้ากว่าแผน ทำให้การเปิดบริการโครงการดังกล่าว ต้องเลื่อนออกไป จากเดิมที่วางแผนไว้เปิดให้บริการกลางปี 2566 อาจจะต้องเลื่อนไปถึงต้นปี 2567
นอกจากนี้ โครงการดังกล่าว ทางตัวแทนพนักงานปกป้องผลประโยชน์การท่าเรือแห่งประเทศไทย ได้ยื่นหนังสือถึงนายวรวิทย์ สุขบุญ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อขอให้ตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการคัดเลือก อาจมีพฤติกรรมเข้าข่ายการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ หรือ ปล่อยปะละเลย เอื้อประโยชน์แก่เอกชนที่เหลือรายเดียวในการคัดเลือกเอกชน พร้อมทั้งมีรายงานเสนอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีคำสั่งระงับการดำเนินการคัดเลือกเอกชนโครงการนี้ไว้เป็นการชั่วคราว จนกว่าการตรวจสอบจะแล้วเสร็จ
สำหรับโครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 3 (ท่าเทียบเรือ F) มีมูลค่าโครงการ 8.4 หมื่นล้านบาท เป็นร่วมลงทุนระหว่างภาครัฐและเอกชน โดยเป็น 1 ใน 5 โครงการโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญของเขตพัมนาพิเศษภาคตะวันออก หรือ อีอีซี
เกาะติดข่าวที่นี่
website: www.TNNThailand.com
facebook : TNNThailand
twitter : @TNNThailand
Line : @TNNThailand
Youtube Official : TNNThailand
ที่มาข้อมูล : -

TNNThailand