MINTเจอพิษโควิดขาดทุน1,773 ล.

บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ MINT ประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 1 สิ้นสุด 31 มีนาคม 2563 ขาดทุนสุทธิ 1,773.52 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไร 583.13 ล้านบาท

โดยบริษัท มีรายได้จากการดำเนินงานจำนวน 22,421 ล้านบาทในไตรมาส 1 ปี 2563 ลดลงร้อยละ 22 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยการลดลงดังกล่าวมีสาเหตุมาจากผลกระทบเชิงลบจากการระบาดของโรค COVID-19 ต่อทั้งสามธุรกิจของบริษัท ซึ่งส่งผลให้สภาพแวดล้อมในการดำเนินงานมีความท้าทายเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะสำหรับไมเนอร์โฮเทลส์ทั่วโลก และไมเนอร์ฟู้ดในประเทศจีน

เพื่อที่จะเปรียบเทียบผลการดำเนินงานบนพื้นฐานการรายงานเดียวกันกับปีที่แล้ว บริษัทมีกำไรก่อนหักดอกเบี้ยจ่าย ภาษีและค่าเสื่อม (EBITDA) จากการดำเนินงาน ซึ่งไม่รวมผลกระทบจากการบังคับใช้มาตรฐานการบัญชี TFRS16 เป็นลบอยู่ที่จำนวน 111 ล้านบาทในไตรมาส 1 ปี 2563 ลดลงจาก EBITDA จากการดำเนินงานที่เป็นบวกจำนวน 4,272 ล้านบาทในไตรมาส 1 ปี 2562 โดยการลดลงของ EBITDA ในอัตราที่เร็วกว่าการลดลงของรายได้เป็นผลมาจากรายได้ที่ลดลงอย่างรวดเร็วและฉับพลันจากผลกระทบของการระบาดครั้ง ใหญ่ ส่งผลให้ความสามารถในการทำกำไรเป็นลบมากยิ่งขึ้น เนื่องจากการลดลงของต้นทุนในอัตราที่ช้ากว่าการลดลงของรายได้โดยส่วนขาดทุน EBITDA ส่วนใหญ่มาจาก เอ็นเอช โฮเทล กรุ๊ป ซึ่งมีสัดส่วนโครงสร้างธุรกิจแบบเช่าบริหารที่สูง ส่งผลให้มีความสามารถในการทำกำไรที่ต่ำกว่าความสามารถในการทำกำไรโดยรวมของบริษัท โดยไมเนอร์โฮเทลส์ ยังคงมี EBITDA ที่เป็นบวก ทั้งนี้หากรวมผลกระทบจากการบังคับใช้มาตรฐานการบัญชีTFRS16 ด้วยไม่ได้มีการบันทึกค่าเช่าส่งผลให้ ในไตรมาส 1 ปี 2563 บริษัทมี EBITDA จำนวน 2,982 ล้านบาทลดลงร้อยละ 30 จากในไตรมาส 1 ปี 2562

บริษัทมีผลขาดทุนจากการดำเนินงาน ซึ่งไม่รวมผลกระทบจากการบังคับใช้มาตรฐานการบัญชี TFRS16 จำนวน 2,834 ในไตรมาส 1 ปี 2563 ลดลงจากกำไรสุทธิจากการดำเนินงานจำนวน 633 ล้านบาทในไตรมาส 1 ปี 2562 เนื่องมาจากสาเหตุที่กล่าวมาข้างต้น ทั้งนี้ หากรวมผลกระทบเชิงลบจากการบังคับใช้มาตรฐานการบัญชี TFRS16 ซึ่งรวมถึงค่าตัดจำหน่ายและดอกเบี้ยจ่ายที่เพิ่มขึ้นสุทธิด้วยค่าเช่าและภาษีจ่ายที่เกี่ยวข้องกับสัญญาเช่าที่ลดลงข้างต้นจำนวน 339 ล้านบาท บริษัทมีผลขาดทุนจากการดำเนินงานจำนวน 3,173 ล้านบาทในไตรมาส 1 ปี 2563

นอกจากนี้บริษัทมีการบันทึกรายการที่เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียวในไตรมาส 1 ปี 2563 และไตรมาส 1 ปี 2562 ตามรายละเอียดในตารางในหน้าที่ 2 โดยเมื่อนับรวมรายการที่เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียวและผลกระทบจากการบังคับใช้มาตรฐานการบัญชีTFRS16 บริษัทมีรายได้ตามงบการเงินลดลงร้อยละ 22 จากช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่จำนวน 22,533 ล้านบาท และ EBITDA ตามงบการเงินเพิ่มขึ้นร้อยละ 3 อยู่ที่จำนวน 4,402 ล้านบาทในไตรมาส 1 ปี 2563 ในขณะที่กำไรสุทธิตามงบการเงินลดลงเป็นผลขาดทุนจำนวน1,774 ในไตรมาส 1 ปี 2563

เกาะติดข่าวที่นี่
website: www.TNNThailand.com 
facebook : TNNThailand
twitter : @TNNThailand
Line : @TNNThailand
Youtube Official : TNNThailand