
สรุปข่าว
วันนี้ ( 4 เม.ย.64 ) ในแต่ละปีธนาคารโลก(World Bank) ได้มีการเก็บข้อมูลด้านต่างๆเพื่อการประเมินคะแนนความยากง่ายการทำธุรกิจ หรือ Ease of doing Business ของ 190 ประเทศทั่วโลก และล่าสุดไทยอยู่อันดับ 21 ประเทศที่สะดวกในการลงทุนมากที่สุด แต่วันนี้ รัฐบาลมองไกลกว่านั้น ด้วยการตั้งเป้าขึ้นไปยืน ทอปเท็น หรือ 10 อันดับแรกของโลก เรียกว่ากลุ่มผู้นำในการทำธุรกิจของโลกก็ว่าได้
นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานเปิดเผยภายหลังการเป็นประธานการประชุมรายงานผลการดำเนินการตามแนวทางการปรับปรุงสภาพแวดล้อมสำหรับการประกอบธุรกิจในประเทศไทยของธนาคารโลก (Doing Business) ว่าได้ตั้งเป้าหมายการทำงานในเรื่องนี้ว่าภายในปี 2565 หรืออีก 2 ปีข้างหน้าประเทศไทยจะต้องได้รับการจัดอันดับเป็น 1 ใน 10 ประเทศแรกของโลกที่ได้รับการจัดอันดับความยากง่ายในการจัดตั้งธุรกิจ จากปัจจุบันอยู่ที่อันดับ 21 ของโลก
ทั้งนี้ได้สั่งการในเรื่องของการเชื่อมโยงระบบการบริการเชื่อมโยงข้อมูลหน่วยงานภาครัฐและภาคธุรกิจ ในส่วนที่เป็น National Single Window(NSW) ที่ได้วางระบบไว้แล้วของทุกส่วนให้สามารถเชื่อมโยงข้อมูลกันได้จริงภายในเดือน ก.ย.นี้เพื่อให้ขั้นตอนที่เกี่ยวข้อง NSW มีความรวดเร็วมากขึ้น ซึ่งเป็นความพยายามของประเทศไทย เพื่อเร่งรัด ปรับปรุงในทุกด้าน ซึ่งจะมีผลต่อความสามารถในการแข่งขันกับประเทศอื่นๆ ด้วย โดยการเข้าเป็น 10 อันดับแรกของโลก ต้องทำให้ดีกว่าประเทศมาเลเซีย และอินโดนีเซีย ซึ่งมีอันดับใกล้เคียงกับไทยด้วย
สำหรับการดำเนินการในด้านต่างๆที่เป็นการปฏิรูปการทำงานในเรื่องของการทำธุรกิจในประเทศไทย แบ่งเป็น 11 ด้าน ได้แก่
1.ด้านการเริ่มต้นธุรกิจโดยลดระยะเวลาการจองชื่อเหลือ 0.5 วันด้วยเทคโนโลยี AI
2.ด้านการขออนุญาตก่อสร้างสามารถยื่นขอแบบออนไลน์
3.การขอใช้ไฟฟ้ายกเลิกการเรียกเก็บหลักประกันให้บริการการขอใช้ไฟฟ้าใหม่ได้ภายใน 14 วันปฏิทิน
4.ด้านการจดทะเบียนทรัพย์สินติดตั้งเครื่องรับชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์
5.การได้รับสินเชื่อเชื่อมโยง"ระบบค้นหาข้อมูลหลักประกัน"
6.ด้านการคุ้มครองผู้ลงทุน ความสะดวกในการจัดประชุมและส่งเอกสารของบริษัทผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์
7.ด้านการชำระภาษีพัฒนาระบบ e-Withholding Tax (ระบบภาษีหัก ณ ที่จ่าย อิเล็กทรอนิกส์)
8.ด้านการค้าระหว่างประเทศระบบคลังข้อมูลทางการค้าของไทยให้อัพเดท
9.ด้านการบังคับให้เป็นไปตามข้อตกลงโดยเพิ่มช่องทางการเข้าซื้อทรัพย์ของกรมบังคับคดี
10.ด้านการแก้ปัญหาการล้มละลายเช่น สร้างระบบงานสำนวนคดีล้มละลายอิเล็กทรอนิกส์ เต็มรูปแบบ
11.การจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐเพิ่มจัดประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อรวบรวมข้อจำกัดในการจัดซื้อจัด จ้างภาครัฐ และขยายผลการสร้างการรับรู้เกี่ยวกับการปฏิรูปที่ เกิดขึ้นในกระบวนการจัดซื้อจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ เป็นต้น
- สรุปถ้อยแถลง "ฮุน เซน" ประธานวุฒิสภากัมพูชา ดันความขัดแย้งไทยสู่ศาลโลก อ้างกัมพูชาเสียดินแดนมาตลอด
- กระทรวงการต่างประเทศแถลง สถานการณ์ไทย-กัมพูชา เร่งเจรจาเรื่องเขตแดน
- รู้จัก MOU43 คืออะไร แล้วมีความสำคัญอย่างไร กับชายแดนไทย-กัมพูชา
- วิสัยทัศน์ “ASEAN 2045: Our Shared Future” คืออะไร ที่นายกฯ แพทองธารเพิ่งลงนามไปที่กรุงกัวลาลัมเปอร์
- กรมพัฒน์ ยืนยัน ระบบจดทะเบียนนิติบุคคลดิจิทัล (DBD Biz Regist) สะดวก ปลอดภัย
- มูดี้ส์หั่นมุมมองเครดิต “ไทย” สู่ “เชิงลบ”
- เศรษฐกิจเวียดนามวันนี้ เหมือนไทยในวันวาน เมื่อเวียดนามโตเหมือนไทยยุค 1980
ที่มาข้อมูล : -
TNNThailand