
สรุปข่าว
นายกำพล อดิเรกสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการ CIO Office Chief Investment Office บล.ไทยพาณิชย์ (SCB CIO) เปิดเผยว่า โควิดสายพันธุ์เดลต้าเป็นปัจจัยซ้ำเติมทำให้การเปิดเมืองและการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจมีลักษณะที่ไม่ทั่วถึงในแต่ละประเทศและภาคธุรกิจ เนื่องจากสามารถติดได้ง่ายและทำให้วัคซีนมีประสิทธิภาพลดลงเมื่อเทียบกับสายพันธุ์อื่นๆ ทำให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อเริ่มกลับมาสูงขึ้นในหลายประเทศ การเปิดเมืองและการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ
โดยเฉพาะในภาคบริการมีแนวโน้มชะลอลง ประเทศที่มีความคืบหน้าในการฉีดวัคซีนค่อนข้างมากเช่น สหรัฐฯ และยุโรป น่าจะสามารถหลีกเลี่ยงการกลับไปปิดเมืองแบบเข้มข้นได้ ในขณะที่กลุ่มประเทศที่มีความคืบหน้าไม่มาก เช่น กลุ่มประเทศ EM มีความเสี่ยงเรื่องการปิดเมืองเข้มข้นสูงกว่าอย่างมีนัย
ส่วนตัวเลขเศรษฐกิจล่าสุดของสหรัฐฯ เช่น GDP และเงินเฟ้อในไตรมาส 2/2021 แม้ฟื้นตัวต่อเนื่องแต่เริ่มมีสัญญาณต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ แต่ตัว เลขเศรษฐกิจจากฝั่งยุโรปยังฟื้นตัวดีและออกมาดีกว่าตลาดคาดการณ์ สำหรับความพยายามล่าสุดของทางการจีนในการจัดการ internet platform /digitized economy ทำให้ความเสี่ยงด้านกฎเกณฑ์ภาครัฐ (regulatory risks) และความผันผวนในตลาดหุ้นจีนสูงขึ้นอย่างมีนัย และมีแนวโน้มจะดำ เนินต่อไปจนกว่าจะมีความชัดเจนจากทางการมากกว่านี้
สำหรับแนวโน้มตลาดการเงินโลก SCB CIO ประเมินว่า การกลายพันธุ์ของ COVID-19 นำมาซึ่งความผันผวนสูงในตลาด แต่ผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นสหรัฐฯ และยุโรปยังคงแข็งแกร่ง ส่วนอัตราผลตอบแทนแท้จริงของ US treasury ยังอยู่ในระดับต่ำแม้เริ่มมีความกังวลเกี่ยวกับการส่งสัญญาณ QE tapering จาก Fed โดยความผันผวนสูงในตลาดมีแนวโน้มดำเนินต่อไปจากความกังวลผลกระทบ COVID-19 สายพันธุ์ Delta และประ สิทธิภาพวัคซีนบางประเภทที่ลดลง
อย่างไรก็ตาม ผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนในสหรัฐฯ และยุโรปยังคงเติบโตต่อเนื่องและดีกว่าคาด ในระยะข้างหน้า แม้จะได้รับผลกระทบของการกลับมาระบาดของสายพันธุ์ Delta บ้างแต่ผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในสหรัฐฯ และยุโรปน่าจะได้รับผลกระทบน้อยกว่าบริษัทฯในประเทศ EMs ที่มีการปิดเมืองเข้มข้นกว่า
ความกังวลเรื่องการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนของ US treasury ยังอยู่ในระดับต่ำ และเมื่อเทียบกับการคาดการณ์เงินเฟ้อที่ยังอยู่ในระดับสูงกว่า ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนเเท้จริงของ US treasury ยังอยู่ในระดับติดลบ
อย่างไรก็ตาม เรามองว่าอัตราผลตอบแทนของ US treasury ในระยะข้างหน้ามีแนวโน้มเพิ่มขึ้นแบบค่อยเป็นค่อยไป เนื่องจาก Fed น่าจะเริ่มมีการส่งสัญญาณ QE tapering ระหว่างการสัมมนา Jackson Hole (26-28 สิงหาคม) หรือ การประชุมของ Fed ในครั้งถัดไป (21-22 กันยายน) และทำการลดการเข้าซื้อจริงในช่วงต้นปี 2022 ซึ่งจะเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่จะทำให้ตลาดการเงินโลกมีความผันผวนสูงขึ้น
สำหรับตลาดหุ้นสหรัฐฯ ยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นได้ทั้งในช่วงก่อนและหลังประกาศปรับลด QE ในขณะที่ ตลาดกลุ่ม EMs ได้รับผลกระทบจากการไหลออกของเงินทุน และการอ่อนค่าของค่าเงิน โดยเฉพาะประเทศที่ขาดดุลบัญชีเดินสะพัดและมีหนี้ต่างประเทศสูง
ด้านกลยุทธ์ในการจัดพอร์ตการลงทุนสินทรัพย์ทั่วโลก (Asset Allocation Portfolio Strategy) SCB CIO ยังคงมีมุมมองบวกต่อหุ้นสหรัฐฯ และยุโรป โดยปรับมุมมองตลาดหุ้นจีนและไทยลงเป็น Neutral พร้อมทั้งปรับมุมมองต่อทองคำเป็น Neutral เช่นกัน
ทั้งนี้ SCB CIO มองว่า ในภาวะตลาดผันผวนจะมีโอกาสดีในการเข้ามาสะสมหุ้นสหรัฐฯและยุโรปที่ยังมีผลประกอบการเติบโตต่อเนื่องและน่าจะได้รับผลกระทบจากการปิดเมืองค่อนข้างจำกัด เรายังคงมุมมองตลาดหุ้นญี่ปุ่นที่ Neutral จากการฟื้นตัวที่ช้ากว่าตลาด Developed Markets (DMs) อื่น
นอกจากนี้ปรับมุมมองหุ้นจีนลงเป็น Neutral จากความเสี่ยงด้านกฎเกณฑ์ภาครัฐ (Regulatory risk) ที่มีแนวโน้มอยู่ในระดับสูง โดยเน้นตลาด A-share ซึ่งน่าจะมีความเสี่ยงด้านนี้น้อยกว่า เนื่องจาก มีหุ้นในกลุ่ม internet platform/digitized economy น้อยกว่าในตลาดหุ้น H-share
ในตลาดหุ้น ASEAN เรายังคงชอบเวียดนามที่สุดจาก valuation ที่ยังคงถูกที่สุด ผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนที่ยังแข็งแกร่ง และความคืบหน้าในการนำเข้าวัคซีนที่ค่อนข้างดี เราปรับมุมมองต่อตลาดหุ้นไทยลงเป็น Neutral จากความยืดเยื้อของการระบาด COVID-19 และการใช้มาตรการปิดเมือง รวมถึงสภาวะ technical recession ในอุปสงค์ภายในประเทศของภาคเอกชน (private domestic demand) ที่จะทำให้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจและผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนในระยะข้างหน้ามีความเสี่ยงด้านต่ำมากขึ้น
ด้วยอัตราผลตอบแทนแท้จริงของ US treasury ที่ยังอยู่ในระดับต่ำ ในขณะที่ความผันผวนในตลาดหุ้นสูงขึ้น รวมถึงราคาทองคำที่ปรับลดลงล่าสุด เราปรับมุมมองต่อทองคำเป็น Neutral และปรับน้ำมันลงเป็น Slightly Negative จากปัจจัยอุปสงค์ที่น่าจะได้รับแรงกดดันจากการเปิดเมืองที่ช้ากว่าคาด รวมถึงความตึงตัวน้อยลงของปัจจัยอุปทานน้ำมัน
นอกจากนี้มีมุมมองต่อ DMs และ Asian REITs เป็น Neutral จากผลกระทบของ COVID-19 สายพันธุ์ Delta และความเสี่ยงการเปิดเมืองที่ล่าช้ากว่าคาด
- พาณิชย์สั่งห้าม ATK ขาด-ห้ามแพง ย้ำผู้ค้าต้องเติมสต๊อกทันที
- โควิด NB.1.8.1 เป็นสายพันธุ์หลักในไทยแล้ว มีแนวโน้มมากขึ้น
- วัคซีนโควิด-19 ไม่ถูกถอดจากรายชื่อวัคซีนแนะนำในสหรัฐฯ
- โควิด-19 ระบาดหลายภูมิภาค! "สายพันธุ์ NB.1.8.1" แพร่กระจายเร็ว อย่าชะล่าใจ
- หุ้นดาวโจนส์วันนี้ 31 พฤษภาคม 2568 ปิดบวก 54.34 จุด ทรัมป์ส่งสัญญาณพร้อมเจรจากับจีน
- หุ้นดาวโจนส์วันนี้ 30 พฤษภาคม 2568 ปิดบวก 117.03 จุด รับผลประกอบการ Nvidia
ที่มาข้อมูล : -
TNNThailand