ธ.ก.ส. ขยายเวลาชำระหนี้ เร่งชดเชยประกันช่วยเกษตรกรได้รับผลกระทบน้ำท่วม

ธ.ก.ส. ขยายเวลาชำระหนี้  เร่งชดเชยประกันช่วยเกษตรกรได้รับผลกระทบน้ำท่วม

สรุปข่าว

วันนี้( 29 ก.ย.64) นายธนารัตน์ งามวลัยรัตน์ ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า จากอิทธิพลพายุเตี้ยนหมู่ ทำให้มีปริมาณฝนตกสะสม เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก     ดินถล่ม สร้างความเสียหายต่อผลผลิตทางการเกษตร ตลอดจนทรัพย์สินที่อยู่อาศัยของเกษตรกรลูกค้าและประชาชนทั่วไปในหลายจังหวัดทั่วประเทศ ซึ่ง ธ.ก.ส. มีความห่วงใยผู้ที่ได้รับผลกระทบ  โดยเบื้องต้นได้มอบหมายให้พนักงาน ธ.ก.ส. ในพื้นที่ออกเยี่ยมเยียนให้กำลังใจ พร้อมจัดหาถุงยังชีพไปมอบให้เกษตรกรลูกค้าและประชาชนที่เดือดร้อน รวมถึงเข้าไปสนับสนุนศูนย์อพยพหรือจุดรวมพลต่าง ๆ ร่วมกับหน่วยงานในท้องถิ่น ไม่ว่าจะเป็น การจัดหาอาหาร น้ำดื่ม บริการสุขาเคลื่อนที่ เต็นท์สนาม และความช่วยเหลือด้านอื่น ๆ เช่น ค่าเช่าเรือ ค่าเช่ารถบรรทุก ค่าแรงงาน เป็นต้น

ทั้งนี้ในส่วนของเกษตรกรที่ได้รับความเดือดร้อน และผลผลิตได้รับความเสียหายจนส่งผลกระทบต่อรายได้แต่มีภาระหนี้สินอยู่กับ ธ.ก.ส. ซึ่งเรื่องดังกล่าวเกษตรกรไม่ต้องกังวลใจ  โดย ธ.ก.ส. จะพิจารณาขยายระยะเวลาชำระคืนต้นเงินกู้และดอกเบี้ยออกไปสูงสุดไม่เกิน 12 เดือน ตามศักยภาพโดยไม่คิดดอกเบี้ยปรับ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนตามความหนักเบาของผู้ประสบภัยทุกราย พร้อมจัดเตรียมสินเชื่อฉุกเฉินรายละไม่เกิน 50,000 บาท  อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 0 ต่อปี เป็นระยะเวลา 6 เดือน และตั้งแต่เดือนที่ 7 อัตราดอกเบี้ย MRR (ปัจจุบัน MRR เท่ากับร้อยละ 6.50 ต่อปี) ระยะเวลาชำระคืนไม่เกิน 3 ปี เพื่อนำไปใช้จ่ายที่จำเป็นภายในครัวเรือน วงเงินรวม 10,000 ล้านบาท  และสินเชื่อสานฝันสร้างอาชีพ เพื่อส่งเสริมการฟื้นฟูและพัฒนาอาชีพทางการเกษตรระยะสั้น อาทิ โครงการ 459 โครงการครึ่งไร่คลายจน เป็นต้น รวมถึงเป็นค่าใช้จ่ายและค่าลงทุนในการประกอบอาชีพเสริมอื่น ๆ วงเงินรายละไม่เกิน 100,000 บาท  โดยกรณีกู้เงินเพื่อเป็นค่าใช้จ่าย อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 4 ต่อปี ระยะเวลาชำระหนี้ไม่เกิน 12 เดือน พิเศษไม่เกิน 18 เดือน  กรณีกู้เพื่อลงทุน ปีที่ 1-3 อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 4 ต่อปี  ปีที่ 4-5 อัตราดอกเบี้ย MRR (ปัจจุบัน MRR เท่ากับร้อยละ 6.50 ต่อปี) วงเงินรวม 30,000 ล้านบาท ทั้งนี้ เงื่อนไขในการอนุมัติเป็นไปตามที่ธนาคารกำหนด

สำหรับเกษตรกรที่อยู่ในพื้นที่ประสบภัยทั้ง 28 จังหวัด ที่ถูกประกาศเป็นเขตภัยพิบัติ และได้ทำประกันไว้ในโครงการประกันภัยพืชผลทางการเกษตรกับ ธ.ก.ส. ภายหลังจากน้ำลด ธ.ก.ส. จะร่วมกับ     ส่วนงานที่เกี่ยวข้องเร่งสำรวจความเสียหายที่เกิดขึ้น พร้อมประสานงานกับบริษัทผู้รับประกันภัยในการจ่ายค่าสินไหมทดแทนตามเงื่อนไขโดยเร็ว เพื่อให้เกษตรกรได้มีเงินทุนหมุนเวียนในการลงทุนต่อไป ทั้งนี้ โครงการประกันภัยข้าวนาปีมีเกษตรกรเข้าร่วมกว่า 3.6 ล้านราย พื้นที่กว่า 43 ล้านไร่ โดยในพื้นที่ประสบภัยมีเกษตรกรเข้าร่วมกว่า 878,000 ราย พื้นที่ 12.4 ล้านไร่ และโครงการประกันภัยข้าวโพดเลี้ยงสัตว์มีเกษตรกรเข้าร่วมกว่า 82,000 ราย พื้นที่กว่า 1.48 ล้านไร่ โดยมีเกษตรกรในพื้นที่ประสบภัยจำนวนกว่า 60,600 ราย พื้นที่ 1.1 ล้านไร่  


ประชาชนที่ประสบความเดือดร้อนสามารถติดต่อเพื่อปรึกษาหรือขอรับบริการได้ที่ ธ.ก.ส. ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Call Center 02-555-0555.


ที่มา,ภาพประกอบ:  พีอาร์ ธ.ก.ส.

ที่มาข้อมูล : -

ที่มารูปภาพ :

avatar

TNNThailand

แท็กบทความ

ธ.ก.ส.
ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร
น้ำท่วม
ประกันภัยพืชผลทางการเกษตร
สินเชื่อฉุกเฉิน
ขยายเวลาชำระหนี้
พายุเตี้ยนหมู่