
สรุปข่าว
วันนี้ (20 พ.ย.64) ในงานสัมมนาหอการค้าทั่วประเทศ ครั้งที่ 39 นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ปาฐกถาพิเศษ เรื่อง "Connect ธุรกิจไทย พาณิชย์ยุคใหม่ เชื่อมไทยเชื่อมโลก" โดยระบุว่า แม้จะเริ่มเปิดประเทศและเป็นสัญญาณที่ดี ได้รับเสียงตอบรับอย่างชัดเจนจากภาคเอกชน คาดจากนี้และปีหน้า ได้เตรียมการรองรับนักท่องเที่ยวต่างประเทศ 1,000,000 คน มีความเป็นไปได้ โดยต้องตั้งเป้าหมายไว้ชัดเจน แต่ต้องไม่ทิ้งไทยเที่ยวไทยเพราะจะเป็นกลไกสำคัญในการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ ขณะเดียวกันควรขยายไปสู่การท่องเที่ยวชุมชน เพื่อให้เกิดการกระจายรายได้ถึงเศรษฐกิจฐานราก
สำหรับกระทรวงพาณิชย์ให้ความสำคัญและขับเคลื่อน คือนโยบายประกันรายได้ ข้าว มัน ยาง ปาล์มและข้าวโพด ช่วยเกษตรกรอย่างน้อย 8,000,000 ครัวเรือน ให้เป็นฐานวัตถุดิบ เชื่อมการผลิต แปรรูปและการส่งออก เพื่อบรรลุเป้าหมายเชื่อมไทยเชื่อมโลก และไม่ได้ทำให้เกษตรกรอ่อนแอแต่ทำให้เกษตรกรมีหลักประกันในเรื่องของการผลิตพืชผลทางการเกษตร
การเร่งรัดการส่งออก ที่เดือนต.ค.64 คาดว่าจะขยายตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันของปีก่อนได้ไม่น้อยกว่าร้อยละ 15 ส่งผลให้การส่งออกของไทยในปี 64 มีโอกาสที่จะขยายตัวเพิ่มขึ้นจากปีก่อนได้มากถึงร้อยละ 15-16 จากเป้าหมายที่ตั้งไว้เมื่อตอนต้นปีว่าจะขยายตัวได้ร้อยละ 4 การค้าชายแดน ที่ผ่านมาน่าพอใจ 9 เดือนแรก +38% ทำรายได้เข้าประเทศ 778,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญช่วยคนตัวเล็ก ภาค SMEs และ Micro SMEs ของเราสามารถค้าขายกับประเทศเพื่อนบ้านทำรายได้เข้าประเทศได้
และการควบคุมราคาสินค้า 10 เดือนที่ผ่านมาเงินเฟ้อ +1% หมายความว่าปกติยังมีเสถียรภาพ ซึ่งปี 64 คาดการณ์ว่าเงินเฟ้อจะ +0.8-1.2% กระทรวงพาณิชย์จะมาดูว่าจะกระทบต่อราคาสินค้าของผู้อุปโภคบริโภค ในแต่ละรายการสินค้า สุดท้ายตนจะตัดสินก็จะถือหลักว่าสมดุลอยู่ตรงไหน ดูแลทุกฝ่ายทั้งต้นน้ำกลางน้ำและปลายน้ำ และต้องติดตามสถานการณ์เศรษฐกิจและการค้าโลกโดยใกล้ชิดตลอดจน เร่งติดตามกติกา RCEP (Regional Comprehensive Economic Partnership) คือ ความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค คาดว่าต้นปีหน้าจะบังคับใช้ เพราะให้สัตยาบันครบตามเงื่อนไขแล้ว และการประชุม WTO ที่จะมาถึงในช่วงต้นเดือนธันวาคม
ภาพประกอบ : พีอาร์ หอการค้าไทย
ที่มาข้อมูล : -

TNNThailand