OSP บุกตลาดวัยเกษียณ ขยายพอร์ตของใช้ส่วนบุคคล หนุนรายได้ 4,000 ล้านตามเป้า

OSP บุกตลาดวัยเกษียณ ขยายพอร์ตของใช้ส่วนบุคคล หนุนรายได้ 4,000 ล้านตามเป้า

นางสาวสุทิพา ปัญญามหาทรัพย์ Chief Home & Personal Care and Health Care Officer บริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) หรือ OSP เปิดเผยว่า หลังจากแบรนด์ ‘เบบี้มายด์’ เปิดตัวกลุ่มผลิตภัณฑ์‘ เบบี้มายด์แอนด์บียอนด์พรีไบโอติกโพรเทคชั่น’ ที่ผสานนวัตกรรม‘พรีไบโอติก’ เจาะกลุ่มครอบครัวในปีที่ผ่านมาและได้รับผลตอบรับที่ดี โดยเฉพาะจากกลุ่มผู้สูงวัยที่เป็นผู้ใช้จริง บริษัทจึงเดินหน้าต่อยอดความสำเร็จขยายพอร์ต ‘เบบี้มายด์แอนด์บียอนด์’แตกไลน์ผลิตภัณฑ์ครบเซทด้วยผลิตภัณฑ์อาบน้ำ แป้ง โลชั่น และครีมในกลุ่ม “ดับเบิ้ลมิลค์” และ “สวีทตี้พิงค์”  ดูแลและบำรุงผิวทุกคนในครอบครัว พร้อมเตรียมเปิดตัวผลิตภัณฑ์ซักผ้าผสมปรับผ้านุ่ม 2 in 1 ในกลุ่มนี้อีก 2 สูตร เพื่อตอบโจทย์คนทุกวัยที่มีผิวบอบบาง โดยเฉพาะผู้สูงอายุ เพราะวัยไหนก็มีผิวที่ดูอ่อนเยาว์สุขภาพดีได้

สรุปข่าว

OSP ตอกย้ำความเป็นผู้นำตลาดผลิตภัณฑ์ของใช้ส่วนบุคคล ขยายพอร์ตโฟลิโอกลุ่มผลิตภัณฑ์ “เบบี้มายด์ แอนด์ บียอนด์” ตอบโจทย์ความเปลี่ยนแปลงของผิวที่บอบบางตามวัยของผู้บริโภคกลุ่ม Silver Generation ซึ่งเป็นกลุ่มผู้บริโภคสูงวัยที่ให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพและผิวพรรณ เพื่อขยายรายได้ในกลุ่มของใช้ส่วนบุคคลแตะ 4,000 ล้านบาทใน 5 ปี

นางสาวสุทิพา ปัญญามหาทรัพย์ Chief Home & Personal Care and Health Care Officer บริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) หรือ OSP เปิดเผยว่า หลังจากแบรนด์ ‘เบบี้มายด์’ เปิดตัวกลุ่มผลิตภัณฑ์‘ เบบี้มายด์แอนด์บียอนด์พรีไบโอติกโพรเทคชั่น’ ที่ผสานนวัตกรรม‘พรีไบโอติก’ เจาะกลุ่มครอบครัวในปีที่ผ่านมาและได้รับผลตอบรับที่ดี โดยเฉพาะจากกลุ่มผู้สูงวัยที่เป็นผู้ใช้จริง บริษัทจึงเดินหน้าต่อยอดความสำเร็จขยายพอร์ต ‘เบบี้มายด์แอนด์บียอนด์’แตกไลน์ผลิตภัณฑ์ครบเซทด้วยผลิตภัณฑ์อาบน้ำ แป้ง โลชั่น และครีมในกลุ่ม “ดับเบิ้ลมิลค์” และ “สวีทตี้พิงค์”  ดูแลและบำรุงผิวทุกคนในครอบครัว พร้อมเตรียมเปิดตัวผลิตภัณฑ์ซักผ้าผสมปรับผ้านุ่ม 2 in 1 ในกลุ่มนี้อีก 2 สูตร เพื่อตอบโจทย์คนทุกวัยที่มีผิวบอบบาง โดยเฉพาะผู้สูงอายุ เพราะวัยไหนก็มีผิวที่ดูอ่อนเยาว์สุขภาพดีได้

“โอสถสภามุ่งสร้างความแข็งแกร่งให้กับผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม House of Mildness ที่มี ‘เบบี้ มายด์’ เป็นแบรนด์หลัก โดยต่อยอดจุดแข็งให้ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายมากยิ่งขึ้น หลังจากที่ประเทศไทยได้ก้าวเข้าสู่สังคมสูงวัยอย่างสมบูรณ์ตั้งแต่ปี 2565 เป็นต้นมา ซึ่งผู้บริโภควัยเกษียณมีความต้องการดูแลสุขภาพมากขึ้น และมีแนวโน้มเพิ่มการใช้จ่ายในผลิตภัณฑ์ความงามและดูแลผิว เบบี้ มายด์ จึงได้ต่อยอดจุดแข็งของแบรนด์ แตกไลน์ผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม ‘เบบี้มายด์แอนด์บียอนด์ครอบคลุมตั้งแต่ผลิตภัณฑ์อาบน้ำ แป้ง โลชั่นบำรุงผิว ครีม และผลิตภัณฑ์ซักผ้าผสมปรับผ้านุ่มสูตรออร์แกนิค เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์สร้างการเติบโตธุรกิจ Personal Care& Home Care สู่เป้าหมายรายได้ 4,000 ล้านบาทภายในปี 2570 ผ่านการพัฒนานวัตกรรมที่ตอบโจทย์ผู้บริโภค และการขยายฐานสู่กลุ่มครอบครัวและผู้สูงวัยที่มีศักยภาพการใช้จ่ายสูง” นางสาวสุทิพา กล่าว


ทั้งนี้ บริษัทมองว่า "ผู้สูงวัย’  ไม่ใช่เพียงกลุ่มคนที่มีอายุเพิ่มขึ้น แต่คือกลุ่มที่มีทั้ง “พลังซื้อ” และ “พลังใจ” ในการดูแลคุณภาพชีวิตของตนเอง หลังจากที่ทุ่มเททั้งแรงกายแรงใจเพื่อครอบครัวมาตลอดชีวิต ถึงเวลาที่พวกเขาจะกลับมาดูแลตัวเอง มองหาผลิตภัณฑ์ที่เข้าใจความเปลี่ยนแปลงของผิวตามวัยที่ไม่เพียงอ่อนโยนและปลอดภัย แต่ต้องให้ผลลัพธ์ที่สัมผัสได้พร้อมมอบประสบการณ์ที่ดีในทุกวัน