
สรุปข่าว
วันนี้ (21 ก.พ. 66) ผลการทดลองทำงานสัปดาห์ละ 4 วันครั้งใหญ่ที่สุดในโลกพบว่า บริษัทที่เข้าร่วมการทดลองในอังกฤษส่วนใหญ่ไม่ได้กลับไปใช้มาตรฐานการทำงานสัปดาห์ละ 5 วันอีก และบริษัท 1 ใน 3 พร้อมที่จะกำหนดให้พนักงานทำงานสัปดาห์ละ 4 วันแบบถาวร
การศึกษาครั้งนี้มีบริษัทเข้าร่วม 61 แห่ง โดยมีพนักงานประมาณ 2,900 รายอาสาเข้าร่วมการทดลองทำงานสัปดาห์ละ 4 วันระหว่างเดือนมิ.ย. – ธ.ค. 2565 โดยข้อมูลที่เปิดเผยในวันนี้ (21 ก.พ.) แสดงให้เห็นว่า มีบริษัทเพียง 3 แห่งที่ตัดสินใจระงับการทดลอง ส่วนอีก 2 บริษัทยังคงพิจารณาเรื่องลดชั่วโมงการทำงาน ขณะที่บริษัทที่เหลือพึงพอใจต่อการทำงานสัปดาห์ละ 4 วัน เนื่องจากพบว่า รายได้เพิ่มขึ้น อัตราการลาออกลดลง และพนักงานเกิดภาวะหมดไฟลดน้อยลง
"เดิมดิฉันคิดว่าการทำงานสัปดาห์ละ 4 วันคงเป็นเรื่องยากมากสำหรับบริษัทต่าง ๆ แต่ผลปรากฏว่าไม่ได้เป็นเช่นนั้น" นางจูเลียต ชอร์ นักเศรษฐศาสตร์และนักสังคมวิทยาจากวิทยาลัยบอสตันซึ่งเป็นหัวหน้านักวิจัยครั้งนี้กล่าว โดยงานวิจัยของเธอค้นพบมานานแล้วว่า การทำงานสัปดาห์ละ 5 วันไม่เหมาะกับวิถีชีวิตและความเชื่อมั่นในคุณค่าของพนักงานยุคปัจจุบันอีกต่อไป โดยเฉพาะอาชีพผู้ดูแล
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ผลการทดลองในอังกฤษยืนยันผลการทดลองอื่น ๆ ที่มีขนาดเล็กกว่าในสหรัฐ ไอร์แลนด์ และออสเตรเลีย ซึ่งเผยแพร่ในเดือนธ.ค. โดยผลการทดลองเหล่านี้แสดงให้เห็นว่า รายได้และศักยภาพของพนักงานเพิ่มขึ้นในระดับเดียวกัน นอกจากนี้ อัตราการขาดงานและการลาออกก็ลดลงเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม รายงานระบุว่า การทดลองในอังกฤษนั้นเกิดขึ้นในช่วงที่บริษัทจำนวนมากเผชิญภาวะกดดันทางเศรษฐกิจ ซึ่งรวมถึงปัญหาเงินเฟ้อ ความไร้เสถียรภาพทางการเมือง และผลกระทบจากเบร็กซิต โดยการทดลองลดวันทำงานท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจขาลงนั้นดูเหมือนได้สร้างข้อกังขาต่าง ๆ
ภาพจาก : AFP
- คดีฉ้อโกงใน"อังกฤษ"พุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์
- "Made in Thailand" กระแสดีในอังกฤษ นายกฯ เร่งผลักดันรุกตลาดยุโรป
- 3 หนุ่ม 3 มุม "มาครง, สตาร์เมอร์, แมร์ซ" ร่วมทริปรถไฟหา "เซเลนสกี"
- ทรัมป์ประกาศดีลการค้าประวัติศาสตร์กับอังกฤษ ลดภาษีสินค้าหลายรายการ
- "อังกฤษ" ปิดดีล "อินเดีย" เล็งลดภาษีนำเข้าเป็น "0" หนุนมูลค่าการค้าเพิ่ม 3.4 หมื่นล้านดอลลาร์
- สะท้อน"เศรษฐกิจย่ำแย่" คนแห่ทิ้งสัตว์เลี้ยง ภาษีทรัมป์ตัวกระตุ้น
- เจ้าชายแฮร์รีประสงค์คืนดีราชวงศ์หลังแพ้คดีคุ้มครองความปลอดภัย
ที่มาข้อมูล : -
TNNThailand