ทางการญี่ปุ่น เปิดเผยผลสอบเบื้องต้น อุบัติเหตุเครื่องบินชนกันที่สนามบินฮาเนดะ

ทางการญี่ปุ่น เปิดเผยผลการสอบเบื้องต้น อุบัติเหตุเครื่องบินโดยสารของสายการบินเจแปนแอร์ไลน์ส ชนกับเครื่องบินหน่วยยามฝั่ง ที่สนามบินนานาชาติฮาเนดะ 

ทางการญี่ปุ่น แถลงเมื่อวานนี้ ( 3 ม.ค.) ว่า เครื่องบินโดยสารของสายการบินเจแปน แอร์ไลน์ส หรือ เจเอแอล ที่ประสบอุบัติเหตุพุ่งชนกับเครื่องบินใบพัด เทอร์โบพร็อบ (turboprop) ของหน่วยยามฝั่ง ที่สนามบินนานาชาติฮาเนดะ ในกรุงโตเกียว ได้รับอนุญาตให้ร่อนลงจอดแล้ว แต่เครื่องบินขนาดเล็กของหน่วยยามฝั่ง ยังไม่พร้อมทะยานขึ้นจากรันเวย์ โดยอ้างอิงตามบันทึกของหอควบคุมการบิน 

ผู้โดยสารทั้งหมด 379 คนบนเครื่องบินแอร์บัส เอ350 ของเจเอแอล สามารถอพยพออกจากเครื่องบินได้ หลังจากไฟเริ่มไหม้เครื่องบินจากอุบัติเหตุดังกล่าว ส่งผลให้เจ้าหน้าที่หน่วยยามฝั่งเสียชีวิต 5 คนจากจำนวน 6 คนที่อยู่บนเครื่อง ซึ่งมีกำหนดจะเดินทางนำความช่วยเหลือไปยังพื้นที่ประสบภัยแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ชายฝั่งด้านตะวันตกของประเทศ ขณะที่กัปตัน ซึ่งหลบหนีออกจากซากเครื่องบินได้ ได้รับบาดเจ็บสาหัส 

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่เพิ่งเริ่มต้นสอบสวน และยังไม่มีความแน่นอนเกี่ยวกับสถานการณ์ของอุบัติเหตุดังกล่าว ซึ่งรวมถึงการที่เครื่องบิน 2 ลำมาอยู่บนรันเวย์เดียวกันได้อย่างไร แต่บันทึกคำแนะนำของหอควบคุมการบินที่ทางการเผยแพร่ ดูเหมือนจะแสดงให้เห็นว่า เครื่องบินโดยสารของสายการบินเจแปนแอร์ไลน์ได้รับอนุญาตให้ลงจอด ขณะที่เครื่องบินของหน่วยยามฝั่งได้รับคำสั่งให้แท็กซี่ หรือเคลื่อนไปยังจุดจอดใกล้รันเวย์

เจ้าหน้าที่จากสำนักงานการบินพลเรือนญี่ปุ่น กล่าวกับนักข่าวว่า ไม่มีข้อบ่งชี้ในบันทึกเหล่านั้นว่าเครื่องบินของหน่วยยามฝั่ง ได้รับอนุญาตให้ขึ้นบินได้

เจ้าหน้าที่หน่วยยามฝั่งคนหนึ่ง กล่าวว่า กัปตันของเครื่องบินหน่วยยามฝั่ง บอกว่า เขาได้นำเครื่องบินเข้าไปในรันเวย์หลังได้รับอนุญาต แต่ก็ยอมรับว่า ไม่มีข้อบ่งชี้ในบันทึกว่าเขาได้รับอนุญาตให้ทำเช่นนั้นแล้ว

เท็ตสึโอ ไซโตะ รัฐมนตรีกระทรวงคมนาคมของญี่ปุ่น กล่าวกับนักข่าวว่า กระทรวงคมนาคมเตรียมยื่นเอกสารที่เป็นกลาง และจะให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่กับการสอบสวน เพื่อให้แน่ใจว่า เราจะทำงานร่วมกันเพื่อใช้มาตรการความปลอดภัยที่เป็นไปได้ทั้งหมด เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์นลักษณะนี้ซ้ำอีก

ด้านผู้เชี่ยวชาญการบินพลเรือนของญี่ปุ่น กล่าวว่า อุบัติเหตุครั้งนี้ เป็นความผิดพลาดของมนุษย์

ภาพจาก AFP