

สรุปข่าว
ประชาชนเกือบ 11 ล้านคนในแคลิฟอร์เนีย มีความเสี่ยงสูงที่จะเผชิญกับน้ำท่วมอันตรายถึงชีวิต ส่วนเมืองลอสแอนเจลิส คาดว่าจะมีฝนตกหนักมากในวันนี้
เกิดเหตุดินถล่ม น้ำท่วม และกระแสลมแรง ในพื้นที่ตอนใต้ของรัฐแคลิฟอร์เนีย เป็นวันที่ 2 ที่เกิดพายุพัดถล่มหนึ่งในพื้นที่ที่มีประชากรมากที่สุดของสหรัฐฯ โดยคาดว่าจะมีฝนตกหนัก วัดได้ 1 นิ้ว หรือ 2.54 เซนติเมตร ต่อชั่วโมง ในหลายพื้นที่รอบนครลอสแอนเจลิสเป็นเวลาอย่างน้อย 24 ชั่วโมงนับจากเมื่อวานนี้
ปรากฏการณ์ ‘แม่น้ำในชั้นบรรยากาศ’ ซึ่งเป็นสาเหตุให้เกิดพายุหลายลูก ทำให้ฝนตกกระแสลมแรง และหิมะตก ในพื้นที่กว้างใหญ่ของรัฐแคลิฟอร์เนีย ส่งผลให้ทางการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินใน 10 เมืองของรัฐ ซึ่งรวมทั้งลอสแอนเจลิส และออเรนจ์ เคาน์ตี
สำนักงานพยากรณ์อากาศ หรือ WPC ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของศูนย์บริการสภาพอากาศแห่งชาติ (National Weather Service) หรือ NWS ประกาศคำเตือนระดับ 4 สำหรับฝนตกหนักในพื้นที่ตอนใต้ของแคลิฟอร์เนีย ผู้คนกว่า 11 ล้านคนในแคลิฟอร์เนียมีความเสี่ยงสูงที่จะเผชิญกับน้ำท่วมที่เป็นอันตรายถึงชีวิต โดยบางส่วนของพื้นที่ลอสแอนเจลิส คาดว่าจะมีฝนตกหนักปริมาณน้ำฝนมากภายในวันนี้
WPC แถลงว่า เป็นไปได้ที่จะเกิดน้ำท่วมฉับพลัน ซึ่ง ‘อันตรายถึงชีวิต’ และ ‘หายนะ’ คุกคามลุ่มน้ำลอสแอนเจลิส และพื้นที่โดยรอบ โดยระบุว่าโคลนถล่มและเศษซากต่าง ๆ ที่ไหลมากับน้ำก็มีความเสี่ยงเช่นกัน นอกจากนี้ยังคาดว่าจะมีหิมะ ‘ตกหนักมาก’ ในแถบเทือกเขาเซียร์รา เนวาดา ส่งผลให้การเดินทางเต็มไปด้วยอันตราย ถึงขั้นไม่สามารถเดินทางได้
ส่วน NWS แถลงว่า กระแสลมแรงความเร็วลม 112 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อาจทำให้ไฟฟ้าดับและต้นไม้หักโค่น แม้ว่ากระแสลมจะลดลงอย่างมากในคืนวันจันทร์ อีกทั้งยังอาจเกิดคลื่นทะเลขนาดใหญ่ที่จะทำให้พื้นที่ชายฝั่งเป็นอันตรายอย่างยิ่ง
ในวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เที่ยวบินต่าง ๆ จากสนามบินซานตา บาร์บารา ยกเลิกการให้บริการ และผู้ขับรถยนต์ติดค้างอยู่ในพื้นที่น้ำท่วมในลอสแอนเจลิส เจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องเข้าช่วยเหลือ ขณะที่ประชาชนกว่า 9 แสนคน เผชิญไฟฟ้าดับในแคลิฟอร์เนีย
เจ้าหน้าที่ในเมืองออเรนจ์ เคาน์ตี ประกาศคำเตือนอพยพโดยสมัครใจสำหรับบางพื้นที่ เพื่อความปลอดภัย
ข้อมูลจาก: รอยเตอร์
ภาพจาก: รอยเตอร์
ที่มาข้อมูล : -