สงครามอิสราเอล-ฮามาส ยอดเสียชีวิตชาวปาเลสไตน์ทะลุ 30,000 ราย

สงครามอิสราเอล-ฮามาส ตัวเลขชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตทะลุ 30,000 ราย บาดเจ็บมากกว่า 70,000 คน ขณะเดียวกันในช่วง 24 ชม. มีผู้เสียชีวิต 81 ราย

กระทรวงสาธารณสุขของปาเลสไตน์ในฉนวนกาซา ซึ่งบริหารโดยกลุ่มฮามาส เปิดเผยว่า มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 104 คน และบาดเจ็บ 760 คน ในเหตุการณ์โกลาหลเมื่อทหารจากกองกำลังป้องกันอิสราเอล หรือไอดีเอฟ ยิงโจมตี ขณะพลเรือนชาวปาเลสไตน์ผู้อดอยากหิวโหย กำลังรุมล้อมรถบรรทุกความช่วยเหลือด้านอาหารหลายคัน

รายงานข่าวระบุว่า พลเรือนต่างพากันมารุมล้อมรถบรรทุกความช่วยเหลือที่เพิ่งมาถึงใหม่ด้วยความหวังว่าจะได้รับอาหาร แต่รถถังและโดรนของอิสราเอล เริ่มยิงเข้าใส่ผู้คนในถนนฮารูน อัล ราชีด เขตชี้ค อัจลีน ทางตะวันตกของกาซา ซิตี้

ด้านเจ้าหน้าที่ของอิสราเอลคนหนึ่ง กล่าวว่า ทหารอิสราเอลใช้กระสุนจริงยิงเข้าใส่ประชาชนที่รุมล้อมรถบรรทุกความช่วยเหลือ ขณะที่ฝูงชนกรูกันเข้ามาใกล้ทหารในลักษณะเป็นภัยคุกคามต่อทหาร ซึ่งก็ตอบโต้ด้วยการยิงกระสุนจริงขู่ เหตุการณ์นี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบ

ผู้เห็นเหตุการณ์กล่าวเพิ่มเติมว่า รถบรรทุกความช่วยเหลือพยายามที่จะหลบหนีออกจากพื้นที่ พุ่งชนผู้คนโดยไม่ได้ตั้งใจ และทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บเพิ่มอีก โดยนายแพทย์อัมจัด เอเลวา ที่ห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาลชีฟา กล่าวว่า มี 40 คนเสียชีวิตเมื่อเดินทางถึงโรงพยาบาล

ส่วนนายแพทย์ฮุสซัม อาบู ซาฟียา จากโรงพยาบาลคามัล อัดวัน กล่าวว่า มีผู้เสียชีวิต 10 คนเมื่อเดินทางถึงโรงพยาบาล ขณะที่โรงพยาบาลอัล ออว์ดา ในเมืองจาบัลยา ยืนยันมีผู้เสียชีวิต 3 คนเมื่อถึงโรงพยาบาล อย่างไรก็ตาม ตัวเลขผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ คาดว่าจะเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากยังมีศพอีกจำนวนหนึ่งและประชาชนยังอยู่บนถนน โดยรถพยาบาลฉุกเฉินพยายามที่จะเข้าไปให้ถึงผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือ เพราะมีเศษซากต่าง ๆ กีดขวางทาง

กองกำลังป้องกันตนเองของอิสราเอล ตอบโต้ต่อรายงานข่าวดังกล่าวว่า เหตุการณ์นี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบ พร้อมระบุว่า ในช่วงเช้าวานนี้ (พฤหัสบดี) ระหว่างการมาถึงของรถบรรทุกความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมในฉนวนกาซาตอนเหนือ ชาวกาซาได้เข้าไปรุมล้อมรถบรรทุกหลายคัน และปล้นเอาสิ่งของช่วยเหลือที่กำลังจะนำมาส่งให้พวกเขา ซึ่งระหว่างเหตุการณ์ชุลมุนดังกล่าว มีชาวกาซาหลายสิบคนได้รับบาดเจ็บ อันเป็นผลมาจากการผลักกันไปมาและเหยียบกันเอง

อาวี ไฮแมน โฆษกรัฐบาลอิสราเอล ระบุถึงการบาดเจ็บล้มตายของชาวปาเลสไตน์ระหว่างการแจกจ่ายความช่วยเหลือใกล้เมืองกาซา ซิตี้เมื่อวานนี้ว่า เป็นโศกนาฏกรรมและบอกว่า สิ่งบ่งชี้เบื้องต้น คือการเสียชีวิตมีสาเหตุมาจากคนขับรถบรรทุกความช่วยเหลือ ขับรถพุ่งชนฝูงชนที่พลุกพล่าน

ก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่สาธารณสุขในกาซา อ้างว่า อิสราเอลโจมตีประชาชนที่กำลังรอรับความช่วยเหลือใกล้กาซา ซิตี้ มีชาวปาเลสไตน์เสียชีวิต 104 คน และบาดเจ็บหลายร้อยคน โดยโรงพยาบาลแห่งหนึ่งบอกว่า ได้รับศพผู้เสียชีวิต 10 ศพ และผู้บาดเจ็บอีกหลายสิบคน

ขณะที่ องค์การอ็อกแฟม (Oxfam International) องค์การการกุศลที่ไม่แสดงหาผลกำไร ประณามการโจมตีดังกล่าวผ่านทาง X โดยบอกว่า เป็นการละเมิดกฎหมายด้านมนุษยธรรมระหว่างประเทศและมนุษยชาติของเราอย่างร้ายแรง

ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุขของฮามาส แถลงว่า ขณะนี้ มีชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซาเสียชีวิตแล้วมากกว่า 30,000 คน ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บมากกว่า 70,000 คน ตั้งแต่เริ่มต้นสงครามเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม ปีที่แล้ว

กระทรวงสาธารณสุขในกาซา รายงานสถานการณ์รายวันเมื่อวานนี้ (29 ก.พ.) ระบุว่า มีผู้เสียชีวิต 81 คนในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา รวมตัวเลขผู้เสียชีวิตทั้งสิ้นอยู่ที่ 30,035 คน โดยเท่ากับประมาณร้อยละ 1.3 ของประชากร 2.3 ล้านคนในกาซา ซึ่งถือเป็นความสูญเสียที่เลวร้ายที่สุดของสงครามครั้งนี้ และผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงและเด็ก ขณะที่ตัวเลขผู้เสียชีวิตก็ไม่ได้แบ่งแยกชัดเจนระหว่างพลเรือนและนักรบฮามาส แต่กองทัพอิสราเอล ระบุว่า จำนวนผู้ก่อการร้ายที่ถูกสังหารน่าจะอยู่ที่ประมาณ 10,000 คน

อย่างไรก็ตาม ตัวเลขผู้เสียชีวิตที่แท้จริง น่าจะสูงกว่านี้มากเนื่องจากยังไม่ได้นับรวมผู้ที่ไม่ได้ถูกส่งตัวไปโรงพยาบาล และอีกหลายพันคนคาดว่าอยู่ใต้ซากปรักหักพังของอาคารบ้านเรือนที่ถูกอิสราเอลโจมตีทางอากาศ

ตัวเลขผู้เสียชีวิตที่เพิ่มมากขึ้น ตอกย้ำความสูญเสียที่น่าตื่นตระหนกตลอดระยะเวลาหลายเดือนสำหรับชาวปาเลสไตน์ในกาซา หลังอิสราเอลทิ้งระเบิดโจมตีและบุกภาคพื้นดิน ซึ่งทำให้ประชาชนส่วนใหญ่กลายเป็นผู้พลัดถิ่น และก่อให้เกิดวิกฤตเลวร้ายด้านมนุษยธรรม

อิสราเอลกำลังเผชิญกับแรงกดดันอย่างมากจากทั่วโลกให้ยุติความขัดแย้ง แต่การโจมตีในกาซายังได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐฯ พันธมิตรสำคัญและประเทศผู้จัดหาอาวุธยุทโธปกรณ์รายใหญ่ที่สุดของอิสราเอล

สหรัฐฯเสนอ “หยุดยิงชั่วคราว” ต่อที่ประชุมสหประชาชาติในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ แต่ใช้สิทธิยับยั้งมติหยุดยิงทันที และคาดว่าจะเกิดความหายนะมากขึ้น หากอิสราเอลบุกโจมตีเมืองราฟาห์ ภาคใต้ของกาซา ซึ่งมีผู้พลัดถิ่นอาศัยอยู่มากกว่า 1 ล้านคน

ขณะเดียวกัน รัฐบาลและเจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองของสหรัฐฯ แสดงความกังวลว่า อิสราเอลกำลังเตรียมบุกภาคพื้นดินเข้าไปในเลบานอน ซึ่งอาจเริ่มต้นขึ้นในอีกไม่กี่เดือนนี้ หากความพยายามทางการทูตล้มเหลวที่จะผลักดันให้กลุ่มฮีซบอลเลาะห์ ถอยออกจากพรมแดนภาคเหนือที่ติดกับอิสราเอล

แม้ว่ายังไม่มีการตัดสินใจขั้นสุดท้ายของอิสราเอล แต่ความกังวลภายในฝ่ายบริหารของไบเดนนั้นรุนแรงเพียงพอว่า โอกาสที่จะมีการบุกข้ามพรมแดนเข้าเลบานอน เป็นประเด็นอยู่ในการบรรยายสรุปด้านข่าวกรองให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารระดับสูงได้รับทราบ ซึ่งตามข้อมูลของคนที่ได้รับฟังการบรรยายสรุปและได้รับแจ้งนั้น การปฏิบัติการทางทหารของอิสราเอลในเลบานอนอาจเกิดขึ้นในช่วงต้นฤดูร้อน

ทั้งนี้ ผู้นำของฮิซบอลเลาะห์ กองกำลังกึ่งทหารที่แข็งแกร่ง ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากอิหร่าน แสดงการสนับสนุนชาวปาเลสไตน์ และประณามการบุกโจมตีกาซาของกองทัพอิสราเอล

ตลอดหลายเดือนมานี้ ทั้งอิสราเอลและฮิซบอลเลาะห์ โจมตีกันข้ามพรมแดนรายวัน ซึ่งทำให้ชาวเลบานอนหลายหมื่นคนพลัดถิ่น และชาวอิสราเอลอพยพออกจากบ้านตนเอง อิสราเอลยิงปืนใหญ่และส่งเครื่องบินและโดรน โจมตีเป้าหมายหลายแห่ง ขณะที่ ฮิซบอลเลาะห์ ก็ยิงจรวดและขีปนาวุธตอบโต้

สหรัฐฯ เป็นผู้ไกล่เกลี่ยรายสำคัญ ในการหารือเกี่ยวกับการหยุดยิงในกาซา รัฐบาของประธานาธิบดีไบเดน ก็เป็นผู้นำในการเจรจาคู่ขนานกับอิสราเอลและเจ้าหน้าที่เลบานอนด้วย ซึ่งหากประสบความสำเร็จ จะสร้างเขตกันชนกว้างหลายกิโลเมตร ภายในภาคใต้ของเลบานอน โดยทางเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ เชื่อว่า ข้อตกลงดังกล่าวจะทำให้การบุกของอิสราเอลเลื่อนออกไป

ภาพจาก AFP