ฮามาสยืนยัน ไม่ปล่อยตัวประกัน ก่อนที่จะมีการหยุดยิงในฉนวนกาซา

ฮามาสยืนยัน ไม่ปล่อยตัวประกัน ก่อนที่จะมีการหยุดยิงในฉนวนกาซา

สรุปข่าว

อุสมะ ฮัมดัน เจ้าหน้าที่อาวุโสฮามาส แถลงวานนี้ (5 มีนาคม) ที่กรุงเบรุต เลบานอน การปล่อยตัวประกันชาวอิสราเอลที่ถูกจับไว้ในฉนวนกาซา แลกกับอิสราเอลปล่อยตัวนักโทษปาเลสไตน์นั้น จะเกิดขึ้นหลังจากมีการหยุดยิงเท่านั้น 


พร้อมย้ำเงื่อนไขของฮามาสสำหรับการบรรลุข้อตกลงหยุดยิง คือ อิสราเอลจะต้องยุติการรุกรานทางทหาร ถอนกองกำลังทหารอิสราเอลทั้งหมดออกจากฉนวนกาซา ส่งชาวปาเลสไตน์ที่อพยพหนีภัยสงครามในพื้นที่ต่าง ๆ กลับคืนบ้านของพวกเขาก่อนเกิดสงคราม


ฮัมดันกล่าวหลังจากฮามาสได้พิจารณาข้อเสนอหยุดยิงของอิสราเอล ในการเจรจาหยุดยิงกาซาที่กรุงไคโร ซึ่งผ่านไปเป็นวันที่ 3 แล้วเมื่อวานนี้ (5 มีนาคม) ระหว่างฮามาสกับ 2 ประเทศตัวกลาง คือ อียิปต์และกาตาร์ แต่ยังไม่มีสัญญาณใด ๆ ว่าใกล้จะบรรลุข้อตกลงหยุดยิง


พร้อมกับฝากผู้สื่อข่าวไปบอกสหรัฐฯ ด้วยว่า สิ่งที่สำคัญยิ่งกว่าการส่งความช่วยเหลือไปกาซา คือ สหรัฐฯ ต้องหยุดส่งอาวุธให้อิสราเอล และกองทัพอิสราเอลต้องยุติการยึดครองดินแดนของปาเลสไตน์ 


ด้าน ประธานาธิบดี โจ ไบเดน ของสหรัฐฯ กล่าวว่า ข้อตกลงหยุดยิงและปล่อยตัวประกันแลกกับนักโทษปาเลสไตน์ อยู่ในมือฮามาสแล้วขณะนี้ เตือนฮามาสว่า การหยุดยิงเป็นสิ่งจำเป็น ที่จะทำให้ความช่วยเหลือเข้าสู่กาซาได้มากขึ้น ไบเดนย้ำด้วยว่า เป็นสิ่งจำเป็นที่จะต้องเพิ่มความช่วยเหลือเข้าสู่กาซา โดยไม่ควรมีข้ออ้างหรือข้อแก้ตัวใด ๆ


ประธานาธิบดี มาห์มุด อับบาส ของปาเลสไตน์ เรียกร้องอิสราเอลหยุดการรุกรานก่อนถึงเดือนรอมฎอน พร้อมเปิดเผยว่า ขณะนี้มีความพยายามจะรวบรวมกลุ่มปาเลสไตน์ต่าง ๆ ให้มาอยู่ภายใต้กรอบขององค์การปลดปล่อยปาเลสไตน์ (PLO) ที่อับบาสเป็นผู้นำ เพื่อให้ PLO เป็นตัวแทนอันชอบธรรมของชาวปาเลสไตน์ทั้งมวล


ส่วน นายกรัฐมนตรี เบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอล กล่าวว่า อิสราเอลจะอนุญาตให้ชาวปาเลสไตน์เข้าไปในมัสยิดอัล-อักซอในนครเยรูซาเลมตะวันออกได้ ในจำนวนเท่าเดิมเท่ากับปีก่อน ๆ ในช่วงสัปดาห์แรกของเดือนรอมฎอน แต่เขาไม่ได้ระบุจำนวนชัดเจน 


ทั้งนี้ อิสราเอลจำกัดจำนวนผู้แสวงบุญปาเลสไตน์ ซึ่งรวมถึงชาวมุสลิมในอิสราเอลเองด้วย ในการเข้าถึงมัสยิดอัล-อักซอ สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของชาวมุสลิม สร้างความไม่พอใจให้แก่ชาวปาเลสไตน์ และชาวมุสลิมในอิสราเอล ซึ่งมีประชากร 18% ของประชากรทั้งหมดในอิสราเอล และกลายเป็นชนวนให้เกิดการประท้วงและความรุนแรงที่มัสยิดแห่งนี้ตลอดมา


อย่างไรก็ตาม สหรัฐฯ ได้เริ่มทิ้งอาหารและสิ่งของบรรเทาทุกข์ลงจากเครื่องบิน ลงสู่ฉนวนกาซาครั้งแรกตั้งแต่วันเสาร์ที่แล้ว (2 มีนาคม) และระบุว่า เป็นจุดเริ่มในการส่งอาหารและความช่วยเหลือทางอากาศลงไปยังกาซาที่จะดำเนินต่อไป


สถานการณ์วิกฤตมนุษยธรรมในกาซา หนักที่สุดในกาซาเหนือ พื้นที่แรกที่อิสราเอลบุกโจมตีก่อน เนื่องจากคาดว่ายังมีชาวปาเลสไตน์ที่ไม่ได้อพยพ ตกค้างอยู่ที่นี่หลายแสนคน แม้ว่าอิสราเอลจะสั่งให้อพยพตั้งแต่ช่วงแรกของสงครามก็ตาม 


แต่ยูเอ็นไม่สามารถส่งอาหารไปยังกาซาเหนือได้มาตั้งแต่วันที่ 23 มกราคมปีนี้ เนื่องจากอิสราเอลปฏิเสธไม่ให้ขบวนรถความช่วยเหลือของยูเอ็น เข้าสู่กาซาเหนือได้ โดยทหารอิสราเอลยังคงปฏิบัติการอยู่ในกาซาเหนือ

—————

ภาพ: Reuters

ที่มาข้อมูล : -

ที่มารูปภาพ :

avatar

TNNThailand