“เบนนี แกนตซ์” เยือนสหรัฐฯ-อังกฤษ ส่งสัญญาณ ครม.สงครามอิสราเอลแตก

“เบนนี แกนตซ์” เยือนสหรัฐฯ-อังกฤษ ส่งสัญญาณ ครม.สงครามอิสราเอลแตก

สรุปข่าว


---ครม.อิสราเอลเยือนสหรัฐฯ--- 


ไม่กี่วันก่อน เบนนี แกนตซ์ รัฐมนตรีจากครม.ชุดสงครามของอิสราเอล ได้เดินทางเยือนสหรัฐฯ หารือร่วมกับ กมลา แฮร์ริส-แอนโทนี บลิงเคน 


และล่าสุด เมื่อวานนี้ (6 มีนาคม) ก็ได้เดินทางต่อไปยังกรุงลอนดอนของอังกฤษ และได้หารือร่วมกับ เดวิด คาเมรอน รัฐมนตรีต่างประเทศ และเขาได้รับข้อความมาจากอังกฤษว่า “อิสราเอลจะต้องเปิดทางให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมไหลเข้าสู่กาซาให้มากขึ้น” 


แต่ประเด็นสำคัญที่คนจับตามองคือ “คน” ที่เยือนต่างประเทศในเวลานี้ คือ “เบนนี แกนตซ์” นักการเมืองสายกลางของอิสราเอล ที่นับว่าเป็น “คู่แข่งทางการเมืองคนสำคัญ” ของ “เบนจามิน เนทันยาฮู” ที่กำลังเป็นประเด็นที่ถูกตีความ


แกนตซ์ อดีตผู้บัญชาการกองทัพอิสราเอล และเป็นนักการเมืองที่ได้รับความนิยมสูงกว่านายกรัฐมนตรีเนทันยาฮู อีกทั้งการเยือนสหรัฐฯ และอังกฤษ ของแกนตซ์ ก็นับว่าสร้างความไม่พอใจให้นายกฯ เนทันยาฮูไม่น้อย อีกทั้งยังประกาศไม่ยอมรับการเดินทางต่างประเทศของแกนตซ์อีกด้วย


ในขณะที่ตัวของ “เดวิด คาเมรอน” ที่พบกับแกนตซ์ นี้ก็ต้องจับตา เพราะที่ผ่านมา เขาได้มีถ้อยคำที่แข็งขันในประเด็นร้อนต่าง ๆ ทั้งเรื่องสงครามยูเครน และฉนวนกาซา คล้ายกับว่า กำลังปฏิบัติหน้าที่เดิม ที่เคยดำรงตำแหน่งอยู่


ดังนั้น การเจอกันของ แกนตซ์และคาเมรอน ทำให้นักวิเคราะห์หลายคน มองว่า “นี่คือการเจอกันของ “ผู้นำเงา 2 คน” มากกว่าที่จะเป็นคนในระดับรัฐมนตรี 2 คน 


เพราะที่แกนตซ์ได้เข้าร่วมครม.ของเนทันยาฮูนี ก็เพราะสงครามในกาซา ขณะที่คาเมรอน ได้กลับมาเป็นรัฐมนตรีต่างประเทศ ก็เพราะอิทธิพลของริชี ซูนัค ดูจะยังไม่ถึง ทำให้ต้องหาบุคคลสำคัญมาดึงคะแนนของพรรคอนุรักษ์นิยมขึ้นมาหน่อย 


นักการทูตและผู้เชี่ยวชาญมองว่า การที่อังกฤษใช้ “คาเมรอน” เป็นผู้ส่งข้อความที่แข็งกร้าวไปให้กับอิสราเอลนั้น ดูจะมีน้ำหนักมากกว่าข้อความที่มาจากรัฐมนตรีทั่ว ๆ ไป อีกทั้งยังเป็นการป้องกันไม่ให้ซูนัค มีความเสี่ยงเกินไป ในการกดดันเนทันยาฮูโดยตรง ที่อาจถูกปฏิเสธได้ 


“คาเมรอนคือตัวแกร่ง และเขาใช้คำพูดได้ดี” แดเนียล เลวี อดีตนักเจรจาสันติภาพอิสราเอล ที่ทำงานให้กับโครงการสหรัฐฯ-ตะวันออกกลางกล่าว 


--- คาเมรอนชี้ ความอดทนเหลือน้อยลงทุกที--- 


ในการหารือร่วมกันนั้น คาเมรอนได้กล่าวในแถลงการณ์ว่า เขาและแกนตซ์ ได้ถกในความพยายามที่จะหยุดการต่อสู้ และคาเมรอนได้เรียกร้องให้แกนตซ์เพิ่มความช่วยเหลือ ขณะเดียวกัน ก็ย้ำว่า อังกฤษสนับสนุน “การป้องกันตัวเองของอิสราเอง” แต่ในฐานะที่ยึดครองกาซาอยู่ในตอนนี้ อิสราเอลก็มีความรับผิดชอบในการส่งความช่วยเหลือเข้าไปให้พลเรือนด้วย” 


ขณะที่เมื่อวานนี้ คาเมรอนก็ได้กล่าวต่อรัฐสภาอังกฤษ ว่า “ความอดทน อดกลั้น มันเหลือน้อยลงทุกทีแล้ว และผู้คนกำลังล้มตายจากความอดอยาก และโรคภัยซึ่งสามารถป้องกันได้”  


การที่แกนตซ์ ได้พบกับรัฐมนตรีต่างประเทศคาเมรอน รวมถึงที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติอังกฤษ ทิม แบร์โรว์ จึงเหมือนเป็นการ “ส่งข้อความ” ไปยังนายกรัฐมนตรีเนทันยาฮู ผู้ซึ่งสร้างความไม่ใคร่พอใจให้กับเจ้าหน้าที่ทั้งในลอนดอน และวอชิงตัน เนื่องจากปฏิเสธข้อตกลงในการหยุดยิงเพื่อแลกกับตัวประกัน และคงไม่ต้องเอ่ยถึงการข้อตกลงสันติภาพกับปาเลสไตน์ ที่ดูจะเกิดได้ยากเหลือเกิน


--- ครม.สงครามอิสราเอล แตกแยก?--- 


ความตึงเครียดในครม.ชุดสงครามอิสราเอล เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ และแกนตซ์ก็มีพลพรรคร่วมกับอดีตผู้บัญชาการทหารระดับสูง กาดี ไอเซนคอต เพราะมีความเห็นไม่ตรงกับเนทันยาฮู โดยเฉพาะในเรื่องข้อตกลงหยุดยิงในกาซา  และนักวิเคราะห์การเมืองอิสราเอล มองว่า แกนตซ์ มีโอกาสที่จะเป็นคู่แข่งทางการเมืองกับเนทันยาฮูด้วย หากมีการเลือกตั้งในอนาคต  


ปัจจุบัน แกนตซ์ ในวัย 64 ปี มีคะแนนนิยมสูงกว่าเนทันยาฮู ที่กำลังเผชิญปัญหาทางกฎหมายมาตั้งแต่ก่อนสงคราม และยังถูกชาวอิสราเอลโทษว่าล้มเหลวในเชิงข่าวกรอง กรณีถูกโจมตีเมื่อวันที่ 7 ตุลาคมปีที่แล้ว 


Channel 13 เผยผลโพลล์ที่พบว่า หากมีการเลือกตั้งเวลานี้ พรรค National Unity สายกลางของแกนตซ์ จะได้รับที่นั่งในสภา 39 ที่ ขณะที่พรรคฝ่ายขวาของเนทันยาฮู จะได้ไปเพียง 17 ที่นั่งเท่านั้น


--- อิสราเอล จะเปิดทางช่วยเหลือสู่กาซาหรือไม่?--- 


ดังนั้น การเยือนสหรัฐฯ และอังกฤษ ของ เบนนี แกนตซ์ ในครั้งนี้ แม้จะไม่ได้รับการยอมรับ และไม่ได้รับการสนับสนุนทางการทูตจากผู้นำอิสราเอล แต่แกนตซ์ก็ได้รับข้อความให้อิสราเอลดำเนินการให้มากขึ้น เพื่อส่งความช่วยเหลือเข้ากาซา เพราะสหรัฐฯ อังกฤษ และอีกหลายประเทศ ก็เริ่มจะทนไม่ไหวกับสถานการณ์ที่เลวร้ายในกาซาแล้ว 


แต่ความขัดแย้งกันเองในครม.สงครามของอิสราเอล มันจะทำให้สถานการณ์ดีขึ้นได้จริงหรือไม่?

—————

แปล-เรียบเรียง: ภัทร จินตนะกุล

ภาพ: Reuters


ข้อมูลอ้างอิง:

1

ที่มาข้อมูล : -

ที่มารูปภาพ :

avatar

TNNThailand