รัสเซียยิงขีปนาวุธเกือบ 50 ลูกถล่มยูเครนครั้งใหญ่สุด ทำไฟดับกว่าล้านคน

กระทรวงกลาโหมรัสเซียแถลง รัสเซียได้ยิงขีปนาวุธ 49 ลูกโจมตียูเครนครั้งใหญ่เมื่อคืนนี้ (22 มีนาคม) โดยใช้ขีปนาวุธแม่นยำสูงพิสัยไกลหลายชนิด ทั้งยิงจากอากาศ ทะเล และพื้นดิน รวมไปถึงโดรนอากาศยานไร้คนขับอีกหลายลำ ถล่มเป้าหมายหลายแห่งในยูเครน ตั้งแต่โรงไฟฟ้า เครือข่ายส่งกระแสไฟฟ้า เขื่อนผลิตไฟฟ้าพลังน้ำ พื้นที่อุตสาหกรรมทางทหาร จุดตัดทางรถไฟ คลังอาวุธ รวมไปถึงสถานที่ประจำการของทหารยูเครนและนักรบต่างชาติด้วย

โฆษกกระทรวงกลาโหมรัสเซียระบุ การโจมตียูเครนครั้งใหญ่ดังกล่าว เพื่อเอาคืนยูเครนที่ระดมยิงใส่ดินแดนรัสเซีย และพยายามจะบุกเข้าไปและยึดถิ่นฐานต่าง ๆ บริเวณชายแดนของรัสเซียในช่วงการเลือกตั้งประธานาธิบดีรัสเซียเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว 

แต่ทางด้านยูเครนระบุจำนวนขีปนาวุธแตกต่างออกไปจากรัสเซียว่า รัสเซียยิงขีปนาวุธทั้งหมด 88 ลูก ส่งโดรนอากาศยานไร้คนขับ "ชาเฮด" (Shahed) อีก 63 ลำ โจมตี 3 ภูมิภาคยูเครน คือคาร์คิฟ , ดนิโปรเป-ตรอฟสก์ และซาปอริสเซีย แต่ขีปนาวุธ 37 ลูกกับโดรน 55 ลำของรัสเซีย ถูกยูเครนสอยร่วง 

ด้านยูเครนระบุว่า มีขีปนาวุธ 8 ลูกของรัสเซียถล่มเขื่อนใหญ่ที่สุดของยูเครน มีชื่อว่าเขื่อน ดนิโปรเอชอีเอส ซึ่งเป็นสถานีผลิตไฟฟ้าพลังน้ำ อยู่ในเมืองซาปอริสเซีย นับเป็นการถล่มโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานของยูเครนครั้งใหญ่ที่สุด ตั้งแต่เกิดการสู้รบมานานกว่า 2 ปี มีผู้เสียชีวิต 5 คน และทำให้ไฟฟ้าดับเดือดร้อนชาวยูเครนอีกกว่าล้านคนใน 9 ภูมิภาค ทำให้ขณะนี้ ยูเครนต้องรับไฟฟ้าฉุกเฉินจากประเทศเพื่อนบ้าน คือโปแลนด์ โรมาเนีย และสโลวะเกีย

ด้านสหรัฐฯ ประณามการที่รัสเซียโจมตีหลายเมืองและมีเป้าหมายที่โครงสร้างพื้นฐานของยูเครน รวมถึงเครือข่ายส่งกระแสไฟฟ้า พร้อมกับเรียกร้องครั้งใหม่ว่า จะต้องเพิ่มการป้องกันภัยทางอากาศให้แก่ยูเครนโดยด่วนที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

————

ภาพ: Reuters