รัสเซียวีโตคณะตรวจสอบคว่ำบาตรเกาหลีเหนือ สหรัฐฯ ผิดหวัง

รัสเซียวีโตคณะตรวจสอบคว่ำบาตรเกาหลีเหนือ สหรัฐฯ ผิดหวัง

สรุปข่าว

รัสเซียได้ใช้สิทธิ์วีโต หรือ สิทธิยับยั้ง การต่ออายุประจำปี "คณะผู้เชี่ยวชาญ 1718" แห่งคณะมนตรีความมั่นคงสหประชาชาติ ในการประชุมคณะมนตรีความมั่นคงว่าด้วยเกาหลีเหนือวานนี้ (28 มีนาคม) โดยคณะผู้เชี่ยวชาญดังกล่าวมีหน้าที่ตรวจสอบการบังคับใช้มาตรการคว่ำบาตรเกาหลีเหนือ ที่ลงโทษเกาหลีเหนือเนื่องจากโครงการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์และขีปนาวุธทิ้งตัวมานานเกือบ 20 ปี


ด้านจีนงดออกเสียงในการลงมติดังกล่าว ส่วนอีก 13 ชาติสมาชิกที่เหลือในคณะมนตรีความมั่นคงรวมถึงสหรัฐฯ ลงมติสนับสนุน


ก่อนการลงมติ วาสสิลี เนเบนเซีย เอกอัครราชทูตรัสเซียประจำยูเอ็น ได้ตั้งคำถามถึงความเป็นอิสระในการทำงานของคณะผู้เชี่ยวชาญดังกล่าว ระบุว่า ทำงานโดยอยู่ในกำมือของประเทศตะวันตก 


ส่วนในระหว่างการประชุมคณะมนตรีความมั่นคงวานนี้ ทางสหรัฐฯ กล่าวหาเกาหลีเหนือส่งอาวุธให้แก่รัสเซีย นำไปใช้ในยูเครน แต่ทั้งรัสเซียและเกาหลีเหนือได้ปฏิเสธข้อกล่าวหานี้ไปแล้ว ส่วนรัสเซียกับจีนพยายามผลักดันให้เพิ่มข้อกำหนดว่า ต้องต่ออายุมาตรการคว่ำบาตรเกาหลีเหนือทุกปี แต่สหรัฐฯ และประเทศอื่น ๆ ปฏิเสธ จึงไม่สำเร็จ


ด้าน แมทธิว มิลเลอร์ โฆษกกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ แถลงรู้สึกผิดหวังอย่างยิ่ง ที่รัสเซียวีโตการต่ออายุคณะผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบการบังคับใช้มาตรการคว่ำบาตรเกาหลีเหนือในครั้งนี้


ทั้งนี้ มาตรการคว่ำบาตรเกาหลีเหนือไม่มีวันหมดอายุและไม่จำเป็นต้องต่ออายุ แม้ว่าคณะผู้เชี่ยวชาญบังคับใช้การคว่ำบาตรจะไม่ได้รับการต่ออายุในครั้งนี้ไปแล้วก็ตาม 


เกาหลีเหนือถูกยูเอ็นคว่ำบาตรเนื่องจากโครงการนิวเคลียร์และขีปนาวุธทิ้งตัว มานาน 18 ปีแล้วตั้งแต่ปี 2006 เป็นต้นมา ส่วนคณะผู้เชี่ยวชาญซึ่งประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญอิสระเกิดขึ้นทีหลัง และได้ทำหน้าที่บังคับใช้มาตรการคว่ำบาตรเกาหลีเหนือมานาน 15 ปี โดยรายงานผลการทำงานโดยตรงต่อคณะมนตรีความมั่นคงปีละ 2 ครั้ง


วาระการทำงานปัจจุบันของคณะผู้เชี่ยวชาญนี้จะสิ้นสุดลงในวันที่ 30 เมษายนที่จะถึงนี้  รายงานล่าสุดของคณะผู้เชี่ยวชาญนี้ที่ออกเมื่อต้นเดือนนี้ (มีนาคม) ระบุว่า กำลังสอบสวนกรณีที่เกาหลีเหนือทำการโจมตีทางไซเบอร์หลายสิบครั้ง ได้เงินไป 3,000 ล้านดอลลาร์ คิดเป็นเงินไทยกว่า 10,000 ล้านบาท นำไปใช้พัฒนาโครงการนิวเคลียร์

————

ภาพ: Reuters

ที่มาข้อมูล : -

ที่มารูปภาพ :

avatar

TNNThailand