เกิดเหตุจลาจลในนิวแคลิโดเนีย ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 3 ราย

นิวแคลิโดเนีย ดินแดนโพ้นทะเลในมหาสมุทรแปซิฟิก ที่อยู่ภายใต้อาณัติของฝรั่งเศส ยังคงเกิดภาวะไร้ขื่อแปและความวุ่นวายหนัก จากการประท้วงต่อต้านที่สภาลงมติแก้ไขธรรมนูญปกครอง ผู้คนได้ออกมาก่ออาชญากรรม ลักขโมย และ เผาทำลายรถยนต์และทรัพย์สินต่างๆ แม้ว่าทางการจะใช้มาตรการรักษาความปลอดภัยรวมถึงเคอร์ฟิวก็ตาม

โฆษกของประธานาธิบดี หลุยส์ มาปู ของนิวแคลิโดเนีย กล่าวว่า เหตุจลาจลทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 3 ราย ทั้งหมดเป็นสมาชิกของกลุ่มชาติพันธุ์คานัก ซึ่งข้อมูลนี้ได้มาจากตำรวจ เจ้าหน้าที่ฝรั่งเศสกล่าวว่า ผู้เสียชีวิตทั้งหมดถูกยิงในบริเวณเขตอุตสาหกรรม ซึ่งเจ้าหน้าที่กล่าวว่า ตำรวจไม่ได้เป็นผู้ลงมือยิงแต่ผู้ที่ยิงเป็นผู้ที่อาจจะพยายามป้องกันตนเอง นอกจากนี้ ยังมีตำรวจและประชาชนบาดเจ็บอีกนับร้อยคน

ส่วนสถานการณ์ทั่วไปในกรุงกรุงนูเมอา ยังคงเต็มไปด้วยซากความเสียหายของยวดยานและสิ่งของที่ถูกไฟเผาตามถนนจากการจลาจล ขณะที่ร้านค้าและโรงเรียนยังคงปิดต่อไปในวันนี้ ขณะที่ข้าหลวงใหญ่แห่งสาธารณรัฐในนิวแคลิโดเนีย ซึ่งเป็นตัวแทนของรัฐบาลฝรั่งเศสในนิวแคลิโดเนีย บอกว่าสถานการณ์จนถึงขณะนี้ยังคงน่าเป็นห่วง เนื่องจากพบว่ามีความพยายามแหกคุกหลบหนีออกจากเรือนจำของนักโทษด้วย

สำหรับเหตุจลาจลเกิดขึ้นในสัปดาห์นี้ 

ก่อนที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรฝรั่งเศสจะลงมติในร่างกฎหมาย ที่อนุญาตให้ชาวฝรั่งเศสที่อาศัยอยู่ในนิวแคลิโดเนียเป็นเวลา 10 ปีขึ้นไป สามารถลงคะแนนเสียงเลือกตั้งในระดับจังหวัด ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ผู้นำท้องถิ่นหวั่นเกรงว่าจะกระทบกับการลงคะแนนเสียงของชนพื้นเมืองคานัก เป็นการลดทอนบทบาทของพวกเขา รัฐบาลฝรั่งเศสกล่าวว่า จำเป็นต้องมีการเปลี่ยนแปลงระเบียบเกี่ยวกับการลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 351 ต่อ 153 เสียง มีความจำเป็น เพื่อให้การเลือกตั้งในนิวแคลิโดเนียเป็นประธิบไตย  

ด้านประธานาธิบดี เอมมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศส และประธานาธิบดีมาปู กล่าวเรียกร้องให้ประชาชนอยู่ในความสงบและให้มีการเจรจากัน มาครงเสนอให้จัดการเจรจาระหว่างกลุ่มผู้สนับสนุนและคัดค้านเอกราขของนิวแคลิโดเนียก่อนการประชุมวาระพิเศษของรับสภาเพื่อให้ความเห็นชอบร่างกฎหมายนี้