ทำไมวันเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ต้องเป็นวันอังคารหลังวันจันทร์แรกของเดือนพฤศจิกายนทุกครั้ง ?

สาเหตุที่ว่าทำไมต้องเป็นเดือน “พฤศจิกายน” เป็นเพราะในช่วงเวลานั้นสหรัฐฯ ยังคงเป็นสังคมเกษตรกรรม ประชาชนส่วนใหญ่ทำอาชีพเป็นเกษตรกร เมื่อกางปฏิทินมาดูช่วงเวลาเกือบทั้งปีเกษตรกรส่วนใหญ่จะหมกมุ่นไปกับการเพาะปลูก ดูแล และเก็บเกี่ยวพืชจนแทบจะไม่มีเวลาไปสนใจเรื่องอื่นเลย ดังนั้นรัฐบาลจึงเลือกช่วงต้นเดือนพฤศจิกายนที่เริ่มสิ้นสุดฤดูกาลเก็บเกี่ยว จึงเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมที่ประชาชนจะออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งและมีเวลาสนใจเรื่องอื่น ๆ อย่างการเมืองบ้าง

ส่วนทำไมถึงต้องเป็น “วันอังคาร” เนื่องจากชาวอเมริกันส่วนใหญ่นับถือศาสนาคริสต์และมีประชาชนไม่น้อยที่เคร่งศาสนาจึงต้องเดินทางไปโบสถ์ในทุกวันอาทิตย์ ทำให้ตัวเลือกของวันอาทิตย์ถูกตัดทิ้งไป ส่วนวันพุธซึ่งเป็นวันกลางสัปดาห์ก็ถูกมองว่าไม่เหมาะสม เพราะจะเป็นวันที่ประชาชน โดยเฉพาะเกษตรกรต่างออกจากบ้านไปขายพืชผลในเมือง ซึ่งบางครั้งการเดินทางในที่ชนบทอาจมีระยะทางที่ไกลและต้องใช้เวลาในการเดินทาง จึงไม่สมควรจะเลือกวันพุธเช่นเดียวกัน และเมื่อวันอาทิตย์และวันพุธถูกตัดออกไป นั่นหมายความว่าวันเลือกตั้งจะไม่สามารถเป็นวันจันทร์หรือวันพฤหัสบดีได้เช่นเดียวกัน ดังนั้น วันอังคารจึงเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด

แล้วทำไมยังต้องระบุว่าต้องเป็น “วันอังคารหลังวันจันทร์แรกของเดือนพฤศจิกายน” ก็เพราะป้องกันไม่ให้ตรงกับวันที่ 1 พฤศจิกายนที่ชาวคริสต์มองว่าเป็นวัน All Saint’s Day (วันออลเซนท์) หรือ วันสมโภชนักบุญทั้งหลาย

ในปัจจุบันชาวอเมริกันหลายคนยังคงถกเถียงกันว่าควรเปลี่ยนจากวันคารเป็นวันอื่น เนื่องจากเกษตกรบางคนในยุคนี้ทำงานกันทุกวัน ซึ่งรวมวันอังคารด้วย ขณะที่บางคนกล่าวว่าควรใช้วันอังคารเป็นวันเลือกตั้งเหมือนเดิม แต่รัฐบาลต้องกำหนดให้วันนั้นเป็นวันหยุดทั่วประเทศอย่างชัดเจน แต่การเรียกร้องเรื่องนี้ไม่เคยสำเร็จและส่งผลให้จำนวนผู้ออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งน้อยลงเรื่อย ๆ ซึ่งในปีนี้ การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ก็ตรงกับวันอังคารที่ 5 พฤศจิกายน