ทรัมป์ลงนามคำสั่งเก็บภาษีจากแคนาดา เม็กซิโก จีนแล้ว

ทรัมป์ลงนามคำสั่งเก็บภาษีจากแคนาดา เม็กซิโก จีนแล้ว

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหารเมื่อวานนี้ (1 ก.พ.) เพื่อบังคับใช้มาตรการทางภาษีสินค้านำเข้าหรือภาษีศุลกากรจากแคนาดาและเม็กซิโก 25% และ 10% สำหรับสินค้าจากจีน โดยจะเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ช่วงเที่ยงคืนวันจันทร์ที่ 3 กุมภาพันธ์ คาบเกี่ยวเช้ามืดวันอังคารที่ 4 กุมภาพันธ์ ตามเวลาท้องถิ่นสหรัฐฯ โดยเฉพาะส่วนของแคนาดา สินค้านำเข้าไม่เกิน 800 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 27,036 บาท จะได้รับการยกเว้นไม่เข้าเกณฑ์ต้องถูกเก็บภาษี 25% แต่กรณีพลังงานนำเข้าจากแคนาดา ภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ จะเก็บเพียง 10% ส่วนพลังงานนำเข้าจากเม็กซิโกจะเก็บภาษีศุลกากรเต็ม 25%

ทรัมป์ระบุด้วยว่า มาตรการทางภาษีบังคับใช้ครั้งนี้ดำเนินการไปเพื่อแก้วิกฤตเฟนทานิล หรือ ยาระงับปวดในกลุ่มโอปิออยด์ ในสหรัฐฯ โดยทั่วไปใช้ระงับอาการปวดรุนแรงจากการผ่าตัดและอาการเจ็บปวดรุนแรงอื่น แต่ทำให้มีผู้เสียชีวิตนับแสนคนจากการใช้ยาเฟนทานิลเกินขนาดในสหรัฐฯ ทรัมป์ยังประกาศจะบังคับใช้มาตรการทางภาษีศุลกากรไปจนกว่าเหตุฉุกเฉินแห่งชาติทั้งกรณีวิกฤติยาเสพติดเฟนทานิล และ ปัญหาผู้อพยพเข้าเมืองโดยผิดกฏหมายจะหมดไป

สรุปข่าว

โดนัลด์ ทรัมป์ ลงนามคำสั่งฝ่ายบริหารบังคับใช้มาตรการทางภาษีกับสินค้าจากแคนาดา เม็กซิโกและจีน เริ่มใช้ 4 กุมภาพันธ์นี้ ประกาศจะบังคับใช้จนกว่าวิกฤตยาเสพติดเฟนทานิลและผู้อพยพจะหมดไป

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหารเมื่อวานนี้ (1 ก.พ.) เพื่อบังคับใช้มาตรการทางภาษีสินค้านำเข้าหรือภาษีศุลกากรจากแคนาดาและเม็กซิโก 25% และ 10% สำหรับสินค้าจากจีน โดยจะเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ช่วงเที่ยงคืนวันจันทร์ที่ 3 กุมภาพันธ์ คาบเกี่ยวเช้ามืดวันอังคารที่ 4 กุมภาพันธ์ ตามเวลาท้องถิ่นสหรัฐฯ โดยเฉพาะส่วนของแคนาดา สินค้านำเข้าไม่เกิน 800 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 27,036 บาท จะได้รับการยกเว้นไม่เข้าเกณฑ์ต้องถูกเก็บภาษี 25% แต่กรณีพลังงานนำเข้าจากแคนาดา ภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ จะเก็บเพียง 10% ส่วนพลังงานนำเข้าจากเม็กซิโกจะเก็บภาษีศุลกากรเต็ม 25%

ทรัมป์ระบุด้วยว่า มาตรการทางภาษีบังคับใช้ครั้งนี้ดำเนินการไปเพื่อแก้วิกฤตเฟนทานิล หรือ ยาระงับปวดในกลุ่มโอปิออยด์ ในสหรัฐฯ โดยทั่วไปใช้ระงับอาการปวดรุนแรงจากการผ่าตัดและอาการเจ็บปวดรุนแรงอื่น แต่ทำให้มีผู้เสียชีวิตนับแสนคนจากการใช้ยาเฟนทานิลเกินขนาดในสหรัฐฯ ทรัมป์ยังประกาศจะบังคับใช้มาตรการทางภาษีศุลกากรไปจนกว่าเหตุฉุกเฉินแห่งชาติทั้งกรณีวิกฤติยาเสพติดเฟนทานิล และ ปัญหาผู้อพยพเข้าเมืองโดยผิดกฏหมายจะหมดไป

ประธานาธิบดีเคลาเดีย เชนบัมของเม็กซิโก แถลงว่า มาตรการตอบโต้ที่รวมทั้งภาษีศุลกากรจะมีการบังคับต่อสหรัฐฯ โดยได้แนะนำสั่งการให้กระทรวงเศรษฐกิจ ดำเนินการแผนบีซึ่งเจ้าหน้าที่เม็กซิโกกำลังทำงานกันอยู่ซึ่งรวมทั้งมาตรการด้านภาษีศุลกากรหรือภาษีสินค้านำเข้าและมาตรการที่ไม่ใช่ภาษีเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของเม็กซิโก  และเน้นย้ำด้วยว่า รัฐบาลเม็กซิโกไม่ได้มุ่งการเผชิญหน้ากับสหรัฐฯ แต่ต้องการการเจรจาและการทำงานร่วมมือกัน

ส่วนภาคธุรกิจและประชาชนในเมืองซิอัวดัด ฮัวเรซ พรมแดนติดเมืองเอลปาโซ รัฐเท็กซัส ของสหรัฐฯ ต่างแสดงความเป็นห่วงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นจากมาตรการทางภาษีของสหรัฐฯ และหวังให้รัฐบาลบริหารจัดการเจรจาแก้ปัญหาเพื่อประโยชน์ของทั้งสองประเทศ

ด้านจัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีของแคนาดา โพสต์ข้อความในสื่อสังคมออนไลน์ X ระบุว่า แคนาดาไม่ต้องการสิ่งนี้ แต่เตรียมความพร้อมไว้แล้วเพื่อตอบโต้มาตรการทางภาษีของทรัมป์ และระบุด้วยว่าสหรัฐฯ ยืนยันแล้วว่ามีความตั้งใจที่จะบังคับใช้มาตรการทางภาษีโดยขึ้นภาษีสินค้าส่วนใหญ่ของแคนาดา 25% และภาษีพลังงานของแคนาดา 10% โดยจะเริ่มมีผลบังคับใช้วันที่ 4 กุมภาพันธ์ ซึ่งแคนาดาก็ตอบโต้ด้วยการประกาศมาตรการภาษีตอบโต้สินค้าอเมริกันในอัตรา 25% กับสินค้าจากอเมริกามูลค่า 1.55 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 5.2 ล้านล้านบาท เขายังระบุว่า มาตรการภาษีในครั้งนี้จะมีผลกระทบครอบคลุมสินค้าหลายประเภท รวมถึงสินค้าในชีวิตประจำวันที่ทุกคนใช้ เช่น เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ผลไม้ ผัก เสื้อผ้า และรองเท้า

นอกจากนี้ ทรูโดได้เรียกร้องให้ชาวแคนาดา “เลือกแคนาดา” โดยการเลือกสินค้าภายในประเทศแทนสินค้าจากสหรัฐฯ หลังจากที่เขาประกาศมาตรการภาษีตอบโต้สินค้าจากสหรัฐฯ โดยทรูโดกล่าวว่า การเลือกสินค้าแคนาดาอาจหมายถึงการ “ตรวจสอบป้ายสินค้าที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตและเลือกผลิตภัณฑ์ของแคนาดา แทนที่จะซื้อวิสกี้ไรย์จากเคนทักกี้ หรือการงดดื่มน้ำส้มจากฟลอริดาโดยสิ้นเชิง” เขายังกล่าวอีกว่า “อาจหมายถึงการเปลี่ยนแผนการพักผ่อนในช่วงฤดูร้อน โดยเลือกที่จะอยู่เที่ยวที่แคนาดาแทน”

ขณะที่กระทรวงพาณิชย์ของจีน แถลงว่า มาตรการทางภาษี ไม่ก่อประโยชน์ให้กับใคร ไม่ว่า จีน สหรัฐฯ หรือทั่วโลก

ที่มาข้อมูล : Reuters

ที่มารูปภาพ : Reuters

avatar

TNNThailand