
กระทรวงพลังงานสหรัฐฯ (DOE) ในรัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เพิ่มเกาหลีใต้ให้เข้าไปอยู่ในรายชื่อกลุ่มประเทศอ่อนไหว (Sensitive Country) มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 15 เมษายนนี้เป็นต้นไป โดยกระทรวงพลังงานสหรัฐฯ ย้ำว่าการขึ้นบัญชีนี้จะไม่กระทบกับความร่วมมือระดับทวิภาคีของ 2 ประเทศ
ด้านสำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่าความเคลื่อนไหวนี้อาจเป็นผลพวงจากการประกาศกฎอัยการศึกของประธานาธิบดียุน ซ็อก-ย็อล เมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา รวมไปถึงสหรัฐฯ กำลังเฝ้าระวังเกาหลีใต้ว่าอาจพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ของตัวเอง
จากเหตุนี้ทำให้กระทรวงการต่างประเทศของเกาหลีใต้แถลงว่ากำลังติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิดและรัฐบาลจะดําเนินการอย่างจริงจังเพื่อสื่อสารไปถึงสหรัฐฯ รวมไปถึงเรียกร้องให้หน่วยงานของเกาหลีใต้สร้างความเข้าใจใหม่อย่างถูกต้องกับฝั่งสหรัฐฯ รอยเตอร์สรายงานว่ารัฐมนตรีกระทรวงอุตสาหกรรมของเกาหลีใต้เตรียมเข้าพบรัฐมนตรีกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ ภายในสัปดาห์นี้เพื่อเจรจาและหารือในประเด็นดังกล่าว

สรุปข่าว
ด้านรักษาการประธานาธิบดีชเว ซัง-ม๊ก ของเกาหลีใต้แถลงวันนี้ (17 มีนาคม) ให้หลีกเลี่ยงผลกระทบด้านลบใด ๆ ก็ตามต่อความร่วมมือด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และพลังงาน กับสหรัฐฯ
อย่างไรก็ตาม ย้อนกลับเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมาในช่วงที่อดีตประธานาธิบดีโจ ไบเดน ยังดำรงตำแหน่ง สหรัฐฯ จัดให้เกาหลีใต้อยู่ในระดับ “ต่ำสุด” ของรายชื่อประเทศที่อ่อนไหว สำหรับรายชื่อประเทศอ่อนไหวในบัญชีของกระทรวงพลังงานสหรัฐฯ ประกอบด้วย จีน, ไต้หวัน, อิสราเอล, รัสเซีย, อิหร่าน และ เกาหลีเหนือ
จัดอันดับโดยอิงเหตุผลด้านต่าง ๆ อาทิ ความมั่นคงของชาติ, สนธิสัญญาไม่แพร่ขยายอาวุธนิวเคลียร์, ความไม่มั่นคงในระดับภูมิภาค, เป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจของประเทศ หรือ การสนับสนุนการก่อการร้าย ซึ่งตามเอกสารที่เคยมีการเผยแพร่เมื่อปี 2017 อิหร่าน และ เกาหลีเหนือ ถูกระบุเพิ่มว่าเป็น “ชาติก่อการร้าย” ด้วย