
สำนักงานสิทธิมนุษยชนสหประชาชาติ แถลงเมื่อวานนี้ (4 เมษายน) ว่า กองทัพเมียนมากำลังจำกัดความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมที่จำเป็นอย่างยิ่งสำหรับผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวในพื้นที่ที่พบว่า มีการต่อต้านการปกครองของกองทัพ ซึ่งขณะนี้ ทางยูเอ็นกำลังตรวจสอบรายงานการโจมตีของกองทัพต่อฝ่ายต่อต้านถึง 53 ครั้ง ตั้งแต่เกิดแผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 28 มีนาคม ซึ่งรวมถึงการโจมตีทางอากาศ โดยในจำนวนนี้ มีถึง 16 ครั้งที่เกิดขึ้นหลังมีข้อตกลงหยุดยิงเมื่อวันที่ 2 เมษายนที่ผ่านมา
เมื่อวานนี้ (4 เมษายน) สำนักงานสิทธิมนุษยชนยูเอ็น ระบุว่า ได้รับทราบถึงการโจมตีเพิ่มอีก 8 ครั้ง ซึ่งทางสำนักงานกำลังดำเนินการตรวจสอบอยู่ ขณะที่ รัฐบาลทหารเมียนมาไม่ได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว
ราวีนา แซมดาซานี โฆษกสำนักงานสิทธิมนุษยชนยูเอ็น กล่าวกับนักข่าวในนครเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ว่า สถานการณ์ด้านมนุษยธรรมในพื้นที่ประสบภัยแผ่นดินไหว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่นอกการควบคุมของกองทัพ อยู่ในสถานการณ์หายนะ
แผ่นดินไหวขนาด 7.7 แมกนิจูด ถือเป็นแผ่นดินไหวที่รุนแรงที่สุดในรอบ 100 ปีในเมียนมา ทำให้อาคารบ้านเรือนพังถล่ม, ชุมชนต่าง ๆ ราบเป็นหน้ากลอง และผู้คนจำนวนมากขาดแคลนอาหาร, น้ำและที่พักอาศัย ซึ่งคาดว่าน่าจะมีประชาชนมากกว่า 3.5 ล้านคนอพยพออกจากบ้านเรือน และบริการที่จำเป็น เช่นสาธารณสุข ต้องหยุดชะงัก
สรุปข่าว
สำนักงานสิทธิมนุษยชนสหประชาชาติ แถลงเมื่อวานนี้ (4 เมษายน) ว่า กองทัพเมียนมากำลังจำกัดความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมที่จำเป็นอย่างยิ่งสำหรับผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวในพื้นที่ที่พบว่า มีการต่อต้านการปกครองของกองทัพ ซึ่งขณะนี้ ทางยูเอ็นกำลังตรวจสอบรายงานการโจมตีของกองทัพต่อฝ่ายต่อต้านถึง 53 ครั้ง ตั้งแต่เกิดแผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 28 มีนาคม ซึ่งรวมถึงการโจมตีทางอากาศ โดยในจำนวนนี้ มีถึง 16 ครั้งที่เกิดขึ้นหลังมีข้อตกลงหยุดยิงเมื่อวันที่ 2 เมษายนที่ผ่านมา
เมื่อวานนี้ (4 เมษายน) สำนักงานสิทธิมนุษยชนยูเอ็น ระบุว่า ได้รับทราบถึงการโจมตีเพิ่มอีก 8 ครั้ง ซึ่งทางสำนักงานกำลังดำเนินการตรวจสอบอยู่ ขณะที่ รัฐบาลทหารเมียนมาไม่ได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว
ราวีนา แซมดาซานี โฆษกสำนักงานสิทธิมนุษยชนยูเอ็น กล่าวกับนักข่าวในนครเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ว่า สถานการณ์ด้านมนุษยธรรมในพื้นที่ประสบภัยแผ่นดินไหว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่นอกการควบคุมของกองทัพ อยู่ในสถานการณ์หายนะ
แผ่นดินไหวขนาด 7.7 แมกนิจูด ถือเป็นแผ่นดินไหวที่รุนแรงที่สุดในรอบ 100 ปีในเมียนมา ทำให้อาคารบ้านเรือนพังถล่ม, ชุมชนต่าง ๆ ราบเป็นหน้ากลอง และผู้คนจำนวนมากขาดแคลนอาหาร, น้ำและที่พักอาศัย ซึ่งคาดว่าน่าจะมีประชาชนมากกว่า 3.5 ล้านคนอพยพออกจากบ้านเรือน และบริการที่จำเป็น เช่นสาธารณสุข ต้องหยุดชะงัก
- รัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนพร้อมสนับสนุนเมียนมา ขอให้ทุกฝ่ายขยายการหยุดยิง
- อันตรายจาก "สารหนู-ตะกั่ว" ในวัน “แม่น้ำกก” อาจเป็นพิษ ผลกระทบเหมืองแร่หายากในเมียนมา
- ตึก สตง.ถล่ม! ส.วิศวกรฯ ประเมิน 4 ปัจจัยก่อให้เกิดโศกนาฏกรรม
- นายกฯ ให้กำลังใจญาติผู้สูญเสียและบาดเจ็บ จากกรณีเหตุแผ่นดินไหว
- ตึกสตง. ถล่ม กทม. ปิดฉากภารกิจ 48 วัน เดินหน้าฟื้นฟู-ช่วยเหลือต่อเนื่อง
- ปภ.ทดสอบระบบเตือนภัย ใน 5 จังหวัด เสียงจะดัง 8 วินาที ไม่ต้องตกใจ แค่ทดสอบระบบ
- แนะเลี่ยง "ถนนกำแพงเพชร 2 ขาออก" ขนย้ายเครื่องจักร ปิดจราจรบางเวลา ถึง 15 พ.ค.68
