เว็บข่าวเอเชียวันรายงาน แอร์ลังกา ฮาร์ตาร์โต รัฐมนตรีเศรษฐกิจอินโดนีเซีย เปิดเผยที่กรุงวอชิงตัน ดีซีว่า ทีมเจรจาอินโดนีเซียได้พบเจรจากับรัฐมนตรีพาณิชย์สหรัฐฯ และสำนักผู้แทนการค้าสหรัฐฯ หรือยูเอสทีอาร์ที่กรุงวอชิงตันวานนี้ (18) และเสนอเพิ่มการนำเข้าสินค้าอาหารและโภคภัณฑ์จากสหรัฐฯ โดยจะลดการสั่งซื้อจากประเทศอื่น ๆ ที่อินโดนีเซียเคยซื้อสินค้าอาหารและโภคภัณฑ์อยู่ในปัจจุบันลง
ทีมเจรจาอินโดนีเซียเสนอเพิ่มการนำเข้าสินค้าสหรัฐฯ 19,000 ล้านดอลลาร์ คิดเป็นเงินไทยกว่า 630,000 ล้านบาท รวมถึงการนำเข้าสินค้าพลังงานสหรัฐฯ 10,000 ล้านบาท คิดเป็นเงินไทยกว่า 330,000 ล้านบาท การนำเข้าสินค้าเกษตรจากสหรัฐฯ รวมถึงข้าวสาลี ถั่วเหลือง และจะเพิ่มการนำเข้าสินค้าทุนจากสหรัฐฯ ด้วย เพื่อลดการเกินดุลการค้ากับสหรัฐฯ
สรุปข่าว
แอร์ลังกาอยู่ที่สหรัฐฯ นำทีมเจ้าหน้าที่ระดับสูงของอินโดนีเซีย เข้าพบหารือกับสหรัฐฯ เพื่อขอผ่อนปรนมาตรการภาษีนำเข้าสินค้าส่งออกของอินโดนีเซีย ที่ถูกสหรัฐฯ เรียกเก็บในอัตราร้อยละ 32 โดยช่วงเวลานี้ยังเป็นช่วงที่สหรัฐฯ ยังชะลอมาตรการนี้ไว้อยู่เป็นเวลานาน 90 วัน
อินโดนีเซียนำเข้าข้าวสาลีจากหลายประเทศรวมถึงสหรัฐฯ โดยนำเข้าข้าวสาลีจากออสเตรเลียมากสุดราวร้อยละ 40 ของข้าวสาลีนำเข้าทั้งหมดในอินโดนีเซียเมื่อปี 2024 ที่ผ่านมา รองลงมาคือยูเครนร้อยละ 26 และแคนาดาร้อยละ 16 ส่วนข้าวสาลีที่อินโดนีเซียนำเข้าจากสหรัฐฯ นั้น มีเพียงไม่ถึงร้อยละ 4 เท่านั้น
อย่างไรก็ตาม อินโดนีเซียนำเข้าถั่วเหลืองจากสหรัฐฯ เกือบร้อยละ 89 ในปีเดียวกันนั้น (2024)
หลังจบการเจรจาวานนี้ อินโดนีเซียและสหรัฐฯ ได้ตกลงจะจบการเจรจาเรื่องภาษีทรัมป์ภายในอีก 60 วันข้างหน้า
