
สถานเอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำประเทศไทย เผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับ “ปฏิบัติการสิงโตผงาด” ว่า วันนี้ (13 มิถุนายน) อิสราเอลได้เปิดปฏิบัติการ “สิงโตผงาด” ซึ่งเป็นปฏิบัติการทางทหาร ที่มีเป้าหมายเพื่อกำจัดภัยคุกคามทางนิวเคลียร์ ที่อาจจะเกิดขึ้นในเร็ววันนี้ จากฝั่งสาธารณรัฐอิสลามอิหร่าน ภัยคุกคามนี้ไม่เพียงแต่เป็นอันตรายต่ออิสราเอลเท่านั้น แต่ยังเป็นอันตรายต่อเสถียรภาพในภูมิภาคและความมั่นคงของโลกอีกด้วย
เป็นเวลาหลายปีที่ระบอบการปกครองของอิหร่านได้คุกคามการดำรงอยู่ของอิสราเอลอย่างเปิดเผยและเป็นระบบ โดยกำหนดให้เป้าหมายนี้เป็นหลักการสำคัญของหลักคำสอนเชิงยุทธศาสตร์ ฉะนั้นเมื่ออิหร่านอยู่ไม่ไกลจากการใช้อาวุธนิวเคลียร์ อิสราเอลจึงไม่มีทางเลือก และต้องดำเนินการอย่างเด็ดขาดเพื่อป้องกันตนเอง
อิสราเอลยังได้เปิดเผยวิสัยทัศน์ของอิหร่าน ที่มีแผนการโจมตีเพื่อจะทำลายอิสราเอลอย่างเป็นระบบในระยะยาว ที่เป็นรูปธรรม โดยแผนการของอิหร่านประกอบด้วย
- โครงการอาวุธนิวเคลียร์ลับที่ดำเนินการภายใต้ข้ออ้างเรื่องการทูตและการรักษาความลับ
- คลังอาวุธขีปนาวุธพิสัยไกลที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งสามารถโจมตีได้ลึกเข้าไปในดินแดนของอิสราเอล
- เครือข่ายกลุ่มก่อการร้ายระดับภูมิภาค รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ ฮามาส ญิฮาดอิสลามปาเลสไตน์ ฮูตี กองกำลังติดอาวุธชีอะห์ในอิรัก และระบอบการปกครองของอัสซาดในซีเรีย ซึ่งถูกจัดวางแบบมีกลยุทธ์เพื่อปิดล้อมและคุกคามอิสราเอล
ตั้งแต่ปี 2018 หน่วยข่าวกรองของอิสราเอลได้ประเมินว่า อิหร่านได้ทำแผนปฏิบัติการสำหรับการโจมตีอิสราเอลแบบไม่ทันตั้งตัว ซึ่งอาจตามมาด้วยการรุกรานภาคพื้นดิน
สรุปข่าว
สถานเอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำประเทศไทย เผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับ “ปฏิบัติการสิงโตผงาด” ว่า วันนี้ (13 มิถุนายน) อิสราเอลได้เปิดปฏิบัติการ “สิงโตผงาด” ซึ่งเป็นปฏิบัติการทางทหาร ที่มีเป้าหมายเพื่อกำจัดภัยคุกคามทางนิวเคลียร์ ที่อาจจะเกิดขึ้นในเร็ววันนี้ จากฝั่งสาธารณรัฐอิสลามอิหร่าน ภัยคุกคามนี้ไม่เพียงแต่เป็นอันตรายต่ออิสราเอลเท่านั้น แต่ยังเป็นอันตรายต่อเสถียรภาพในภูมิภาคและความมั่นคงของโลกอีกด้วย
เป็นเวลาหลายปีที่ระบอบการปกครองของอิหร่านได้คุกคามการดำรงอยู่ของอิสราเอลอย่างเปิดเผยและเป็นระบบ โดยกำหนดให้เป้าหมายนี้เป็นหลักการสำคัญของหลักคำสอนเชิงยุทธศาสตร์ ฉะนั้นเมื่ออิหร่านอยู่ไม่ไกลจากการใช้อาวุธนิวเคลียร์ อิสราเอลจึงไม่มีทางเลือก และต้องดำเนินการอย่างเด็ดขาดเพื่อป้องกันตนเอง
อิสราเอลยังได้เปิดเผยวิสัยทัศน์ของอิหร่าน ที่มีแผนการโจมตีเพื่อจะทำลายอิสราเอลอย่างเป็นระบบในระยะยาว ที่เป็นรูปธรรม โดยแผนการของอิหร่านประกอบด้วย
- โครงการอาวุธนิวเคลียร์ลับที่ดำเนินการภายใต้ข้ออ้างเรื่องการทูตและการรักษาความลับ
- คลังอาวุธขีปนาวุธพิสัยไกลที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งสามารถโจมตีได้ลึกเข้าไปในดินแดนของอิสราเอล
- เครือข่ายกลุ่มก่อการร้ายระดับภูมิภาค รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ ฮามาส ญิฮาดอิสลามปาเลสไตน์ ฮูตี กองกำลังติดอาวุธชีอะห์ในอิรัก และระบอบการปกครองของอัสซาดในซีเรีย ซึ่งถูกจัดวางแบบมีกลยุทธ์เพื่อปิดล้อมและคุกคามอิสราเอล
ตั้งแต่ปี 2018 หน่วยข่าวกรองของอิสราเอลได้ประเมินว่า อิหร่านได้ทำแผนปฏิบัติการสำหรับการโจมตีอิสราเอลแบบไม่ทันตั้งตัว ซึ่งอาจตามมาด้วยการรุกรานภาคพื้นดิน
รูปแบบของการหลอกลวงและการยกระดับความรุนแรง
ระบอบการปกครองของอิหร่านพยายามแสวงหาขีดความสามารถด้านนิวเคลียร์อย่างต่อเนื่องในขณะที่
- จงใจให้ข้อมูลที่ทำให้เข้าใจผิด ต่อชุมชนระหว่างประเทศและ IAEA
- สร้างคลังอาวุธจำนวนมากและหลายรูป รวมถึงขีปนาวุธพิสัยใกล้และพิสัยไกล โดรน และอื่นๆ
- ใช้เครือข่ายตัวแทนผู้ก่อการร้ายเพื่อเริ่มรุกรานอิสราเอลในระยะยาว
ในปี 2024 อิหร่านยกระดับกลยุทธ์ โดยการเปิดฉากโจมตีด้วยขีปนาวุธโดยตรงในดินแดนของอิสราเอลในเดือนเมษายนและตุลาคม ซึ่งถือเป็นการโจมตีด้วยขีปนาวุธครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของภูมิภาคนี้ ซึ่งถือเป็นการเปลี่ยนผ่านจากสงครามตัวแทน ไปสู่การเผชิญหน้าโดยตรงอย่างชัดเจน
ทำไมอิสราเอลต้องโจมตีตอนนี้ ?
- อิหร่านอยู่ไม่ไกลจากการใช้อาวุธนิวเคลียร์
- ภัยคุกคามจากอิหร่านนั้นใกล้เข้ามาแล้ว และอิสราเอลไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องกำจัดมันออกไปก่อนที่มันจะสายเกินไป
- อิหร่านสะสมยูเรเนียมเสริมสมรรถนะสูงไว้เป็นจำนวนมาก ซึ่งเพียงพอสำหรับทำระเบิดนิวเคลียร์ได้มากกว่า 9 ลูก โดยหนึ่งในสามของยูเรเนียมเสริมสมรรถนะใช้เวลาสะสมในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งส่งผลให้ปริมาณการผลิตเพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยเรื่องนี้เกิดขึ้นควบคู่ไปกับการเจรจากับสหรัฐฯ
เมื่อไม่นานนี้ อิหร่านมีความคืบหน้าอย่างมากในความพยายามที่เกี่ยวข้องกับอาวุธนิวเคลียร์ ซึ่งความพยายามที่เร่งพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์นี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในช่วงสองทศวรรษที่ผ่านมา
ที่มาข้อมูล : สถานทูตอิสราเอลประจำประเทศไทย
ที่มารูปภาพ : Reuters