‘อิสราเอล VS อิหร่าน จุดเริ่มต้นมหาสงครามใหม่? เกมเดิมพันความอยู่รอด’

‘อิสราเอล VS อิหร่าน จุดเริ่มต้นมหาสงครามใหม่? เกมเดิมพันความอยู่รอด’

◾️◾️◾️

🔴 อิสราเอลโจมตีอิหร่านครั้งใหญ่สุดในประวัติศาสตร์

นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอล ได้เปิดปฏิบัติการ Rising Lion หรือสิงโตผงาด โจมตีโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่านเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (13 มิ.ย.) ถือเป็นการโจมตีอิหร่านครั้งใหญ่สุดในประวัติศาสตร์อิสราเอล

 เนทันยาฮูกล่าวว่า โครงการนิวเคลียร์ของอิหร่านเป็นภัยคุกคามหลักต่อการดำรงอยู่ของอิสราเอลมากว่าสามทศวรรษแล้ว 

 อิสราเอลอ้างสาเหตุที่ต้องโจมตีเป้าหมายอิหร่านก่อน หรือ Preemptive Strike เนื่องจากอิหร่านใกล้จะสร้างอาวุธนิวเคลียร์ได้ในเวลาอันใกล้นี้แล้ว  

อิสราเอลอ้างว่าในปี 2024 อิหร่านยกระดับกลยุทธ์ โดยการเปิดฉากโจมตีด้วยขีปนาวุธโดยตรงในดินแดนของอิสราเอลในเดือนเมษายนและตุลาคม เป็นการโจมตีด้วยขีปนาวุธครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของภูมิภาคนี้ ซึ่งถือเป็นการเปลี่ยนผ่านจากสงครามตัวแทน ไปสู่การเผชิญหน้าโดยตรงอย่างชัดเจน

ดังนั้นอิสราเอลถือว่า ภัยคุกคามจากอิหร่านนั้นใกล้เข้ามาแล้ว และอิสราเอลไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องกำจัดมันออกไปก่อนที่มันจะสายเกินไป 

นอกจากนี้ โครงการพัฒนานิวเคลียร์ของอิหร่านยังพัฒนาอย่างรวดเร็วแบบที่ไม่เคยเห็นในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา โดยอิหร่านสะสมยูเรเนียมสมรรถนะสูงไว้เป็นจำนวนมาก ซึ่งเพียงพอสำหรับทำระเบิดนิวเคลียร์ได้มากกว่า 9 ลูก 

◾️◾️◾️

🔴 เปิดปฏิบัติการถล่มโครงการนิวเคลียร์อิหร่าน 

เช้ามืดวันศุกร์ที่ 13 มิถุนายน อิสราเอลโจมตีทางอากาศใน 6 จุดของอิหร่าน ซึ่งเป็นเป้าหมายด้านนิวเคลียร์ และการทหาร คือ กรุงเตหะราน เมืองทาบริซ เมืองอิสฟาฮาน เมืองอารัก เมืองเคอร์มานชาห์ และเมืองนาทานซ์ 

 โฆษกกองทัพอิสราเอลระบุว่า  อิสราเอลโจมตีเป้าหมายทั่วอิหร่านถึง 150 แห่ง รวมทั้ง 40 จุดในกรุงเตหะราน เมืองหลวงอิหร่านด้วย ซึ่งการเข้าถึงเตหะรานนั้น "มีความสำคัญด้านการปฏิบัติการและยุทธศาสตร์อย่างสูง" และกองทัพอากาศและหน่วยข่าวกรองทางทหารได้เตรียมการสำหรับเรื่องนี้ "มาหลายปีแล้ว"

 ปฏิบัติการนี้ ยังปลิดชีพ นายพลคำสำคัญของอิหร่านได้ 4 ราย และนักวิทยาศาสตร์นิวเคลียร์อีก 6 ราย โดยนายทหารอิหร่านที่เสียชีวิตคือ 

-       พลเอก โมฮัมหมัด ฮอสเซน บาการี เสนาธิการทหารสูงสุดอิหร่าน ซึ่งถือว่ามีอำนาจเป็นอันดับสองรองจากคาเมเนอี

-       พลเอก ฮอสเซน ซาลามี ผู้บัญชาการกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลาม (IRGC)

-       โกแลม-อาลี ราชิด ผู้บัญชาการกองบัญชาการกลางกาตัม อัล-อันบียา

 สำนักข่าวบีบีซีรายงานว่า อิสราเอลใช้ยุทธศาสตร์เชิงรุกเดียวกับการโจมตีฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอนปลายปีที่แล้ว พุ่งเป้าไปที่ผู้นำด้านการทหาร เพื่อลดทอนขีดความสามารถในการโต้กลับ และสร้างความปั่นป่วยในสายงานบังคับบัญชาทางการทหาร ซึ่งในครั้งนั้น อิสราเอลสามารถสังหารฮันซัน นาสราเลาะห์ ผู้นำฮิซบอลเลาะห์ ได้สำเร็จ และทำให้กลุ่มฮิซบอลเลาะห์อยู่ในภาวะอ่อนแอมาจนถึงตอนนี้

 อย่างไรก็ตาม อยาตอลเลาะห์ อาลี คาเมเนอี ผู้นำสูงสุดของอิหร่าน ได้แต่งตั้งผู้นำด้านการทหารคนใหม่ทันที และมีปฏิบัติการตอบโต้กลับในวันเดียวกัน โดยการยิงขีปนาวุธนับร้อยลูกโจมตีเข้าไปในอิสราเอล 

 จนถึงวันอาทิตย์ที่ 15 มิถุนายน ทั้งสองประเทศยังคงระดมโจมตีกันเป็นวันที่สาม โดยไม่มีที่ท่าที่จะผ่อนแรง

 ส่วนยอดการสูญเสียที่เกิดขึ้นนั้น อิหร่าน ระบุว่า ปฏิบัติการอิสราเอลได้สังหารผู้คนในอิหร่านไปแล้วอย่างน้อย 78 ราย และมีผู้บาดเจ็บอีกกว่า 320 คน ขณะที่อิสราเอลรายงานว่า อิหร่านยิงขีปนาวุธโจมตีเข้ามาในอิสราเอลระลอกใหม่ และในเวลานี้ มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 4 คน บาดเจ็บ 207 คน

 การตอบโต้ระหว่างสองฝ่าย ยังพุ่งเป้าไปที่แหล่งพลังงานเชื้อเพลิงด้วย โดยกระทรวงน้ำมันอิหร่านเผยว่า อิสราเอลได้โจมตีคลังน้ำมันชาห์ราน และถังน้ำมันในกรุงเตหะราน นอกจากนี้ อิสราเอลยังโจมตีแหล่งก๊าซธรรมชาติหลักของอิหร่านสองแห่งในจังหวะบูเชหร์ด้วย

 ความตึงเครียดระหว่างอิหรานกับอิสราเอล ส่งผลต่อตลาดการเงินโลก โดยเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ราคาน้ำมันโลกพุ่งขึ้นราว 7% และนักลงทุนเร่งเข้าซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยเช่นทอง ในขณะที่หุ้นในชาติพัฒนาแล้วต่างร่วงต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมา

สรุปข่าว

อิสราเอลโจมตีอิหร่านครั้งใหญ่สุดในประวัติศาสตร์ ในปฏิบัติการ Rising Lion ทำไมอิสราเอลเลือกเปิดเกมหนัก? แล้วอิหร่านมีทางสู้หรือไม่?

◾️◾️◾️

🔴 อิสราเอลโจมตีอิหร่านครั้งใหญ่สุดในประวัติศาสตร์

นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอล ได้เปิดปฏิบัติการ Rising Lion หรือสิงโตผงาด โจมตีโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่านเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (13 มิ.ย.) ถือเป็นการโจมตีอิหร่านครั้งใหญ่สุดในประวัติศาสตร์อิสราเอล

 เนทันยาฮูกล่าวว่า โครงการนิวเคลียร์ของอิหร่านเป็นภัยคุกคามหลักต่อการดำรงอยู่ของอิสราเอลมากว่าสามทศวรรษแล้ว 

 อิสราเอลอ้างสาเหตุที่ต้องโจมตีเป้าหมายอิหร่านก่อน หรือ Preemptive Strike เนื่องจากอิหร่านใกล้จะสร้างอาวุธนิวเคลียร์ได้ในเวลาอันใกล้นี้แล้ว  

อิสราเอลอ้างว่าในปี 2024 อิหร่านยกระดับกลยุทธ์ โดยการเปิดฉากโจมตีด้วยขีปนาวุธโดยตรงในดินแดนของอิสราเอลในเดือนเมษายนและตุลาคม เป็นการโจมตีด้วยขีปนาวุธครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของภูมิภาคนี้ ซึ่งถือเป็นการเปลี่ยนผ่านจากสงครามตัวแทน ไปสู่การเผชิญหน้าโดยตรงอย่างชัดเจน

ดังนั้นอิสราเอลถือว่า ภัยคุกคามจากอิหร่านนั้นใกล้เข้ามาแล้ว และอิสราเอลไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องกำจัดมันออกไปก่อนที่มันจะสายเกินไป 

นอกจากนี้ โครงการพัฒนานิวเคลียร์ของอิหร่านยังพัฒนาอย่างรวดเร็วแบบที่ไม่เคยเห็นในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา โดยอิหร่านสะสมยูเรเนียมสมรรถนะสูงไว้เป็นจำนวนมาก ซึ่งเพียงพอสำหรับทำระเบิดนิวเคลียร์ได้มากกว่า 9 ลูก 

◾️◾️◾️

🔴 เปิดปฏิบัติการถล่มโครงการนิวเคลียร์อิหร่าน 

เช้ามืดวันศุกร์ที่ 13 มิถุนายน อิสราเอลโจมตีทางอากาศใน 6 จุดของอิหร่าน ซึ่งเป็นเป้าหมายด้านนิวเคลียร์ และการทหาร คือ กรุงเตหะราน เมืองทาบริซ เมืองอิสฟาฮาน เมืองอารัก เมืองเคอร์มานชาห์ และเมืองนาทานซ์ 

 โฆษกกองทัพอิสราเอลระบุว่า  อิสราเอลโจมตีเป้าหมายทั่วอิหร่านถึง 150 แห่ง รวมทั้ง 40 จุดในกรุงเตหะราน เมืองหลวงอิหร่านด้วย ซึ่งการเข้าถึงเตหะรานนั้น "มีความสำคัญด้านการปฏิบัติการและยุทธศาสตร์อย่างสูง" และกองทัพอากาศและหน่วยข่าวกรองทางทหารได้เตรียมการสำหรับเรื่องนี้ "มาหลายปีแล้ว"

 ปฏิบัติการนี้ ยังปลิดชีพ นายพลคำสำคัญของอิหร่านได้ 4 ราย และนักวิทยาศาสตร์นิวเคลียร์อีก 6 ราย โดยนายทหารอิหร่านที่เสียชีวิตคือ 

-       พลเอก โมฮัมหมัด ฮอสเซน บาการี เสนาธิการทหารสูงสุดอิหร่าน ซึ่งถือว่ามีอำนาจเป็นอันดับสองรองจากคาเมเนอี

-       พลเอก ฮอสเซน ซาลามี ผู้บัญชาการกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลาม (IRGC)

-       โกแลม-อาลี ราชิด ผู้บัญชาการกองบัญชาการกลางกาตัม อัล-อันบียา

 สำนักข่าวบีบีซีรายงานว่า อิสราเอลใช้ยุทธศาสตร์เชิงรุกเดียวกับการโจมตีฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอนปลายปีที่แล้ว พุ่งเป้าไปที่ผู้นำด้านการทหาร เพื่อลดทอนขีดความสามารถในการโต้กลับ และสร้างความปั่นป่วยในสายงานบังคับบัญชาทางการทหาร ซึ่งในครั้งนั้น อิสราเอลสามารถสังหารฮันซัน นาสราเลาะห์ ผู้นำฮิซบอลเลาะห์ ได้สำเร็จ และทำให้กลุ่มฮิซบอลเลาะห์อยู่ในภาวะอ่อนแอมาจนถึงตอนนี้

 อย่างไรก็ตาม อยาตอลเลาะห์ อาลี คาเมเนอี ผู้นำสูงสุดของอิหร่าน ได้แต่งตั้งผู้นำด้านการทหารคนใหม่ทันที และมีปฏิบัติการตอบโต้กลับในวันเดียวกัน โดยการยิงขีปนาวุธนับร้อยลูกโจมตีเข้าไปในอิสราเอล 

 จนถึงวันอาทิตย์ที่ 15 มิถุนายน ทั้งสองประเทศยังคงระดมโจมตีกันเป็นวันที่สาม โดยไม่มีที่ท่าที่จะผ่อนแรง

 ส่วนยอดการสูญเสียที่เกิดขึ้นนั้น อิหร่าน ระบุว่า ปฏิบัติการอิสราเอลได้สังหารผู้คนในอิหร่านไปแล้วอย่างน้อย 78 ราย และมีผู้บาดเจ็บอีกกว่า 320 คน ขณะที่อิสราเอลรายงานว่า อิหร่านยิงขีปนาวุธโจมตีเข้ามาในอิสราเอลระลอกใหม่ และในเวลานี้ มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 4 คน บาดเจ็บ 207 คน

 การตอบโต้ระหว่างสองฝ่าย ยังพุ่งเป้าไปที่แหล่งพลังงานเชื้อเพลิงด้วย โดยกระทรวงน้ำมันอิหร่านเผยว่า อิสราเอลได้โจมตีคลังน้ำมันชาห์ราน และถังน้ำมันในกรุงเตหะราน นอกจากนี้ อิสราเอลยังโจมตีแหล่งก๊าซธรรมชาติหลักของอิหร่านสองแห่งในจังหวะบูเชหร์ด้วย

 ความตึงเครียดระหว่างอิหรานกับอิสราเอล ส่งผลต่อตลาดการเงินโลก โดยเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ราคาน้ำมันโลกพุ่งขึ้นราว 7% และนักลงทุนเร่งเข้าซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยเช่นทอง ในขณะที่หุ้นในชาติพัฒนาแล้วต่างร่วงต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมา

◾️◾️◾️

🔴 อิหร่านย้ำเดินหน้าพัฒนานิวเคลียร์ 

อยาตอลเลาะห์ อาลี คาเมเนอี ผู้นำสูงสุดของอิหร่าน กล่าวว่า "การโจมตีครั้งนี้เผยให้เห็น ความชั่วร้ายโดยธรรมชาติของอิสราเอล” และการโจมตีครั้งนี้ อิสราเอลได้เตรียมชะตากรรมอันขมขื่นไว้ให้ตัวเอง ซึ่งอิสราเอลจะต้องเผชิญอย่างแน่นอน 

ขณะที่แถลงการณ์ของรัฐบาลอิหร่านระบุว่า การเปิดฉากโจมตีของอิสราเอง เน้นย้ำถึงความจำเป็นที่อิหร่านต้องเดินหน้าเสริมสมรรถนะแร่ยูเรเนียม และโครงการพัฒนาขีปนาวุธ ตอนนี้โลกได้เข้าใจมากขึ้นแล้ว ว่าทำไมอิหร่านต้องหนักแน่นในการเดินหน้าเรื่องนี้

ขณะเดียวกัน อิหร่านยังได้ยกเลิกการเจรจานิวเคลียร์รอบที่ 6 กับสหรัฐฯ ที่มีกำหนดจัดในวันที่ 15 มิถุนายนที่ที่ประเทศโอมานนี้ด้วย

◾️◾️◾️

🔴 ทรัมป์ขู่อิหร่านอาจไม่เหลืออะไรเลย 

ประธานาธิบดีโดนัลด์  ทรัมป์ของสหรัฐฯ โพสต์ข้อความ ทรูธ โซเชียล เมื่อวันศุกร์ เรียกร้องให้อิหร่านทำข้อตกลงนิวเคลียร์ เขากล่าวว่า การสูญเสียชีวิตและทำลายล้างครั้งใหญ่เกิดขึ้นแล้ว แต่ยังมีเวลาที่จะยุติการโจมตีครั้งถัดไปมีการวางแผนไว้แล้วและมีความโหดร้ายมากกว่าได้ ดังนั้นอิหร่านต้องบรรลุข้อตกลง ก่อนที่จะไม่เหลืออะไรเลย ควรรักษาจักรวรรดิอิหร่านไว้ รักษาชีวิตผู้คน ไม่ให้มีการทำลายล้างมากกว่านี้ ต้องรีบทำก่อนที่จะสายเกินไป

 ทรัมป์ยังบอกว่า เขาได้ยื่นคำขาดให้เวลากับอิหร่าน 60 วันเพื่อบรรลุข้อตกลงนิวเคลียร์ก่อนการโจมตีของอิสราเอล และตอนนี้ อิหร่านได้โอกาสครั้งที่ 2   

ก่อนหน้านี้ มาร์โค รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุในแถลงการณ์ว่า อิสราเอลดำเนินการต่ออิสราเอลแต่เพียงฝ่ายเดียว สหรัฐฯไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้องกับการโจมตีนี้ และสิ่งสำคัญสูงสุดของเราคือการปกป้องกองทัพของสหรัฐฯที่อยู่ในภูมิภาคตะวันออกกลาง อิหร่านต้องไม่พุ่งเป้าโจมตีผลประโยชน์หรือบุคลากรของสหรัฐฯ

ทั้งนี้ ช่วงกลางสัปดาห์ที่แล้ว สหรัฐฯได้สั่งอพยพบุคลากรบางส่วนออกจากสถานทูตสหรัฐฯในอิรัก และให้สมาชิกครอบครัวของบุคลากรสหรัฐฯทั่วตะวันออกกลาง เช่น บาห์เรน คูเวต และสหรัฐฯอาหรับเอมิเรตส์ สามารถสมัครใจออกจากพื้นที่เหล่านั้นได้ 

ทั้งนี้ สหรัฐฯ มีเครือข่ายทางการทหารและฐานทัพ อย่างน้อย 19 แห่งทั่วตะวันออกกลาง คาดการณ์ว่า มีทหารสหรัฐฯประจำการอยู่ระหว่าง 40,000-50,000 คน โดยฐานทัพที่ทหารสหรัฐฯประจำการมากที่สุดอยู่ในกาตาร์ บาห์เรน คูเวต สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และซาอุดีอาระเบีย ซึ่งเป็นศูนย์กลางสำคัญสำหรับปฏิบัติการทางอากาศและทางเรือ ศูนย์กลางการขนส่ง ตลอดจนการรวบรวมด้านข่าวกรอง

ในเวลาต่อมาทำเนียบเครมลิน แถลงว่า ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย โทรศัพท์พูดคุยกับประธานาธิบดีทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ นาน 50 นาทีเมื่อเสาร์ ประณามการปฏิบัติการทางทหารของอิสราเอลต่ออิหร่านและแสดงความกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงที่สถานการณ์จะรุนแรงยิ่งขึ้น

ส่วนทรัมป์ได้กล่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในตะวันออกกลางว่า "น่าตกใจมาก" อย่างไรก็ตาม ผู้นำทั้งสองกล่าวว่า พวกเขาไม่ตัดความเป็นไปได้ที่อิหร่านจะกลับสู่เส้นทางการเจรจาเกี่ยวกับโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่าน 

◾️◾️◾️

🔴 ชาติมุสลิมพร้อมใจประณามอิสราเอล 

ชาติตะวันออกกลางต่างมีความกังวลว่า สถานการณ์จะบานปลายเกินควบคุมได้ และพยายามหาทางโน้มน้าวในทางการทูตเพื่อผ่อนคลายความเดือดลง โดยมกุฎราชกุมาร โมฮัมเหม็ด บิน ซัลมานของซาอุดิอาระเบีย ได้พูดคุยกับประธานาธิบดีมาซูด เปเซชเคียน ของอิหร่านขอให้อดทนอดกลั้น

ด้านโฆษกรัฐบาลอิรัก ระบุว่า รัฐบาลอิรักขอประณามอย่างแข็งกร้าวที่สุด ต่อการรุกรานทางทหารของกลุ่มไซออนนิสต์ต่อดินแดนของอิหร่าน 

ขณะที่ประธานาธิบดีเรเจป เทย์ยิป แอร์โดอาน ของตุรกี ทั้งประณามปฏิบัติการของอิสราเอลและเรียกร้องให้ผู้นำอิหร่านใช้การทูตเป็นทางออกเพื่อแก้ปัญหาการเผชิญหน้าด้านนิวเคลียร์ 

ด้านประธานาธิบดีของเลบานอน ระบุว่าการโจมตีของอิสราเอลไม่ได้เพียงแต่พุ่งเป้าที่ชาวอิหร่านเท่านั้น แต่ยังส่งผลต่อทุกความพยายามของนานาชาติที่กำลังทำรักษาเสถียรภาพในตะวันออกกลาง ซึ่งการเจรจาที่ผ่านมากำลังมีความคืบหน้าและใกล้บรรลุการตกลงกันแล้ว ขณะที่กลุ่มฮิซบอลเลาะห์ กล่าวหาว่า อิสราเอลละเมิดทุกการควบคุมและทุกกฎกติกา ภายใต้การดูแลและการสนับสนุนของสหรัฐฯ อิสราเอลก้าวข้ามทุกเส้นแดงแล้ว

นอกจากนี้ยังมีอีกหลายชาติอาหรับ ที่ออกแถลงการณ์ประณามอิสราเอลอย่างถึงที่สุด เช่น สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และอียิปต์ ตลอดจนกาตาร์ ซึ่งนายกรัฐมนตรีกาตาร์ระบุว่า เป็นการกระทำที่ไร้สาระของอิสราเอลที่ทำลายสันติภาพ

◾️◾️◾️

🔴 จีนเสนอเขตปลอดนิวเคลียร์ในตะวันออกกลาง

หลี่ ซ่ง ผู้แทนถาวรจีนประจำทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ  หรือไอเออีเอ ระบุว่า จีนประณามปฏิบัติการทางทหารของอิสราเอลต่ออิหร่าน และคัดค้านการโจมตีด้วยอาวุธต่อโรงงานนิวเคลียร์ด้านพลเรือน

หลี่เรียกร้องประเทศที่เกี่ยวข้องสนับสนุนการจัดตั้ง "เขตปลอดอาวุธนิวเคลียร์" (nuclear-weapon-free zone) ขึ้นในตะวันออกกลาง พร้อมกับให้หลีกเลี่ยงการกระทำต่าง ๆ ที่จะซ้ำเติมสถานการณ์ให้เลวร้ายลง

อันโตนิโอ กูแตร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ หรือยูเอ็น โพสต์ลง X ว่า พอกันทีกับการเพิ่มขึ้นของความตึงเครียด ถึงเวลาต้องหยุดแล้ว

ส่วน 2 ผู้นำยุโรป เออร์ซูลา ฟอน แดร์ เลเยิน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป และคาจา คัลลัส หัวหน้านโยบายต่างประเทศอียู และผู้นำอีกหลายประเทศและหลายภูมิภาค เรียกร้องความอดทนอดกลั้นจากทั้งอิสราเอลและอิหร่าน 

◾️◾️◾️

🔴 อิสราเอลสั่งปิดสถานทูตทั่วโลก เตือนชาวยิวระวังตัว 

กระทรวงต่างประเทศอิสราเอลออกแถลงการณ์สั่งปิดสถานเอกอัครราชทูตทั่วโลก รวมไปถึงเรียกร้องให้ชาวอิสราเอลหรือชุมชนชาวยิวในต่างประเทศงดแสดงสัญลักษณ์ต่าง ๆ ในที่สาธารณะอย่างโจ่งแจ้ง และยังไม่มีการกำหนดกรอบเวลาที่ชัดเจนว่าสถานทูตอิสราเอลในต่างประเทศจะปิดให้บริการนานเท่าใด 

นอกจากนี้กระทรวงต่างประเทศของอิสราเอลยังแนะนำให้ชาวอิสราเอลในต่างประเทศ “ทุกคน” ลงชื่อและกรอกข้อมูลเพื่อระบุตัวตน สถานที่อยู่ และสถานการณ์ล่าสุดของพวกเขากับกระทรวงการต่างประเทศเพื่อให้ง่ายต่อการติดตามตัวและเพื่อจัดหาเที่ยวบินสำรองหากเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นด้วย

หลังจากคำประกาศนี้ถูกเผยแพร่ออกไป เริ่มมีหลายประเทศออกมาเคลื่อนไหว โดยที่เยอรมนี นายกรัฐมนตรี ฟรีดริช แมร์ซ ให้คำมั่นว่าเยอรมนีจะเพิ่มมาตรการปกป้องชุมชนชาวยิวและพื้นที่ของชาวอิสราเอลในเยอรมนีอย่างเข้มงวด เช่นเดียวกับที่โบสถ์ยิวแห่งหลักในกรุงสตอกโฮล์มมีการยกระดับรักษาความปลอดภัยอย่างหนาแน่นพร้อมระดมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจลงตรวจตราพื้นที่ด้วย ส่วนที่ฝรั่งเศส ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอง มาครง ได้สั่งยกระดับรักษาความปลอดภัยชุมชนและสถานที่ของชาวยิวในประเทศด้วยเช่นกัน

◾️◾️◾️

🔴 ทำไมอิสราเอลเร่งปิดเกม

สำนักข่าวบีบีซีรายงานว่า ดูเหมือนอิสราเอลจะไม่พุ่งเป้าสังหาร คาเมเนอี ผู้นำสูงสุดของอิหร่าน แต่ไปสังหารนายพลระดับสูงวงใน ตลอดจนนักวิทยาศาสตร์ด้านนิวเคลียร์คนสำคัญๆแทน - เป็นการพุ่งเป้าไปที่ชนชั้นนำของอิหร่าน ซึ่งมีบทบาทสำคัญ และจะทำให้อิหร่านไม่มีทางเลือก นอกจากต้องระดมกำลังตอบโต้อิสราเอลให้แรงขึ้น เป็นการคำนวนที่เนทันยาฮูน่าจะตั้งใจให้เกิด

เนทันยาฮูอ้างถึงความอยู่รอดของอิสราเอล เขาเชื่อว่า อิสราเอลอาจสูญพันธ์หากอิหร่านมีระเบิดนิวเคลียร์

และยังมีปัจจัยอื่นเสริมอีก คือ การเจรจาระหว่างสหรัฐฯกับอิหร่านเรื่องโครงการนิวเคลียร์ครั้งที่ 6 ซึ่ง มีสัญญาณบ่งชี้ว่าการเจรจามีความคืบหน้า จึงเป็นช่วงเวลาสำคัญที่อิสราเอลต้องยับยั้งไม่ให้ข้อตกลงนี้เดินหน้าต่อได้ นอกจากนี้ในแง่การทหาร เวลานี้ พันธมิตรของอิหร่านอย่างฮิซบอลเลาะห์กำลังอ่อนแอ

ด้านโอริ โกลด์เบิร์ก นักวิจารณ์การเมืองชาวอิสราเอล ระบุกับอัล จาซีราว่า การโจมตีอิหร่านมีขึ้นเพื่อเป้าประสงค์ทางการเมืองของเนทันยาฮู 

โกลด์เบิร์กมองว่า อิสราเอลภายใต้การนำของเนทันยาฮูเพลิดเพลินกับการทำสงครามตลอดกาล 

การโจมตีอิหร่านเป็นผลมาจากการกระชับมิตรระหว่างเนทันยาฮูกับกองทัพอิสราเอล หลังตึงเครียดการมานานจากสงครามในกาซา ทั้งสองฝ่ายต้องการแก้มือด้วยการโจมตีอิหร่าน มีเป้าประสงค์สำหรับการเมืองภายใน เพื่อฟื้นฟูความศรัทธาในตัวเนทันยาฮู และความเป็นไปได้สำหรับการเลือกตั้งสมัยหน้า หรือเพื่อให้พ้นผิดจากคดีต่างๆที่กำลังเผชิญ

ขณะเดียวกัน ก็ยังได้สร้างความเป็นชาตินิยมเพื่อกลบการตั้งคำถามเกี่ยวกับชะตากรรมของตัวประกันที่เหลืออยู่ในกาซา และหันเหความสนใจของประชาคมโลกจากวิกฤตด้านมนุษยธรรมในกาซาด้วย

ทั้งนี้ อัล จาซีรา รายงานว่า เนทันยาฮูพึ่งพาสถานการณ์ความขัดแย้ง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอิหร่าน หรือกาซา เพื่อรักษารัฐบาลผสม ที่เสี่ยงล่มมาแล้วหลายครั้ง

โกลด์เบิร์ดมอว่า สำหรับเนทันยาฮู เราไม่สามารถแยกความแตกต่างระหว่างการเมืองภายในและการเมืองระหว่างประเทศได้ อันที่จริงอิหร่านยังไม่ได้เป็นภัยขนาดนั้นสำหรับอิสราเอล สงครามนี้สามารถเลี่ยงได้ แต่พอเนทันฮายูกดปุ่มโจมตีอิหร่าน ปรากฏว่า บรรดานักการเมืองส่วนใหญ่ในอิสราเอลต่างสรรเสริญเขา ทั้งยาอีร์ ลาพิด ผู้นำฝ่ายค้าน และยาอีร์ โลกัน นักการเมืองฝ่ายซ้าย และก่อนหน้าการโจมตเพียงหนึ่งวัน รัฐบาลผสมของเขารอดจากการลงมติยุบสภาจัดการเลือกตั้งใหม่ หลังเจรจาทางการเมืองกันยาวนาน 11 ชั่วโมง

 ขณะที่มูฮาหนัด เซลูม นักวิชาการด้านความมั่นคงจาก Doha Institute for Graduate Studies บอกกับอัล จาซีราว่า การโจมตีของอิสราเอลเป็นการแสดงความแข็งแกร่งไม่เพียงแต่ของกองทัพอิสราเอล แต่ยังรวมถึงหน่วยงานด้านข่าวกรองด้วย
อิสราเอลต้องการส่งสารไปยังรัฐบาลอิหร่านว่า พวกเขารู้ว่าบรรดาผู้นำของอิหร่านอยู่ที่ใด มีใครบ้าง อิสราเอลมีข่าวกรองที่แม่นยำ และมีเทคโนโลยีที่เจาะเข้าไปในอิหร่านได้

เซลูม เผยว่า อิสราเอลได้ฝังแหล่งข่าวกรองในอิหร่านมาตั้งแต่ปี 2006 แล้ว และใช้แสนยานุภาพทางเทคโนโลยีในการสอดแนมอิหร่าน แต่เชื่อว่าความสำเร็จนี้ ไม่สามารถเกิดขึ้นได้ หากไม่ได้รับความช่วยเหลือจากดาวเทียมของสหรัฐฯและยุโรป

ดังนั้น ความสำคัญไม่ได้อยู่ที่ว่า อิสราเอลใช้อาวุธอะไร แต่เป็นเพราะความสำเร็จด้านข่าวกรองที่อิสราเอลมีในอิหร่านต่างหาก

◾️◾️◾️

🔴 อิหร่านไร้ทางสู้? 

รายงานของ Axios อ้างแหล่งข่าวไม่ระบุชื่อว่า อิสราเอลพยายามเรียกร้องรัฐบาลทรัมป์ให้ร่วมรบต้านอิหร่าน 

ที่ต้องจับตาคือ อิหร่านจะเลือกตอบโต้อย่างรุนแรงด้วยวิธีการใด เช่น การโจมตีสินทรัพย์ของสหรัฐฯในตะวันออกกลาง หรือการโจมตีเรือบรรทุกน้ำมันในช่องแคบฮอร์มุซ หรือเป็นเส้นทางขนส่งน้ำมันทางเรือราว 1 ใน 5 ของโลก ซึ่งอาจจะทำให้สหรัฐฯ ถูกลากเข้ามาอยู่ในสงครามนี้

อย่างไรก็ตาม การวิเคราะห์ของ Bloomberg Economics มองว่า การทำเช่นนั้นเสี่ยงเกินไปสำหรับอิหร่าน เพราะสหรัฐฯมีกองทัพที่ทรงพลังที่สุดในโลก ในขณะที่ผู้นำระดับสูงทางการทหารของอิหร่านถูกสังหารไปอย่างน้อย 20 คน ตลอดจนโครงสร้างทางการทหารหลักเสียหายไปมากจากการโจมตีของอิสราเอล ไม่ว่าจะเป็นการโจมตีที่กระทรวงกลาโหมอิหร่าน ฐานทัพอากาศ และคลังน้ำมัน

นอกจากนี้ เครือข่ายกองกำลังคิดอาวุธในตะวันออกกลางของอิหร่านอ่อนแอลงไปมากจากการโจมตีของอิสราเอลก่อนหน้านี้ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มฮามาสในฉนวนกาซา กลุ่มฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอน กลุ่มฮูตีในเยเมน ขณะที่ระบอบของบาชาร์ อัล อัสซาด ในซีเรีย พันธมิตรสำคัญของอิหร่านก็ถูกโค่นไปแล้ว

โมฮานาด ฮาจ อาลี จาก Carnegie Middle East Center ในกรุงเบรุต มองว่า ชนชั้นผู้นำอิหร่านจะอยู่ไม่รอด หากยอมถอย ดังนั้นพวกเขาต้องตอบโต้กลับอย่างหนัก แต่มีตัวเลือกน้อย สิ่งที่อิหร่านอาจทำคือการถอนตัวออกจากสนธิสัญญาไม่แพร่ขยายอาวุธนิวเคลียร์ เพื่อส่งสัญญาณว่าอิหร่านจะเร่งเครื่องโครงการเสริมสมรรถนะแร่ยูเรเนียมเพื่อสร้างระเบิดนิวเคลียร์

 ขณะที่ซีมา ชาย นักวิจัยจากสถาบันเพื่อการศึกษาด้านความมั่นคงของอิสราเอล มองว่า อิสราเอลจะไม่สามารถถอนรากถอนโคนโครงการนิวเคลียร์อิหร่านได้หากไม่ได้รับความช่วยเหลือจากสหรัฐฯ และหากสหรัฐฯไม่ยื่นมือเข้ามา เธอเชื่อว่า บางส่วนของโครงการนิวเคลียร์อิหร่านก็จะเดินหน้าได้ต่อ

 อย่างไรก็ตาม การโจมตีครั้งใหญ่ของอิสราเอล ไม่เพียงแต่สร้างความเสียหายทางยุทธศาสตร์ต่ออิหร่าน แต่ยังสั่นคลอนเข้าไปถึงแก่นของชนชั้นผู้ปกครองอิหร่านด้วย 

 แหล่งข่าวระบุกับรอยเตอรส์ว่า การท้าทายแข็งขืน ได้แปรเปลี่ยนเป็นความกังวลและความไม่แน่นอนในชนชั้นปกครองอิหร่าน กำลังเกิดความตื่นตระหนกภายในกลุ่มผู้นำ สิ่งที่พวกเขากลัวมากกว่าการโจมตีครั้งใหม่ นั่นก็คือ การก่อความไม่สงบภายใน เพราะอิหร่านเองเผชิญกับปัญหาการคว่ำบาตร เงินเฟ้อ และการปราบปรามผู้เห็นต่างมานานแล้ว

 นอกจากนี้ เนทันยาฮู ยังได้กล่าวในวีดีโอที่ปล่อยออกมาหลังการโจมตี ส่งสารมาถึงชาวอิหร่านว่า เขาอยากเห็นการเปลี่ยนแปลงระบอบของอิหร่าน “การต่อสู้นี้ไม่ได้เป็นการต่อสู้กับคนอิหร่าน แต่เป็นการต่อสู้กับเผด็จการที่โหดร้ายที่กดขี่พวกคุณมานานกว่า 46 ปี ผมเชื่อว่าวันแห่งการปลดปล่อยพวกคุณใกล้เข้ามาแล้ว”

 เป้าหมายเปลี่ยนแปลงระบอบนี้เองที่อาจบ่งชี้ได้ว่า ทำไมอิสราเอลพุ่งเป้าเด็ดชีพไปที่ผู้นำระดับสูงทางการทหารของอิหร่านก่อน จนทำให้สถาบันด้านความมั่นคงของอิหร่านอยู่ในภาวะสับสนอลหม่าน

 นักวิเคราะห์ยังมองว่า จักรวรรดิของอิหร่านกำลังอยู่ในภาวะเสื่อมถอย เพราะพันธมิตรที่แข็งแกร่งที่สุดของอิหร่านอย่างฮิซบอลเลาะห์ก็อ่อนแอจนเกินที่จะตอบโต้อะไรได้ โดยแหล่งข่าวจากฮิซบอลเลาะห์บอกกับรอยเตอรส์ว่า ฮิซบอลเลาะห์จะไม่ร่วมตอบโต้กับอิหร่าน เพราะกังวลว่าอิสราเอลจะโจมตีเลบานอนครั้งใหม่อีก

 ขณะเดียวกัน สงครามโดยตรงระหว่างอิสราเอลกับอิหร่านนั้น อาจลุกลามกระทบไปยังชาติอาหรับอื่นๆ ซึ่งมีน่านฟ้าติดกัน และยังเป็นที่ตั้งของฐานทัพสหรัฐฯหลายจุด แหล่งข่าวระบุว่า บรรดาราชวงศ์อาหรับที่มีสายสัมพันธ์กับวองชิงตัน ได้มีการออกคำสั่งภายใน ให้ทางการชาติตนเลี่ยงการออกแถลงการณ์ยั่วยุใดๆ ที่อาจทำให้อิหร่านไม่พอใจ

 นักวิเคราะห์ระบุว่า ทรัมป์อาจใช้เหตุการณ์ปะทะล่าสุดนี้ ดึงอิหร่านกลับสู่โต๊ะเจรจาด้านนิวเคลียร์ เพราะสิ่งที่เห็นชัดเจนคือ จักรวรรดิอิหร่านกำลังถดถอย ซึ่งสิ่งที่จะชะลอได้ ไม่ใช่วิธีทางการทหาร แต่วิธีเดียวทำได้ นั่นก็คือ การกลับเข้าสู่การเจรจานั่นเอง

 อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์บางส่วนเชื่อว่า แม้กองทัพอิหร่านจะอ่อนแอกว่าสหรัฐฯและอิสราเอล แต่อิหร่านไม่มีวันยอมยกเลิกโครงการนิวเคลียร์ เพราะไม่อยากมีชะตากรรมเหมือนลิเบีย

 เนการ์ วอร์ตาซาวี ผู้เชี่ยวชาญด้านอิหร่าน บอกกับอัล จาซีราว่า เจ้าหน้าที่อิหร่านดูชะตากรรมชองมูอัมมาร์ กัดดาฟี อดีตผู้นำลิเบียเป็นกรณีศึกษษ เพราะกัดดาฟี ยอมตกลงยกเลิกการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ เพื่อแลกเปลี่ยนกับการที่สหรัฐฯผ่อนคลายการคว่ำบาตรในปี 2003

 แต่หลังจากนั้น 8 ปี มีการประท้วงเพื่อประชาธิปไตยในลิเบียซึ่งหนุนหลังโดยสหรัฐฯ จนนำไปสู่การโค่นอำนาจและสังหารกัดดาฟี

 วอร์ตาซาวี ระบุว่า อิหร่านไม่ต้องการมีเส้นทางนั้น และมีแนวโน้มจะเลือกเดินหน้าขยายโครงการนิวเคลียร์เพื่อตอบโต้การโจมตีของอิสราเอลนั่นเอง  

ที่มาข้อมูล : Al Jazeera, BBC, Bloomberg

ที่มารูปภาพ : Canva

avatar

TNNThailand