
สหรัฐฯ เตรียมเก็บค่าธรรมเนียมวีซ่าสำหรับผู้ที่จะเดินทางไปสหรัฐฯ เป็นการชั่วคราวเพิ่มอีก 250 ดอลลาร์ หรือกว่า 8,000 บาท สำหรับผู้ที่ยื่นขอวีซ่าชั่วคราวทุกประเภท รวมถึงประเภท B1/B2 หรือวีซ่าสำหรับท่องเที่ยวและธุรกิจ หมายความว่าคนไทยที่ในตอนนี้ จ่ายค่าธรรมเนียมวีซ่าอยู่ที่ 185 ดอลลาร์ หรือประมาณ 6,000 บาท อาจจะต้องจ่ายค่าขอวีซ่าเพื่อเดินทางท่องเที่ยวหรือติดต่อธุรกิจในสหรัฐฯ เพิ่มอีก 250 ดอลลาร์ รวมทั้งหมดเป็น 435 ดอลลาร์ หรือกว่า 14,000 บาท ซึ่งหลายคนอาจจะมองว่าแพงเกินไปและเลือกเดินทางไปเที่ยวประเทศอื่นแทน
การขึ้นค่าธรรมเนียมวีซ่าครั้งนี้ เป็นไปตามกฎหมายใหม่ตามนโยบายของ โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่ต้องการหารายได้เพิ่ม และเป็นส่วนหนึ่งของกฎหมาย One Big Beautiful Bill หรือกฎหมายที่ยิ่งใหญ่และงดงามของทรัมป์ ที่เพิ่งผ่านการโหวตของรัฐสภา โดยค่าธรรมเนียมวีซ่าที่ถูกเก็บเพิ่ม เงินตรงนี้จะถูกส่งเข้ากองทุนทั่วไปของกระทรวงการคลัง และแม้ตอนนี้จะยังไม่มีการประกาศชัดเจนว่าจะเริ่มเก็บธรรมเนียมวีซ่าเพิ่มขึ้นเมื่อไร แต่คาดว่าจะเริ่มมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 ตุลาคมนี้ ซึ่งเป็นวันที่เริ่มต้นปีงบประมาณใหม่
การขึ้นค่าธรรมเนียมวีซ่า หลายคนมองว่าไม่ต่างอะไรจากการตั้งกำแพงภาษี และผู้ที่ได้รับผลกระทบก็คือภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของสหรัฐฯ ที่จะมีรายได้ลดลง เพราะนักท่องเที่ยวลดน้อยลงจากการขึ้นค่าวีซ่า แต่ฝ่ายที่สนับสนุน การขึ้นค่าธรรมเนียมวีซ่า ก็มองว่าเป็นเรื่องที่ดี ที่จะทำให้สหรัฐฯ มีรายได้มากขึ้น เพื่อนำไปพัฒนาหน่วยงานต่าง ๆ ที่ดูแลเรื่องการเดินทางระหว่างประเทศให้มีความมั่นคงมากขึ้น
สรุปข่าว
สหรัฐฯ เตรียมเก็บค่าธรรมเนียมวีซ่าสำหรับผู้ที่จะเดินทางไปสหรัฐฯ เป็นการชั่วคราวเพิ่มอีก 250 ดอลลาร์ หรือกว่า 8,000 บาท สำหรับผู้ที่ยื่นขอวีซ่าชั่วคราวทุกประเภท รวมถึงประเภท B1/B2 หรือวีซ่าสำหรับท่องเที่ยวและธุรกิจ หมายความว่าคนไทยที่ในตอนนี้ จ่ายค่าธรรมเนียมวีซ่าอยู่ที่ 185 ดอลลาร์ หรือประมาณ 6,000 บาท อาจจะต้องจ่ายค่าขอวีซ่าเพื่อเดินทางท่องเที่ยวหรือติดต่อธุรกิจในสหรัฐฯ เพิ่มอีก 250 ดอลลาร์ รวมทั้งหมดเป็น 435 ดอลลาร์ หรือกว่า 14,000 บาท ซึ่งหลายคนอาจจะมองว่าแพงเกินไปและเลือกเดินทางไปเที่ยวประเทศอื่นแทน
การขึ้นค่าธรรมเนียมวีซ่าครั้งนี้ เป็นไปตามกฎหมายใหม่ตามนโยบายของ โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่ต้องการหารายได้เพิ่ม และเป็นส่วนหนึ่งของกฎหมาย One Big Beautiful Bill หรือกฎหมายที่ยิ่งใหญ่และงดงามของทรัมป์ ที่เพิ่งผ่านการโหวตของรัฐสภา โดยค่าธรรมเนียมวีซ่าที่ถูกเก็บเพิ่ม เงินตรงนี้จะถูกส่งเข้ากองทุนทั่วไปของกระทรวงการคลัง และแม้ตอนนี้จะยังไม่มีการประกาศชัดเจนว่าจะเริ่มเก็บธรรมเนียมวีซ่าเพิ่มขึ้นเมื่อไร แต่คาดว่าจะเริ่มมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 ตุลาคมนี้ ซึ่งเป็นวันที่เริ่มต้นปีงบประมาณใหม่
การขึ้นค่าธรรมเนียมวีซ่า หลายคนมองว่าไม่ต่างอะไรจากการตั้งกำแพงภาษี และผู้ที่ได้รับผลกระทบก็คือภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของสหรัฐฯ ที่จะมีรายได้ลดลง เพราะนักท่องเที่ยวลดน้อยลงจากการขึ้นค่าวีซ่า แต่ฝ่ายที่สนับสนุน การขึ้นค่าธรรมเนียมวีซ่า ก็มองว่าเป็นเรื่องที่ดี ที่จะทำให้สหรัฐฯ มีรายได้มากขึ้น เพื่อนำไปพัฒนาหน่วยงานต่าง ๆ ที่ดูแลเรื่องการเดินทางระหว่างประเทศให้มีความมั่นคงมากขึ้น
- ทรัมป์เป็นหลอดเลือดดำบกพร่องเรื้อรัง
- ทรัมป์เผยเจรจาการค้ากับอินเดียใกล้สำเร็จแล้ว
- สภาผู้แทนฯ สหรัฐ อนุมัติเงื่อนไขการอภิปรายร่าง "คริปโทเคอร์เรนซี" แล้ว
- สรท. ลุ้นไทยปิดดีลภาษีสหรัฐฯ ได้ที่ร้อยละ 18
- สหรัฐฯ เตรียมเก็บภาษีเท่ากันหมดกว่า 150 ประเทศ
- อินโดนีเซียเผยบรรลุข้อตกลงการค้ากับสหรัฐฯ หลังการเจรจาที่ไม่ธรรมดา
- อินโดนีเซียเจรจาสำเร็จ บรรลุข้อตกลงการค้ากับสหรัฐฯ แล้ว
