เรือท่องเที่ยวล่มในฮาลองเบย์ เสียชีวิต 34 คน

เรือท่องเที่ยวล่มในฮาลองเบย์ เสียชีวิต 34 คน

เกิดเหตุเรือท่องเที่ยวของเวียดนามล่มในฮาลองเบย์ หรือ อ่าวฮาลอง จากสภาพอากาศที่เลวร้ายเมื่อช่วงบ่ายวันเสาร์ (19 กรกฎาคม) ที่ผ่านมา เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 34 คน และสูญหายอีกนับสิบคน โดยผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่เป็นครอบครัวชาวเวียดนาม ที่เดินทางมาเที่ยวในกรุงฮานอย เมืองหลวงของประเทศ

ฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก ยังคงเป็นอุปสรรคต่อการค้นหาผู้รอดชีวิต โดยเบื้องต้นสามารถช่วยเหลือขึ้นมาจากน้ำได้เพียง 11 คนเท่านั้น แต่ปฏิบัติการช่วยเหลือยังคงดำเนินต่อมาตลอดทั้งคืน

Credit: VTV

สรุปข่าว

พบผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 34 ราย และอีกจำนวนมากที่ยังคงสูญหาย หลังจากที่เรือท่องเที่ยวของเวียดนาม “ล่ม” ในฮาลองเบย์ หรือ อ่าวฮาลอง จากสภาพอากาศที่เลวร้าย ทั้งพายุ ฟ้าร้อง ฟ้าผ่า และมีลูกเห็บตกในระหว่างเกิดเหตุด้วย

เกิดเหตุเรือท่องเที่ยวของเวียดนามล่มในฮาลองเบย์ หรือ อ่าวฮาลอง จากสภาพอากาศที่เลวร้ายเมื่อช่วงบ่ายวันเสาร์ (19 กรกฎาคม) ที่ผ่านมา เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 34 คน และสูญหายอีกนับสิบคน โดยผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่เป็นครอบครัวชาวเวียดนาม ที่เดินทางมาเที่ยวในกรุงฮานอย เมืองหลวงของประเทศ

ฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก ยังคงเป็นอุปสรรคต่อการค้นหาผู้รอดชีวิต โดยเบื้องต้นสามารถช่วยเหลือขึ้นมาจากน้ำได้เพียง 11 คนเท่านั้น แต่ปฏิบัติการช่วยเหลือยังคงดำเนินต่อมาตลอดทั้งคืน

Credit: VTV

สำหรับเรือลำที่เกิดเหตุ คือ Wonder Seas มีผู้โดยสารบนเรือ 48 คน และลูกเรืออีก 5 คน รวมเป็น 53 คน  โดยในจำนวนนี้เป็นเด็ก 20 คน ในระหว่างที่เกิดเหตุเกิดพายุรุนแรง  โดยผู้เห็นเหตุการณ์ระบุว่า ช่วงเวลาที่เกิดเหตุ ราว 14.00 น.วันเสาร์ ท้องฟ้ามืดครึ้มจนน่ากลัว และยังมีพายุลูกเห็บขนาดใหญ่ตกลงมา พร้อมกับฟ้าร้อง และฟ้าผ่าหลายครั้งด้วย

นายกรัฐมนตรีฟาม มินญ์ จิ๊ญ ได้แสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อครอบครัวผู้เสีวชีวิต

ขณะที่เจ้าหน้าที่เร่งสอบสวนหาสาเหตุของอุบัติเหตุ ว่าเรือที่ให้บริการท่องเที่ยวได้ดำเนินการอย่างเคร่งครัดต่อมาตรการต่าง ๆ หรือไม่

สำหรับฮาลองเบย์ เป็นส่วนหนึ่งของอ่าวตังเกี๋ย อยู่ทางเหนือของเวียดนาม ไม่ไกลนักจากกรุงฮานอย มีเกาะเล็กน้อยหลายร้อยแห่ง และได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติของ UNESCO  โดยในปี 2019 มีนักท่องเที่ยวเยี่ยมชมมากกว่า 4 ล้านคน

ที่มาข้อมูล : Reuters

ที่มารูปภาพ : AFP, VTV