จีน-บราซิลหารือสร้างต้นแบบของการพึ่งพาตนเอง

ทั้งจีนและบราซิลต่างพยายามนำเสนอตนเองในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมาในฐานะผู้ปกป้องระบบการค้าแบบพหุภาคีอย่างแข็งขัน ซึ่งตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิงกับท่าทีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ที่เดินหน้ากดดันด้วยมาตรการเก็บภาษีศุลกากร

การโทรศัพท์หารือของสี จิ้นผิง กับลูลา เกิดขึ้นเพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจากทรัมป์ประกาศเลื่อนเก็บภาษีศุลกากรต่อจีนออกไปอีก 90 วัน และหลังจากที่ลูลาเพิ่งส่งสัญญาณเมื่อสัปดาห์ก่อนว่า เขามีแผนจะหารือกับผู้นำอินเดียและจีน เพื่อพิจารณาการตอบโต้สหรัฐฯ อย่างสอดประสานกัน

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า สี จิ้นผิง ย้ำว่าความสัมพันธ์ระหว่างจีนและบราซิลอยู่ในระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ พร้อมระบุว่าจีนจะ “ทำงานร่วมกับบราซิลเพื่อเป็นแบบอย่างแห่งความเป็นเอกภาพและการพึ่งพาตนเองในหมู่ประเทศสำคัญของ Global South และร่วมกันสร้างโลกที่ยุติธรรมยิ่งขึ้นและโลกที่ยั่งยืนมากขึ้น”

เขายังกล่าวเพิ่มเติมว่า ทุกประเทศควรร่วมมือกันและต่อต้านลัทธิเฝ้าตัวฝ่ายเดียวและการกีดกันทางการค้าอย่างหนักแน่น ซึ่งถือเป็นถ้อยคำที่พาดพิงถึงนโยบายเก็บภาษีของสหรัฐฯ อย่างชัดเจน

ด้านทำเนียบประธานาธิบดีบราซิลแถลงว่าการสนทนาทางโทรศัพท์ครั้งนี้ใช้เวลาราว 1 ชั่วโมง โดยทั้งสองผู้นำได้หารือในประเด็นต่าง ๆ รวมถึงสงครามในยูเครน และการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

แถลงการณ์ยังระบุว่า ทั้งสองเห็นพ้องถึงบทบาทของ G20 และกลุ่ม BRICS ในการปกป้องระบบพหุภาคี และได้ตกลงขยายความร่วมมือในหลายสาขา เช่น สาธารณสุข น้ำมันและก๊าซ เศรษฐกิจดิจิทัล และดาวเทียม