สหรัฐฯ สกัดนักการทูตอิหร่านซื้อสินค้าขายส่ง-สินค้าฟุ่มเฟือย จำกัดการเดินทางในสหรัฐฯ

ทอมมี พิกอตต์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ แถลงเมื่อวันที่ 22 กันยายนว่า นักการทูตอิหร่านทุกคน รวมถึงเจ้าหน้าที่ที่ประจำอยู่ ณ คณะผู้แทนอิหร่านในนิวยอร์ก ต้องได้รับอนุมัติล่วงหน้าหากต้องการสมัครสมาชิกหรือซื้อสินค้าจากร้านค้าขายส่งในสหรัฐฯ

นอกจากนี้ นักการทูตอิหร่านยังถูกห้ามซื้อสินค้าฟุ่มเฟือยมูลค่ามากกว่า 1,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 32,000 บาท เช่น นาฬิกา เสื้อผ้าหนังหรือผ้าไหม ขนสัตว์ เครื่องประดับ น้ำหอม เครื่องใช้ไฟฟ้า รวมถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ขณะที่การซื้อรถยนต์มูลค่าเกิน 60,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 1.9 ล้านบาท ก็ถูกสั่งห้ามเช่นกัน นอกจากนี้ ผลิตภัณฑ์จำนวนมากที่จำหน่ายในสหรัฐฯ ไม่มีจำหน่ายในอิหร่าน ซึ่งอยู่ภายใต้การคว่ำบาตรที่เข้มงวด ก็ถูกห้ามขายให้กับนักการทูตของอิหร่านด้วย

พิกอตต์กล่าวว่า สหรัฐฯ จะไม่อนุญาตให้ระบอบการปกครองอิหร่านปล่อยให้ชนชั้นนำทางศาสนาไปจับจ่ายซื้อของในนิวยอร์ก ในขณะที่ประชาชนอิหร่านต้องเผชิญความยากจน โครงสร้างพื้นฐานทรุดโทรม และการขาดแคลนน้ำและไฟฟ้าอย่างหนักหน่วง

มาตรการจำกัดดังกล่าวยังครอบคลุมการเดินทาง โดยอนุญาตให้นักการทูตอิหร่านเดินทางได้เฉพาะเส้นทางที่จำเป็นต่อการไป-กลับระหว่างเขตสำนักงานใหญ่สหประชาชาติและสถานที่ปฏิบัติภารกิจทางการเท่านั้น ซึ่งเป็นข้อจำกัดที่เคยมีในอดีตแต่ครั้งนี้เข้มงวดยิ่งขึ้น

นอกจากอิหร่านแล้ว รัฐบาลทรัมป์ยังได้ปฏิเสธการออกวีซ่าแก่เจ้าหน้าที่จากปาเลสไตน์ รวมถึงประธานาธิบดีมาห์มูด อับบาส ทำให้ไม่สามารถเข้าร่วมการประชุมว่าด้วยการแก้ปัญหาสองรัฐที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 22 กันยายนได้

ประธานาธิบดีมาซูด เปเซชเคียน ของอิหร่าน มีกำหนดจะนำคณะผู้แทนอิหร่านเข้าร่วมการประชุม UNGA ในสัปดาห์นี้ ท่ามกลางแรงกดดันจากความเป็นไปได้ที่สหประชาชาติจะรื้อฟื้นมาตรการคว่ำบาตรทั้งหมดที่เคยถูกยกเลิกภายใต้ข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่าน

โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ย้ำอีกว่า ความมั่นคงของชาวอเมริกันคือสิ่งสำคัญที่สุด จะไม่ยอมให้อิหร่านใช้ข้ออ้างเรื่องการประชุม UNGA เพื่อเดินทางอย่างเสรีในนิวยอร์กและเผยแพร่วาระก่อการร้าย

เขาสรุปว่า มาตรการนี้คือการส่งสารชัดเจนว่า เมื่อสหรัฐฯ บอกว่าจะยืนเคียงข้างประชาชนอิหร่าน เราหมายความตามนั้นจริง” และถือเป็นการยืนยันถึงความมุ่งมั่นของวอชิงตันที่จะสนับสนุนชาวอิหร่านในการเรียกร้องความรับผิดชอบจากรัฐบาลและการมีชีวิตที่ดีกว่า