
“ซึงรี” อดีตสมาชิกวงบอยแบนด์ “บิ๊กแบง” (Big Bang) หนึ่งในตำนานแห่งวงการ K-Pop ที่เพิ่งถูกตัดสินว่ามีความผิดและต้องโทษจำคุก 3 ปี ในคดีค้าประเวณีและอีกหลายข้อหาที่เกี่ยวข้องกับไนต์คลับ “เบิร์นนิง ซัน” (Burning Sun) ที่เขาเป็นหุ้นส่วนอยู่ด้วย และกลายเป็นที่วิพาษ์วิจารณ์อย่างหนักในสังคมเกาหลีใต้และทั่วโลก
แต่เหตุอาจซ้ำรอยอีกครั้ง…
ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ข่าวเกี่ยวกับการปราบปรามกลุ่มอาชญากรรมหลอกลวงออนไลน์ในกัมพูชาโดยรัฐบาลเกาหลีใต้ถูกพูดถึงอย่างกว้างขวาง มีการส่งตัวชาวเกาหลีใต้ที่ถูกจับและพบว่ามีความเชื่อมโยงกับศูนย์สแกมเมอร์ในกัมพูชากลับประเทศเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย สืบเนื่องมาจากเหตุที่นักศึกษาชาวเกาหลีใต้ที่ถูกหลอกลวงให้ไปทำงานที่กัมพูชาถูกแก๊งสแกมเมอร์ทรมานจนเสียชีวิต และนี่คือจุดเริ่มต้นที่ทำให้เกาหลีใต้เริ่มขุดคุ้ยและกวาดล้างผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับแก๊งสแกมเมอร์ในกัมพูชาอย่างจริงจัง
-ซึงรี เอี่ยวกลุ่มอาชญากรรมกัมพูชา ?
ชื่อของ “ซึงรี” กลับมาปรากฏในหน้าสื่อเมื่อไม่กี่วันก่อน หลังจากที่สำนักข่าว Korea JoongAng Daily รายงานว่า ซึงรี ได้เดินทางไปที่ไนต์คลับแห่งหนึ่งที่มีชื่อว่า “Prince Brewing” ในกัมพูชา แต่พบว่าปัจจุบันไนต์คลับแห่งนี้ได้ปิดกิจการลงแล้วและกำลังเตรียมเปิดใหม่ภายใต้เจ้าของรายใหม่ Korea JoongAng Daily รายงานว่า ในวันที่ซึงรีเดินทางมาที่ไนต์คลับแห่งนี้มีคนบันทึกภาพของซึงรีได้ในขณะที่เขากำลังพูดกับฝูงชนบนเวทีถึงความชื่นชอบของเขาต่อกัมพูชา เขากล่าวว่าตอนที่เขาบอกกับคนอื่นว่าจะมากัมพูชา หลายคนได้ถามเขาว่าที่นั่นอันตรายหรือไม่ ซึ่งซึงรีได้ตอบกลับด้วยคำสบถที่หยาบคาย ก่อนจะบอกว่ากัมพูชาคือประเทศที่ดีที่สุดในทวีปเอเชีย ไม่เพียงเท่านี้ ซึงรียังได้ประกาศว่าสักวันหนึ่งเขาจะพา “จี ดรากอน” (G-Dragon) อดีตเพื่อนร่วมวงของเขามาที่ไนต์คลับแห่งนี้ในกัมพูชาด้วย
นอกจากคำพูดของซึงรีที่อ้างไปถึง จี ดรากอนจะถูกวิจารณ์อย่างหนักแล้ว แต่สิ่งที่กลายเป็นประเด็นขึ้นมาคือ ไนต์คลับ Prince Brewing ที่ซึงรีปรากฏตัวเป็นคลับที่ดำเนินการโดยบริษัท Prince Enterprises หรือ Prince Holdings ซึ่งเป็นบริษัทสัญชาติกัมพูชา แต่ถูกสหรัฐฯ รวมถึงอังกฤษ ระบุว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังกลุ่มอาชญากรรมในกัมพูชา จนนำไปสู่กระแสวิพากษ์วิจารณ์และคาดเดาในช่วงไม่กี่วันมานี้ ว่า “ซึงรี” อดีตสมาชิกบิ๊กแบง อาจมีความเชื่อมโยงกับเครือข่ายอาชญากรรมต่าง ๆ ในกัมพูชาหรือไม่
อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีการยืนยันความเชื่อมโยงใด ๆ ระหว่างซึงรี กับ Prince Holdings อย่างเป็นทางการ แม้ว่าไนต์คลับ Prince Brewing จะถูกมองว่ามีความเกี่ยวข้องกับ Prince Holdings ด้านแหล่งข่าวท้องถิ่นระบุว่าโดยทั่วไปแล้วไนต์คลับแห่งนี้ดำเนินการในฐานะแบรนด์ของสถานบันเทิงเท่านั้น แต่เมื่อช่วงต้นสัปดาห์นี้รัฐบาลเกาหลีใต้ได้ประกาศ ว่าอาจคว่ำบาตรทางการเงินธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสแกมเมอร์ในกัมพูชาซึ่ง Prince Holdings ก็หนีไม่พ้น และรัฐบาลของประธานาธิบดีอี แจ-มยอง ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเกาหลีใต้เร่งสอบสวนว่า Prince Holding Group นั้นมีสาขาในกรุงโซลหรือไม่ เพื่อเดินหน้าสอบสวนเอาผิดตามกฎหมายต่อไป
สรุปข่าว
“ซึงรี” อดีตสมาชิกวงบอยแบนด์ “บิ๊กแบง” (Big Bang) หนึ่งในตำนานแห่งวงการ K-Pop ที่เพิ่งถูกตัดสินว่ามีความผิดและต้องโทษจำคุก 3 ปี ในคดีค้าประเวณีและอีกหลายข้อหาที่เกี่ยวข้องกับไนต์คลับ “เบิร์นนิง ซัน” (Burning Sun) ที่เขาเป็นหุ้นส่วนอยู่ด้วย และกลายเป็นที่วิพาษ์วิจารณ์อย่างหนักในสังคมเกาหลีใต้และทั่วโลก
แต่เหตุอาจซ้ำรอยอีกครั้ง…
ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ข่าวเกี่ยวกับการปราบปรามกลุ่มอาชญากรรมหลอกลวงออนไลน์ในกัมพูชาโดยรัฐบาลเกาหลีใต้ถูกพูดถึงอย่างกว้างขวาง มีการส่งตัวชาวเกาหลีใต้ที่ถูกจับและพบว่ามีความเชื่อมโยงกับศูนย์สแกมเมอร์ในกัมพูชากลับประเทศเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย สืบเนื่องมาจากเหตุที่นักศึกษาชาวเกาหลีใต้ที่ถูกหลอกลวงให้ไปทำงานที่กัมพูชาถูกแก๊งสแกมเมอร์ทรมานจนเสียชีวิต และนี่คือจุดเริ่มต้นที่ทำให้เกาหลีใต้เริ่มขุดคุ้ยและกวาดล้างผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับแก๊งสแกมเมอร์ในกัมพูชาอย่างจริงจัง
-ซึงรี เอี่ยวกลุ่มอาชญากรรมกัมพูชา ?
ชื่อของ “ซึงรี” กลับมาปรากฏในหน้าสื่อเมื่อไม่กี่วันก่อน หลังจากที่สำนักข่าว Korea JoongAng Daily รายงานว่า ซึงรี ได้เดินทางไปที่ไนต์คลับแห่งหนึ่งที่มีชื่อว่า “Prince Brewing” ในกัมพูชา แต่พบว่าปัจจุบันไนต์คลับแห่งนี้ได้ปิดกิจการลงแล้วและกำลังเตรียมเปิดใหม่ภายใต้เจ้าของรายใหม่ Korea JoongAng Daily รายงานว่า ในวันที่ซึงรีเดินทางมาที่ไนต์คลับแห่งนี้มีคนบันทึกภาพของซึงรีได้ในขณะที่เขากำลังพูดกับฝูงชนบนเวทีถึงความชื่นชอบของเขาต่อกัมพูชา เขากล่าวว่าตอนที่เขาบอกกับคนอื่นว่าจะมากัมพูชา หลายคนได้ถามเขาว่าที่นั่นอันตรายหรือไม่ ซึ่งซึงรีได้ตอบกลับด้วยคำสบถที่หยาบคาย ก่อนจะบอกว่ากัมพูชาคือประเทศที่ดีที่สุดในทวีปเอเชีย ไม่เพียงเท่านี้ ซึงรียังได้ประกาศว่าสักวันหนึ่งเขาจะพา “จี ดรากอน” (G-Dragon) อดีตเพื่อนร่วมวงของเขามาที่ไนต์คลับแห่งนี้ในกัมพูชาด้วย
นอกจากคำพูดของซึงรีที่อ้างไปถึง จี ดรากอนจะถูกวิจารณ์อย่างหนักแล้ว แต่สิ่งที่กลายเป็นประเด็นขึ้นมาคือ ไนต์คลับ Prince Brewing ที่ซึงรีปรากฏตัวเป็นคลับที่ดำเนินการโดยบริษัท Prince Enterprises หรือ Prince Holdings ซึ่งเป็นบริษัทสัญชาติกัมพูชา แต่ถูกสหรัฐฯ รวมถึงอังกฤษ ระบุว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังกลุ่มอาชญากรรมในกัมพูชา จนนำไปสู่กระแสวิพากษ์วิจารณ์และคาดเดาในช่วงไม่กี่วันมานี้ ว่า “ซึงรี” อดีตสมาชิกบิ๊กแบง อาจมีความเชื่อมโยงกับเครือข่ายอาชญากรรมต่าง ๆ ในกัมพูชาหรือไม่
อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีการยืนยันความเชื่อมโยงใด ๆ ระหว่างซึงรี กับ Prince Holdings อย่างเป็นทางการ แม้ว่าไนต์คลับ Prince Brewing จะถูกมองว่ามีความเกี่ยวข้องกับ Prince Holdings ด้านแหล่งข่าวท้องถิ่นระบุว่าโดยทั่วไปแล้วไนต์คลับแห่งนี้ดำเนินการในฐานะแบรนด์ของสถานบันเทิงเท่านั้น แต่เมื่อช่วงต้นสัปดาห์นี้รัฐบาลเกาหลีใต้ได้ประกาศ ว่าอาจคว่ำบาตรทางการเงินธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสแกมเมอร์ในกัมพูชาซึ่ง Prince Holdings ก็หนีไม่พ้น และรัฐบาลของประธานาธิบดีอี แจ-มยอง ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเกาหลีใต้เร่งสอบสวนว่า Prince Holding Group นั้นมีสาขาในกรุงโซลหรือไม่ เพื่อเดินหน้าสอบสวนเอาผิดตามกฎหมายต่อไป
-Prince Holdings Group คืออะไร ?
ตามรายงานของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ Prince Holdings เป็นกลุ่มธุรกิจข้ามชาติที่มีสำนักงานใหญ่ในกัมพูชาดำเนินธุรกิจหลักในด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ บริการทางการเงิน และบริการผู้บริโภค โดยมี “เฉิน จื้อ” (Chen Zhi) ในวัย 38 ปี หรือที่รู้จักกันในชื่อ “วินเซนต์” เป็นผู้ก่อตั้งและเป็นประธานบริหารของ Prince Holding Group โดยสหรัฐฯ ระบุว่า เฉิน จื้อ ถูกตั้งข้อหาสมคบคิดฉ้อโกงทางอินเทอร์เน็ตและ สมคบคิดฟอกเงิน จากการสั่งการให้กลุ่มบริษัท Prince Group ดำเนินกิจการในศูนย์สแกมเมอร์ทั่วกัมพูชาและมีการบังคับใช้แรงงาน
The Guardian รายงานว่า การที่เฉิน จื้อ ก้าวขึ้นมามีฐานะร่ำรวยอย่างรวดเร็วทำให้เขามีอิทธิพลโดยเฉพาะทางการเมืองในกัมพูชาอย่างมาก มีรายงานว่าเขาได้รับบทบาทเป็นที่ปรึกษาให้กับฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีของกัมพูชา ซึ่งแม้ว่าเฉิน จื้อ จะเกิดที่ประเทศจีน แต่เขากลับเป็นผู้ถือหลากหลายสัญชาติ อาทิ ไซปรัสและวานูอาตู และยังถือสัญชาติกัมพูชาอีกด้วย
- Prince Holdings ถูกคว่ำบาตร
เมื่อวันที่ 14 ตุลาคมที่ผ่านมา รัฐบาลสหรัฐฯ และอังกฤษ ได้ประกาศคว่ำบาตรกลุ่มบริษัทดังกล่าวรวมถึงตัว เฉิน จื้อ โดยกล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการดำเนินงานของศูนย์หลอกลวงอย่างผิดกฎหมายในกัมพูชาและภูมิภาคอื่น ๆ ซึ่งมีการฉ้อโกงเหยื่อทั่วโลก รวมถึงทรมานและค้ามนุษย์แรงงาน
กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ กล่าวว่ามีผู้คนถูกกักขังโดยไม่สมัครใจในศูนย์สแกมเมอร์กัมพูชาที่เชื่อมโยงกับกลุ่มบริษัทนี้ และถูกบังคับให้มีส่วนร่วมในแผนการฉ้อโกงหลายรูปแบบ ซึ่งทำให้เหยื่อทั้งในสหรัฐฯ และทั่วโลก ต้องสูญเงินหลายพันล้านดอลลาร์ และจากการสืบสวนเกี่ยวกับตัว เฉิน จื้อ ทำให้สหรัฐฯ และอังกฤษตัดสินใจยึดบิทคอยน์มูลค่า 15 พันล้านดอลลาร์ และอายัดทรัพย์สินของเฉิน จื้อ ในลอนดอนด้วย
คาช ปาเทล ผู้อำนวยการ FBI กล่าวในแถลงการณ์เกี่ยวกับปฏิบัติการนี้ว่า FBI และพันธมิตรได้ดำเนินการปราบปรามการฉ้อโกงทางการเงินที่ “ใหญ่ที่สุด” ครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ ขณะที่ ทัช สุขะ โฆษกกระทรวงมหาดไทยของกัมพูชาให้สัมภาษณ์ว่ารัฐบาลกัมพูชาจะให้ความร่วมมือกับประเทศอื่น ๆ ในคดีเกี่ยวกับ เฉิน จื้อ ซึ่งฝ่ายกัมพูชากล่าวว่า พวกเขาไม่ได้ปกป้องบุคคลที่ละเมิดกฎหมาย แต่ไม่ได้กล่าวหาว่ากลุ่ม Prince Group หรือเฉิน จื้อ กระทำความผิดตามข้อกล่าวหาของทางสหรัฐฯ และอังกฤษ
ทั้งนี้ The Guardian รายงานด้วยว่าแม้ว่าจะมีการคว่ำบาตรครั้งใหญ่อย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนกับ Prince Holdings แต่การจับกุมใด ๆ ก็ตามที่จะเกิดขึ้น อาจสร้างช่องว่างให้กลุ่มอาชญากรข้ามชาติอื่นเข้ามาแทรกแซงได้ในวันที่อุตสาหกรรมหลอกลวงออนไลน์เช่นนี้ขยายวงไปในอีกหลายประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งสำหรับ “เฉิน จื้อ” ยังอยู่ในระหว่างการตามล่าตัวมาดำเนินคดี
- สม รังสี จัดตั้งรัฐบาลกัมพูชาอิสระ มุ่งหน้าฟื้นฟูประชาธิปไตยที่แท้จริง
- ครั้งแรกในประวัติศาสตร์ เกาหลีใต้นับ "คู่รักเพศเดียวกัน" เป็น "คู่สมรส" ในสำมะโนประชากร
- “การทูตเชิงปฏิบัตินิยม” บททดสอบใหญ่ของ "อี แจ-มยอง" บนเวทีเอเปค
- หน่วยข่าวกรอกเกาหลีใต้เผยชาวเกาหลีนับพันเอี่ยวสแกมกัมพูชาและส่วนใหญ่ "ไม่ใช่เหยื่อ"
- เกาหลีใต้ส่วนใหญ่ไม่ต้องการรวมชาติกับเกาหลีเหนือ
ที่มาข้อมูล : koreajoongangdaily / The Guardian / CNA
ที่มารูปภาพ : Reuters / Getty Images
