สหรัฐฯ ขีดเส้นตายปี 2027 ให้ยุโรปเป็นแกนหลักด้านการป้องกันของนาโต

Share on Line Share on Facebook Share on X
สหรัฐฯ ขีดเส้นตายปี 2027 ให้ยุโรปเป็นแกนหลักด้านการป้องกันของนาโต

เจ้าหน้าที่กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ เปิดเผยกับคณะนักการทูตในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ในสัปดาห์นี้ว่า สหรัฐฯ ต้องการให้ยุโรปเข้ามารับบทบาทหลักในการดูแลขีดความสามารถด้านการป้องกันเชิงยุทธวิธีของนาโต ทั้งระบบข่าวกรอง อาวุธยุทโธปกรณ์ ไปจนถึงระบบขีปนาวุธ ภายในปี 2027 กำหนดเส้นตายที่ทำให้หลายประเทศยุโรปมองว่า “แทบเป็นไปไม่ได้”

ข้อมูลดังกล่าวมาจากแหล่งข่าว 5 รายที่รับรู้การหารือ รวมถึงเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ หนึ่งราย โดยการส่งสัญญาณนี้เกิดขึ้นในการประชุมระหว่างทีมเจ้าหน้าที่เพนตากอนที่กำกับนโยบายด้านนาโต กับคณะผู้แทนยุโรปหลายประเทศ

สรุปข่าว

สหรัฐฯ ประกาศขีดเส้นตายภายในปี 2027 ยุโรปต้องเป็นแกนหลักด้านการป้องกันของนาโต ทั้งระบบข่าวกรอง อาวุธยุทโธปกรณ์ ไปจนถึงระบบขีปนาวุธ

เจ้าหน้าที่กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ เปิดเผยกับคณะนักการทูตในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ในสัปดาห์นี้ว่า สหรัฐฯ ต้องการให้ยุโรปเข้ามารับบทบาทหลักในการดูแลขีดความสามารถด้านการป้องกันเชิงยุทธวิธีของนาโต ทั้งระบบข่าวกรอง อาวุธยุทโธปกรณ์ ไปจนถึงระบบขีปนาวุธ ภายในปี 2027 กำหนดเส้นตายที่ทำให้หลายประเทศยุโรปมองว่า “แทบเป็นไปไม่ได้”

ข้อมูลดังกล่าวมาจากแหล่งข่าว 5 รายที่รับรู้การหารือ รวมถึงเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ หนึ่งราย โดยการส่งสัญญาณนี้เกิดขึ้นในการประชุมระหว่างทีมเจ้าหน้าที่เพนตากอนที่กำกับนโยบายด้านนาโต กับคณะผู้แทนยุโรปหลายประเทศ

หากการถ่ายโอนภาระนี้เกิดขึ้นจริง รูปแบบความร่วมมือระหว่างสหรัฐฯ กับชาติพันธมิตรสำคัญ จะเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ

ในการหารือ เจ้าหน้าที่เพนตากอนระบุว่าสหรัฐฯ ยังไม่พอใจกับความคืบหน้าที่ยุโรปทำได้ แม้จะมีการเสริมกำลังตั้งแต่รัสเซียบุกยูเครนครั้งใหญ่ในปี 2022 แหล่งข่าวเผยว่า เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ เตือนชัดเจนว่า หากยุโรปไม่สามารถทำตามเส้นตายปี 2027 ได้ สหรัฐฯ อาจหยุดเข้าร่วมกลไกประสานงานด้านการป้องกันบางส่วนของนาโต และมีรายงานด้วยว่า สมาชิกสภาคองเกรสบางส่วนทราบเรื่องสัญญาณกดดันนี้ และแสดงความกังวลเช่นกัน

ความสามารถด้านการป้องกันเชิงยุทธวิธี หมายถึง ทรัพยากรที่ไม่เกี่ยวกับนิวเคลียร์ ตั้งแต่กำลังพลไปจนถึงอาวุธ แต่เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ไม่ได้ให้รายละเอียดว่ามาตรวัดความสำเร็จจะเป็นแบบใด

นอกจากนี้ ยังไม่ชัดว่าการกำหนดเส้นตายปี 2027 เป็นท่าทีอย่างเป็นทางการของรัฐบาลทรัมป์ทั้งหมด หรือเป็นความเห็นของเจ้าหน้าที่เพนตากอนบางส่วนเท่านั้น เพราะในสหรัฐฯ เองก็มีความเห็นแตกต่างกันมากเกี่ยวกับบทบาทของสหรัฐฯ ในยุโรป

เจ้าหน้าที่หลายประเทศในยุโรปบอกตรงกันว่า เส้นตายนี้ “ไม่สมเหตุสมผล” เพราะแม้จะเพิ่มงบประมาณมากเพียงใด ยุโรปก็ยังไม่สามารถทดแทนความสามารถเฉพาะทางของสหรัฐฯ ได้ทันในระยะสั้น

ยุโรปยังเผชิญคอขวดด้านการผลิตยุทโธปกรณ์ ขณะที่สหรัฐฯ เองก็ผลักดันให้ยุโรปซื้ออาวุธจากสหรัฐฯ แต่ระบบอาวุธที่ต้องการมากที่สุดก็อาจใช้เวลาส่งมอบหลายปี

ความสามารถเฉพาะทาง เช่น ระบบข่าวกรองและการสอดแนมของสหรัฐฯ ซึ่งมีบทบาทสำคัญอย่างมากในสงครามยูเครน ก็เป็นสิ่งที่ “ไม่สามารถซื้อได้”

โฆษกของนาโตระบุเพียงว่า ชาติยุโรปได้เริ่มรับผิดชอบด้านความมั่นคงของทวีปมากขึ้น แต่ไม่แสดงความคิดเห็นเรื่องเส้นตายปี 2027

ด้านโฆษกเพนตากอน กล่าวว่า สหรัฐฯ ยืนยันชัดเจนว่าต้องการให้ยุโรปเป็นผู้นำด้านการป้องกันเชิงยุทธวิธีของยุโรปเอง และสหรัฐฯ ยังคงร่วมมือผ่านกลไกของนาโต เพื่อให้พันธมิตรแข็งแกร่งในระยะยาว

ขณะที่ยุโรปยอมรับข้อเรียกร้องของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าต้องรับผิดชอบด้านความมั่นคงของทวีปมากขึ้น พร้อมประกาศเพิ่มงบป้องกันประเทศครั้งใหญ่ โดยสหภาพยุโรปตั้งเป้าว่า ยุโรปต้องพร้อมป้องกันตนเองภายในปี 2030 และต้องเร่งปิดช่องว่างด้านระบบป้องกันภัยทางอากาศ โดรน การโจมตีไซเบอร์ สารเสบียง และอีกหลายมิติ ซึ่งผู้เชี่ยวชาญมองว่า เป้าหมายนี้ก็ยากมากเช่นกัน

รัฐบาลทรัมป์วิจารณ์ยุโรปเรื่องงบป้องกันประเทศมานาน แต่ท่าทีต่อนาโตกลับไม่แน่นอนนัก

ระหว่างหาเสียงปี 2024 ทรัมป์ตำหนิชาติยุโรปบ่อยครั้ง และถึงขั้นบอกว่าจะปล่อยให้ปูตินบุกประเทศนาโตที่ไม่ยอมจ่ายงบประมาณตามเป้า แต่ในการประชุมสุดยอดนาโตเมื่อเดือนมิถุนายน เขากลับชื่นชมยุโรปอย่างมาก หลังสมาชิกตกลงเพิ่มเป้าหมายงบป้องกันประเทศเป็น 5% ของจีดีพีตามแผนที่สหรัฐฯ เสนอ

ไม่นานมานี้ ทรัมป์มีท่าทีสลับระหว่างแข็งกร้าวต่อรัสเซีย กับการเปิดโอกาสเจรจาเรื่องสงครามยูเครน ซึ่งยุโรปเผยว่าแทบไม่มีส่วนร่วมในกระบวนการเจรจาใด ๆ

รองรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าวในการประชุม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศนาโตว่า ชาติยุโรปควรรับผิดชอบด้านความมั่นคงของยุโรปอย่างชัดเจน 

ที่มาข้อมูล : AFP

ที่มารูปภาพ : AFP

แท็กบทความ

นาโตอเมริกายุโรป
การป้องกันประเทศ
งบประมาณ